แล้ววันนี้เราก็ได้เรียนรู้ว่า ความเชี่ยวชาญและทักษะที่มีอยู่ในคนนั้น ภาษา KM ก็ต้องเรียก Tacit knowledge มันสำคัญจริง ๆ หนอ แล้วก็พอจะยืนยันได้เลยว่า การดูแลคนไข้นั้นต้องร่วมกันหลายๆฝ่ายจึงจะดีนะ เรื่องก็มีอยู่ว่า วันนี้มีชายไทยอายุ 60 ปี มาตรวจที่ OPD ให้ประวัติว่ามีอาการปัสสาวะกระปริบปรอย มา 4 วัน จากประวัติเก่าพบว่า ผู้ป่วยมาให้ประวัติและรักษาเช่นนี้มาบ่อยครั้ง เป็นช่วงๆ แพทย์จึงพิจารณาว่า ให้ผู้ป่วยไปตรวจ HIV ผู้ป่วยก็ถูกส่งไป Pre counselling ตามขั้นตอน พี่ที่ให้คำปรึกษา ก็เริ่มพูดคุยตาม step (อาจจะข้ามบางช่วงนะคะ ตัดเฉพาะประโยคสำคัญมานะ)
พี่พยาบาล: ลุงเป็นไง คิดว่าตัวเองมีความเสี่ยงอะไรบ้าง
ลุง: ก็มีสิ เมียลุงน่ะมีชู้
พี่พยาบาล: เอแล้วลุงมีลูกมั๊ย ลุง: มีสิ มีตั้ง 4 คน แต่ก็คงไม่ใช่ลูกลุงซักคนหรอก คงเป็นลูกชู้หมดนั่นแหล่ะ
พี่พยาบาล (เริ่มสงสัย) : แล้วลุงอยู่กับใครหล่ะตอนนี้
ลุง: อยู่คนเดียว ไม่มีใครอยู่ด้วยหรอ
พี่พยาบาล (สงสัยมาก ทักษะ สัญชาตญาณของนักให้คำปรึกษา) : แล้วคนอื่นเขาไปไหนหมดหล่ะลุง
ลุง: เมียมันเลิกกันไปนานแล้ว 20 ปี ลูกๆ ก็ไม่อยู่ด้วย เขาหาว่าลุงชอบเครียด แต่ก่อนลุงทำงานเป็นช่างซ่อมเครื่องบิน อยู่การบินไทย แต่เพื่อนร่วมงานมันชอบให้ลุงหลอกลวง เอาของไม่ดีมาซ่อม ลุงเลยไม่อยากทำ ตอนนี้มาทำไร่ที่นี่ เพื่อนบ้านก็ไม่ดี ชอบว่าเราบ้า แต่เราไม่ได้บ้า ซะหน่อยแค่บางทีเราเครียด
พี่พยาบาล (พอจะระแคะระคาย แล้วว่า ลุงคงมีปัญหาทางจิตอะไรบางอย่างซะแล้ว ก็เล่นไม่ไว้ใจใคร ใครๆ ก็ไม่ดีไปหมดซะอย่างนี้ ) : แล้วลุงเครียดบ่อยมั๊ย
ลุง: ก็มีบ้าง แต่ถ้าเครียดลุงจะเอาหนังสือธรรมมะมาอ่าน
พี่พยาบาล: ใช้ธรรมะเป็นที่ยึดเหนี่ยวหรือคะ ลุง : ใช่ เนี่ยมาวันนี้นะ ไม่รู้จะมีใครขึ้นบ้านขโมยของหรือเปล่า เพื่อนบ้านไว้ใจไม่ได้
พี่พยาบาล: ลุงเคยมาหาหมอเรื่องเครียดบ้างมั๊ย
ลุง: เคยเหมือนกัน นานแล้ว ที่ศรีธัญญา แต่ไมได้กินหรอก ก็ลุงไม่ได้เป็นโรคจิตอะไรนี่ (ฮั่นแน่ สารภาพมาแล้ว)
พี่พยาบาล (มั่นใจแล้ว ลุงนี่ พาไปซะไกล ดีนะ ไม่หลงประเด็น คิดว่าต้องพาลุงไปหาหมอจิตเวชให้ได้ เริ่มหว่านล้อม) : ลุงที่โรงพยาบาลนี่นะเขาก็มีคนไข้เครียดเยอะ แต่เค้าไม่มีที่ยึดเหนี่ยวเหมือนลุงนะ หมอเลยต้องพาเขาไปหาหมอที่โรงพยาบาลจิตเวช เอารถไปส่งด้วยนะ นี่ดีนะลุงยังมีมอเตอร์ไซด์ เขานะไม่มีอะไรกันเลยนะลุง นี่ถ้าลุงได้มาช่วยหมอให้กำลังใจเขา มาแนะนำให้เขาใช้ธรรมะช่วยนี่จะดีมากเลยนะเนี่ย ลุง: หน้าตาภูมิใจขึ้นมาทันที
พี่พยาบาล: งั้นลุงจะลองไปด้วยกันมั๊ย ซักวัน
ลุง : โอยไม่ไปหรอก ลุงไม่ได้เป็นอะไรนี่
พี่พยาบาล: ก็ยังไม่ได้บอกว่าลุงเป็นไรค่ะ แต่อยากให้ลุงไปช่วยดูแลคนกลุ่มนี้ให้เขามีกำลังใจ ได้คำแนะนำดีๆ จากลุงระหว่างอยู่บนรถก็ยังดีนะ
ลุง: ท่าทีเริ่มอ่อนลง แล้วพูดว่า จะไปเมือ่ไหร่หล่ะ
พี่พยาบาล: (หลงกลเราบ้างหล่ะลุง ดีใจจริง ๆ)
โปรดติดตามตอนต่อไป ว่าลุงจะไปจริงเปล่า