BOY : เรื่องเล่าวันหยุด


   วันนี้ (24 มิถุนายน 50) เป็นวันหยุด ขอนำเรื่องเล่าที่นอกเหนือจากงานประจำมาแบ่งปันให้ชาว IT ได้ทราบครับ

    มีเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นกับผมแบบสด ๆ ร้อน ๆ เมื่อวานนี้เองครับ เมื่อสัปดาห์ที่แล้วคุณแม่โทรมาหาผมที่ทำงาน บอกผมว่า "บอย ไปซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าอะไรมาหรือเปล่า ทางบริษัท ..... (ไม่ขอระบุชื่อแล้วกัน) เขาแจ้งมาว่า จับฉลากผู้โชคดีได้ชื่อผม ให้ไปรับรางวัล 1 ชิ้นที่บริษัท มีของรางวัลมากมาย ผมฟังแล้วยังงง ๆ อยู่ว่าผมไปส่งฉลากชิงโชคตอนไหน ผมซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้ามาที่บ้านก็จริง แต่ก็นึกไม่ออกว่าตัวเองส่งใบรับประกันสินค้าไปชิงโชคตอนไหน

     เมื่อวันเสาร์ผมไปหาคุณแม่ที่บ้าน แม่ผมนำซองจดหมายจากบริษัท.... มาให้ผมอ่าน ซึ่งผมก็ยังงง ๆ อยู่ดี ในจดหมายแจ้งว่าได้จับฉลากใบรับประกันสินค้าตั้งแต่ปี 2540-2550 แล้วได้รายชื่อผม ขอให้ผมไปรับรางวัลกับทางบริษัท .....

     ผมชวนคุณแม่ไปรับรางวัลกับผมที่บริษัท... ผมจอดรถหน้าบริษัท.. มีพนักงานผู้ชายถักผมว่า มารับของรางวัลหรือครับ ผมตอบสั้น ๆ ว่า ครับ ทางพนักงานขอดูบัตรประชาชนผม เพราะผู้ที่ไปรางวัลต้องเป็นเจ้าของรางวัลจริง ๆ ไม่ให้ส่งผู้แทนมารับรางวัล บังเอิญว่าผมไม่ได้พกบัตรประชาชน เพราะบัตรประชาชนเจ้าหน้าที่การเงินของคณะยึดของผมไว้เลย เนื่องจากทางคณะฯ ต้องเบิกเงินที่ธนาคารเป็นประจำ และเจ้าหน้าที่การเงินไม่อยากมาคอยทวงบัตรประชาชนที่ผม เพราะว่าผมต้องเซ็นเบิกเงินฝากบัญชีของคณะ และต้องแนบบัตรประชาชนของเจ้าของบัญชีด้วย

      เมื่อพนักงานขายของบริษัททราบว่า ผมทำงานอยู่ที่ม.นเรศวร ก็ชวนผมกับคุณแม่คุยรายละเอียดเกี่ยวกับม.นเรศวร เสร็จแล้วก็ให้ผมไปเลือกของรางวัล ผมเห็นของรางวัลแล้วผมก็ไม่ค่อยอยากได้เท่าไร เพราะว่าเป็นของธรรมดาทั่ว ๆ ไป   แต่เมื่อเป็นของฟรีก็เลือกมา 1 ชิ้น
เป็นกะทะเคลือบ 1 ใบ (กระตุกต่อมกิเลสได้ระดับหนึ่ง) เสร็จแล้วพนักงานขายก็ชวนผมคุย แล้วบอกว่าในจดหมายระบุว่า ผมเป็นผู้โชคดีที่ได้รับการประกาศรายชื่อในโทรทัศน์เป็นรางวัลพิเศษอีก 1 รางวัล เป็นอักษรตัววิ่ง (ไม่รู้ว่าทีวีช่องไหนนะครับ) เพราะเป็นในเวลางาน พนักงานแจ้งผมว่าให้ผมไปติดต่อกับทางบริษัท หรือจะให้เค้าติดต่อให้ก็ได้ ผมเลยบอกว่าให้คุณช่วยติดต่อให้ก็แล้วกัน เค้าแจ้งผมว่า สำหรับผู้โชคดีที่จะได้รับรางวัลดังกล่าวจะต้องมีรายชื่ออยู่ในลำดับที่ 1-50 เท่านั้น เสร็จแล้วเค้าบอกว่า ขอเวลา 2 นาทีคุยกับทางบริษัท หลังจากนั้นเค้ากลับมาบอกผมว่า คุณโชคดีมากเลยครับ คุณเป็นผู้โชคดีได้ลำดับที่ 28 มีสิทธิ์ลุ้นรับรางวัลพิเศษอีก 1 รางวัลจากทางบริษัท

          แต่ก่อนที่เค้าจะให้ผมรางวัลพิเศษ เค้าแจ้งผมว่า เป็นกฎของทางบริษัทที่ต้องแนะนำสินค้าโปรโมตให้ลูกค้าทราบก่อน ช่วงที่เค้าแนะนำสินค้าโปรโมต เค้าสังเกตกริยาท่าทางคุณแม่ผมด้วย ดูว่าไม่ค่อยสนใจการแนะนำสินค้าของเค้าเท่าไร หลังจากนั้นเค้าจึงบอกว่า เพื่อไม่ให้เสียเวลาผมกับคุณแม่ เค้าให้ผมจับฉลาก ซึ่งเค้าเตรียมมาเป็นปึก เป็นซองสีชมพู โดยแนะนำให้ผมทราบว่า ฉลากที่จับได้จะมีเงื่อนไข 3 อย่าง คือ

           1. ถ้าจับได้พบข้อความว่า ฟรี หมายถึงได้รับสินค้านั้นไปฟรี
           2. ถ้าจับได้พบข้อความว่า Thank you หมายถึงไม่ได้รับสินค้า
           3. ถ้าจับได้พบข้อความว่า VIP BONUS หมายถึง จะได้รับของรางวัลพิเศษฟรีจากประธานบริษัท

          พนักงานบริษัทแจ้งผมว่า ทางบริษัทจะมีการจัดงานใหญ่ เพื่อฉลองการเปิดสาขาใหม่ ขึ้นในวันที่ 10 กุมภาพันธ์ 2551 ที่โรงแรมแกรนด์ริเวอร์ไซด์ พิษณุโลก ภายในงานจะมีการเชิญนักร้องลูกทุ่งชื่อดังมาร่วมงาน รางวัลพิเศษภายในงานคือ รถกระบะ (4ประตู) ยี่ห้อ ISUZU จำวน 3 คัน รถมอเตอร์ไซด์ ทองคำ และเครื่องใช้ไฟฟ้าอีกมากมาย เค้าบอกผมว่าถ้าคุณพี่จับฉลากได้รางวัลใหญ่ผมขอเบียร์ 2 ลังได้ไหมครับ ผมก็พยักหน้าบอกว่าได้ครับ

          หลังจากที่แนะนำเสร็จเค้าให้ผมจับฉลาก เค้าบอกให้ผมตั้งใจอธิฐานให้ดี ๆ ระหว่างที่ผมจับมีคนเข้ามาที่บริษัทโดยตลอด มารับของรางวัล ปรากฎว่าฉลากที่ผมจับได้มีสินค้าที่ผมได้รับรางวัลจำนวน 5 รายการ และมีคูปองเป็นเงินสดอีกจำนวน 3,000 บาท พอเห็นเค้าดีใจกับผมมากขอจับมือ พนักงานของบริษัทออกมาดีใจกับผมและแจ้งว่าสินค้าที่ผมจับได้เป็นสินค้าโปรโมท ทางบริษัทจะให้เลือกได้เพียง 1 อย่างเท่านั้น บอกผมว่าให้ผมทำใจไว้ด้วย เพราะปกติไม่มีลูกค้าคนไหนจับฉลากได้เหมือนผม และที่สำคัญคูปองที่ผมได้ไม่สามารถรับเป็นเงินสดได้ นั้นหมายถึง ผมสามารถแลกสินค้าอะไรก็ได้จากทางบริษัท 1 ชิ้นโดยไม่ต้องนำมูลค่าของคูปองไปลด แต่สามารถเลือกได้ 1 ชิ้นเลย ซึ่งจะขอแลกในวันนี้หรือแลกในวันจัดงานใหญ่ของบริษัทก็ได้ ที่สำคัญพิเศษ คือ ผมเป็น 1 ใน 7 ของผู้โชคดีในอำเภอเมืองพิษณุโลก ที่มีสิทธิ์ได้รับรางวัลพิเศษจากประธานบริษัท ผมเป็นคนที่ 5 มีผู้โชคดีเหมือนผมผ่านไปแล้ว 4 คน ปีที่แล้วจัดงานที่จังหวัดเชียงใหม่ รางวัลที่ประธานบริษัทมอบให้คือ ทองคำแท่งหนัก 10 บาท  ปีนี้ยังไม่ทราบว่าคืออะไร

         พนักงานบริษัทขออนุญาตผม 2 นาทีคุยกับทางบริษัทใหญ่ ว่าสินค้าที่ผมจับได้เป็นสินค้าโปรโมท และมีจำนวนหลายชิ้น ทางบริษัทจะสามารถอนุมัติให้ได้หรือเปล่า สรุปว่า ทางบริษัทอนุมัติให้ผมได้สินค้าทั้งหมดที่จับได้ มีมูลค่าทั้งหมด 6 หมื่นกว่าบาท เลขานุการประธานบริษัท ขอคุยทางโทรศัพท์กับผม แสดงความยินดีที่ได้รับรางวัล และให้ผมถ่ายรูปเพื่อเป็นพรีเซนเตอร์ให้กับทางบริษัทด้วย พนักงานบริษัทแจ้งผมว่าค่าถ่ายพรีเซนเตอร์ให้กับสินค้าของบริษัท จะมีเงินให้ด้วยซึ่งคิดเป็นนาที ฟังแล้วยังนึกงง ๆ อยู่ว่า ทำไมผมถึงโชคดีมากขนาดนี้

          หลังจากสรุปของรางวัลไปมากมายแล้ว เค้าบอกผมว่าจะรับของรางวัลไปเลยไหมครับ ถ้ารับไปเลยมีค่าใช้จ่ายที่ผมต้องจ่ายให้กับทางบริษัทเนื่องจากเป็นสินค้าได้ฟรี ต้องเสียภาษี ค่าลิขสิทธิ์ของสินค้า เนื่องจากเป็นสินค้านำเข้า คิดเบ็ดเสร็จแล้วต้องเสียค่าใช้จ่าย 30 % ของมูลค่าสินค้าที่ผมได้รับรางวัล มีมูลค่ารวมทั้งสิ้น 20,000 กว่าบาท ผมบอกว่า ผมไม่ได้พกเงินมากขนาดนั้น และบัตรเครติดผมก็ไม่มี ผมไม่สามารถจ่ายให้ได้ ทำให้พนักงานหลายคนรู้สึกผิดหวังกับผม ................


            อ่านเรื่องเล่าที่เกิดขึ้นจริงกับผมแล้ว ชาว IT ลาดกระบังคิดเห็นอย่างไรบ้างครับ

                                                                                        บอย สหเวช
                                                                                         24 มิ.ย. 50 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #kmitl#boy#เรื่องเล่า
หมายเลขบันทึก: 105911เขียนเมื่อ 24 มิถุนายน 2007 13:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 21 พฤษภาคม 2012 21:23 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (11)
  • สวัสดีค่ะ

ถ้าเป็นดิฉัน ดิฉันขอไม่เอาล่ะค่ะ 

ดูท่าทางเงื่อนไขภาระอะไรมันมากมายเสียจริง

 

เหมือนเป็นการขายสินค้า อีกรูปแบบค่ะ

บางท่านอาจจะตัดสินใจที่จะรับสินค้าชนิดนั้นก็ได้ค่ะ เหมือนถูกรางวัล แต่กลับลืมคิดไปว่าตัวเองจะต้องเสียตังค์ :-)

อ่านแล้วก็ไม่คิดอะไรนอกจากคุณกำลังจะโดนหลอกแล้วล่ะค่ะ เดี๋ยวนี้มีอะไรแปลกๆเยอะนะคะเนี่ย ขอบคุณนะคะสำหรับประสบการณ์ที่จะทำให้คนในสังคมรู้ทันเล่ห์เหลี่ยมของคนพวกนี้
  • ขอบคุณ คุณเนปาลี เด็กดอย และคุณแปลก ที่ร่วมแสดงความคิดเห็นสำหรับบันทึกนี้

เดี๋ยวนี้วิธีการนี้เยอะมากเลยค่ะ  ที่บ้าน คุณแม่ก็เคยเป็นผู้โชคดีได้รับ รถยนต์ 1 คัน ตอนแรกก็รู้สึกตื่นเต้นเหมือนกัน ก็โทรศัพท์ไปบอกน้า ๆ สรุปว่า 555  โชคดีกันทั้งครอบครัวเลย เพราะทุกบ้านเป็นผู้โชคดีเช่นกัน  ก็เลยอุปมา อุปมัยว่า  พวกเราคงเ็ป็นผู้โชคร้ายแน่ ๆ ถ้าหลงเชื่อเค้า

เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว (ไม่แน่ใจเรื่องเวลานะค่ะ) ดูรายการเรื่องเล่าเช้านี้  ข่าวว่าตำรวจไปจับบริษัทประเภทนี้อยู่  แล้วกำลังประกาศว่าท่านใดมีเบาะแสในลักษณะนี้ให้แจ้งด้วย  หรือผู้ใดเป็นผู้ที่เสียหาย  ให้ไปแจ้งความด้วยเพื่อจะได้เอาผิดกับบุคคลเหล่านั้นหลาย ๆ กะทงหน่อย

ขอเล่าต่อเรื่อง mind map ต่อจากคุณเด็กดอย ค่ะ หลังจากได้เข้าอบรมพร้อมกับคุณเด็กดอย ในคืนนั้นจึงได้ทดลองนำงานชิ้นหนึ่ง คือ การขอกำหนดตำแหน่งทางวิชาการของอาจารย์ตาม ประกาศ ก.พ.อ. 50 ที่ออกมาใหม่ ๆ มาลองเล่นดู โอโฮ มันวิเศษจริง ๆ สามารถทำให้งานของเรามีแผนภาพการทำงานที่ชัดเจน และเข้าใจง่ายขึ้นมาก เลย ตอนนี้ทำไปได้สัก 60% ได้แล้ว (ใช้เวลา 2 คืน) รู้สึกภูมิใจมากที่สามารถทำได้ จึงได้นำมาอวดเพื่อนๆ จะทำต่อให้เสร็จสมบูรณ์ และจะได้นำเสนอเป็นตัวอย่างให้กับน้อง ๆ ในคณะไอที และที่คิดว่าจะทำต่อไป คือ จะใช้ mind map มาจัดการองค์ความรู้ภายในสำนักงานคณบดีทั้งหมด และในเรื่องของการประกันคุณภาพการศึกษาด้วย

ปล. ที่หายเงียบไปเพราะกำลังยุ่งมากเลยค่ะ

สวัสดีค่ะ คุณบอย

         พี่ที่ทำงานก็เจอเหตุการณ์ลักษณะนี้เหมือนกันคะ แต่เป็นการติดต่อสื่อสารทางโทรศัพท์มือถือ

       เอารายละเอียดมาฝากค่ะ  ติดตามจากบันทึกนี้ค่ะ

  • ขอบคุณ
    P
    คุณอภิญญา  ที่นำเรื่องเล่ามาแบ่งปันกันครับ
  • เยี่ยมมากเลยครับคุณวนิดา P
    ที่นำความรู้ที่ได้จากอบรม Mind map
    มาประยุกต์ใช้ในสำนักงานคณบดี และเรื่อง
    ประกันคุณภาพ
  • ขอบคุณคุณวนิดามากครับ ที่นำเรื่องจากการอบรมมาเล่าสู่กันฟัง

สวัสดีครับ

P คุณรัตติยา
  •  Blog นี้ ผมเปิดใหม่สำหรับลปรร.กับชาว IT
  • คุณรัตติยา เป็นแฟนพันธุ์แท้จริง ๆ ที่เข้ามาเปิดอ่าน
  • ขอบคุณ คุณรัตติยาที่นำประสบการณ์มาแบ่งปันกันครับ

อย่าไปเชื่อมัน มันหลอกคุน แม่เพื่อนฉันโดนหลอกแล้ว อย่าไปเชื่อมัน

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท