nuy
นางสาว กนกวรรณ บุญอิ่ม

โชตชะตาหรือฟ้ากำหนดให้เป็น


นี้หรือชีวิต

               เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นเมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา  ในซอยแถวบ้าน  ซึ่งปกติในช่วงเวลาเย็นจะมีเด็กเล็กๆมาวิ่งเล่น  แต่สักพักเสียงเด็กที่วิ่งเล่นก็เงียบและหายเข้าบ้านไป  ข้าพเจ้ามองรอบๆถึงสาเหตุที่เด็กรีบเข้าบ้าน  ถึงได้รู้ว่ามีผู้ชายสติไม่ดีกำลังเดินคำรามมาทางนี้  ความตกใจข้าพเจ้าก็หนีเข้าบ้านเหมือนกัน   แต่ด้วยความอยากรู้จึงได้ไปถามคนข้างบ้าน  ถึงได้รู้ว่าคนสติไม่ดีคนนี้ต้องทานยาระงับประสาททุกเดือน  ยาที่รับประทานชุดละประมาณ  400  กว่าบาท  แต่ใน 2 เดือนที่ผ่านมาไม่ได้รับประทานยาเลย อาการจึงกำเริบ  สักพักแม่ของชายผู้นี้ซึ่งแก่ชรามากแล้วก็ออกเล่าให้ฟังว่าขาดยาระงับประสาทนานแล้วไม่มีเงินไปซื้อ  ในช่วง2-3วันนี้อาการกำเริบมากขึ้นบางคืนก็ชอบเอามีดมาถือเล่น  ข้าพเจ้าถามไปว่าในครอบครัวมีอยู่กันกี่คน   คนเป็นแม่บอกว่า  มีอยู่กัน 5 คนทำงานแล้วแต่ไม่มีคนสนใจ  เมื่อก่อนผู้ชายคนนี้เป็นคนปกติ  ทำงานหาเงินให้ครอบครัวตลอด  แต่ช่วงหลังเกิดอาการเครียดจนทำให้เป็นแบบนี้ 

                ข้าพเจ้าได้แต่มองคนเป็นแม่ร้องไห้  คนในซอยตกลงรวมเงินกันให้พาไปโรงพยาบาล  โดยติดต่อตำรวจให้ช่วยพาไป  ทุกคนพูดกันเป็นเสียงเดียวกันว่า  มีลูกหลานมากมายแต่ไม่มีใครสนใจ ในเวลาที่เขาปกติทำงานหาเงินได้เขามีความสำคัญ  แต่เวลาที่เขาต้องการความช่วยเหลือกับไม่ได้รับสิ่งตอบแทน  (แม้แต่ความรัก ความสนใจ) 

                 ในช่วงที่รอตำรวจ  ชายผู้นี้ได้ร้องขอไม้กระดานและดินสอ  เขานอนลงกลางถนนและลงมือวาดรูปพระเจ้าอยู่หัว  ไม่ถึงสิบหน้าที  ชายผู้นี้สามารถวาดรูปพระเจ้าอยู่หัวได้เสร็จสมบูรณ์  พร้อมยกภาพขึ้นและร้องตะโกนว่าทรงพระเจริญๆ  และสิ่งสำคัญภาพนั้นมีความเหมือนมากๆๆ  ข้าพเจ้าและชาวบ้านถึงกับทึ้งในความสามารถของเขา  แม่เขาบอกว่าเขารักในหลวงมาก  ในตอนนั้นข้าพเจ้ามีความรู้สึกหลายอย่างทั้งประทับใจในความสามารถและเศร้าใจกับสภาพที่เห็น  ถ้าเขาได้รับการดูแลที่ดี  ได้รับความรักจากคนในครอบครัว  สังคมคงมีศิลปินนักวาดภาพมือดีคนหนึ่งแน่ๆ  ข้าพเจ้าคิดว่าในใจของผู้ชายคนนี้คงมีพระเจ้าอยู้หัวอันเป็นทีรักและเคารพเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจเป็นแน่

                 ภาพผู้ชายสติไม่ดีเดินถือรูปวาดพระเจ้าอยู้หัวที่มาจากฝีมือของเขา  ปากตะโกนว่าทรงพระเจริญๆ  มันเป็นภาพที่สะเทือนใจมาก  ในสังคมยังมีอีกมากกับสภาพแบบนี้  ถ้าคนในครอบครัวไม่ให้ความรัก  เอาใจใส่ดูแล  แล้วพวกเขาจะอยู่ได้อย่างไร  หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดแล้วว่าถ้าต้องกลายมาเป็นคนที่สติไม่ดี  จะต้องอยู่คนเดียว       ไม่อยากโทษโชคชะตา  เพราะพวกเราสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ 

                 คุณคิดเหมือนกันไหมค่ะ

หมายเลขบันทึก: 104366เขียนเมื่อ 18 มิถุนายน 2007 19:24 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:05 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)

สวัสดีค่ะ

  ถ้าคนในครอบครัวไม่ให้ความรัก  เอาใจใส่ดูแล  แล้วพวกเขาจะอยู่ได้อย่างไร  หรือว่ามันเป็นสิ่งที่ถูกกำหนดแล้วว่าถ้าต้องกลายมาเป็นคนที่สติไม่ดี  จะต้องอยู่คนเดียว       ไม่อยากโทษโชคชะตา  เพราะพวกเราสามารถช่วยแก้ไขปัญหาได้ 

                 คุณคิดเหมือนกันไหมค่ะ

น่าเศร้าจริงๆ สงสารมาก แล้วเราจะช่วยอย่างไรคะ

ให้ร.พ.มารับตัวไปหรือคะ ไม่ค่อยมีประสบการณื แต่น่าจะแจ้งร.พ.หรือตำรวจช่วยนำไปส่งที่ปลอดภัยคือร.พ.และให้การรักษาค่ะ

เรื่องครอบครัวสำคัญมากๆค่ะ

อยากให้ดูที่นี่ค่ะ

สวัสดีดีค่ะ

     ก่อนอื่นต้องขอขอบคุณค่ะ ที่แวะเข้าไปทักทายในบล็อค ยินดีที่ได้รู้จักนะค่ะ...ชอบนามสกุล...มีความหมายดีจัง....อ้อ ! ขอบคุณสำหรับคำแนะนำดีๆ ว่างๆ เข้าไปแลกเปลี่ยนความคิดเห็นกันอีกนะค่ะ....
      สำหรับเรื่องราวที่ได้อ่าน...รู้สึกเศร้าใจบวกกับความทึ้งจัง โลกมนุษย์มันก็งี้แระ มีทั้งคนดี คนไม่ดี รวมถึงคนที่สติฟั่นเฟือน ที่ไม่รับรู้อะไรทั้งสิ้น...มีชีวิตอยู่ในโลกของตัวเองบนความวุ่นวายของโลกปัจจุบัน...แต่ก็ยังคงคำว่า "รักพ่อหลวง และยกย่องพ่อหลวงของเราเสมอ...ถึงสติไม่ดี  แต่ก็ยังสามารถเอ่ยคำว่า "ทรงพระเจริญ" ได้อย่างเต็มปากเต็มคำ...มันน่ายกย่องยิ่งนัก...ถ้ามีใครที่สามารถเอื้ออำนวยตรงนี้ได้  และยื่นมือเข้าไปช่วย นำเค้าไปรักษา  มันก็น่าจะเยียวยาได้บ้าง ไม่มากก็น้อย....ยังงัยๆ ก็ขอเอาใจช่วย

                                                                    อ้อย   
     

ขอบคุณสำหรับข้อคิดเห็นค่ะ  สมัยนี้มีคนที่มีสภาพทางจิตใจทีผิดปกติอยู่มาก  ถึงจะมีโรงพยาบาลในประเทศที่คอยให้การรักษาหลายแห่งก็ตาม แต่ก็ไม่สามารถรองรับได้หมดจริงไหมค่ะ  ทางที่ดีสถาบันครอบครัวหันหน้ามาให้ความรัก  ความสำคัญกับคนในครอบครัวกันดีกว่าค่ะ  นี้แหละค่ะเป็นยารักษาที่ดีที่สุด

สวัสดีค่ะ 

         แวะมาทักทายยามเที่ยงค่ะ...เรื่องเหตุการณ์ทางภาคใต้ที่ครู Nuy ให้เล่าให้ฟัง อยากจะเล่าเหมือนกาน แต่ก็รับรู้มาจากคนอื่นๆ ที่เคยเจอกับเหตุการณ์ และรับรู้ข่าวสารจากทางวิทยุ และโทรทัศน์เหมือนๆ กับคนอื่นๆ ที่ได้รับรู้กัน แต่ยังไม่เคยประสบด้วยตัวเองสักครั้ง มีแต่บุคคลรอบข้าง...แต่ก็ไม่รู้เหมือนกานว่าวันไหน เราจะบังเอิญโชคร้ายประสบพบเจอกับตัวเองเข้าสักวันหรือไม่...ได้แต่ภาวนาว่า...ขออย่าได้พบเจอกับตนเองและครอบครัวเลยเถิด    

ขอให้พี่ sirintip ปลอดภัยจาภัยอันตรายทุกอย่างนะค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท