เมื่อได้ศึกษาและอ่านหนังสือจากท่านผู้รู้ รวมทั้งเข้าไปอ่านบันทึกของสมาชิก G2K หลายท่านที่เป็นผู้คร่ำหวอดในวงการพัฒนาบริหารองค์กรและความรู้ พบว่าสิ่งที่องค์กรต่างๆ ให้ความสนใจมากๆ ก็คือการพัฒนาคนให้มีการใฝ่หาข้อมูล มาแลกเปลี่ยน ทดลองทำจนเกิดการต่อยอดความรู้กันอยู่เสมอ เพื่อให้มีความรู้ขยายวงอย่างกว้างขวางขึ้นอันจะนำไปสู่การพัฒนาองค์กรให้อยู่รอดปลอดภัย
จากโจทย์ที่พบภายในบริษัทเอง การทำให้คนคิดได้ คิดเก่ง ก็ต้องทำให้คนกล้าเรียนใฝ่รู้ เคยถามที่ปรึกษาจากบริษัทต่างชาติที่เคยเข้ามาเป็นอาจารย์สอนด้าน HRD ก็ตอบไม่ได้ชัดเจน ว่าเราจะสร้างคนพันธุ์นี้ได้อย่างไร ตัวเองยังเคยสงสัยว่า พนักงานบางคนชอบเข้าอบรม ขยันอ่านหนังสือ ขยันพูดคุยหาความรู้ใส่ตัว แต่บางคนก็ถือว่าเมื่อทำงานแล้ว ยิ่งถ้าเป็นงานที่เน้นการปฎิบัติการ ก็ยิ่งห่างไกลกับการใฝ่หาความรู้ใส่ตัว
มีโอกาสได้พบบทความที่ชื่อว่า "Creating a Learning Culture" แค่เห็นชื่อก็โดนทันที ต้องหาเวลาอ่านให้ได้ และวันนี้ที่ทำงานสงบเงียบนั่งอยู่คนเดียวจึงได้หยิบมาอ่าน ทำให้พบว่า ในบริษัทฝรั่งเขาทำเรื่องนี้อย่างจริงจัง ขออนุญาตตัดตอนมาเล่าให้ฟังเป็นบางส่วนนะคะ
กรณีแรก เป็นบริษัทชื่อว่า Ikea ทำเกี่ยวกับเฟอร์นิเจอร์ตกแต่งบ้าน จำไม่ผิดน่าจะปักหลักอยู่ใกล้ๆ บ้านเรานี่แหละค่ะ ที่ชอบก็คือ เขาบอกว่าเน้น Actual Learning กลยุทธ์ที่ใช้ก็คือ
ที่บริษัทเอง ก็เริ่มมีผู้ใหญ่หลายคนเห็นว่าเรื่องนี้สำคัญ และคงต้องหาทางสร้างองค์กร และสอดแทรกเรื่องการเรียนรู้ให้ไปฝังตัวอยู่ในวัฒนธรรมองค์กรข้อใดข้อหนึ่งให้ได้
ทำยังไงให้คนไม่อิ่มเรียน เหมือนกินข้าว ไม่ได้กินก็หิว กินได้กินดี มีพลัง ไม่กินก็หิวตาลาย ถ้าสร้างกลไกให้อยากเรียนโดยธรรมชาติ เหมือนความหิวได้น่าจะดี คงต้องควานหาวิธีเรียนใหม่ๆที่แปลก โดนใจ ให้ตระหนักว่าเรียนแล้วได้อะไร ไม่เรียนจะอืดเหมือนนกทึดทืออย่างไร ถ้าจะให้มีสุขในการเรียน ต้องฝึกอีกมาก เพราะวัฒนธรรมคนไทยจะเรียนง่ายๆ ถ้าไม่เดินชน จะไม่สนใจ ชอบที่จะให้ความรู้เข้ามา ไม่เรียนเชิงรุก เขายังไม่เป็นผู้เรียนที่แท้จริง อยู่ในระดับมือสมัครเล่น มีงาน มีบริษัทเลี้ยงดู สบายๆ เลยดิ้นรนการเรียนน้อย เพราะนึกว่าเพียงพอแล้ว สบายมาแล้ว
สวัสดีค่ะ ท่านครูบาสุทธินันท์
ขออนุญาตเรียกเต็มยศหน่อยนะคะ ขอบพระคุณที่ครูบากรุณาเข้ามาให้ความเห็นในบันทึกนี้ค่ะ
จริงทีเดียวค่ะ ถ้าอยู่อย่างอิ่ม มักจะไม่เห็นคุณค่าของอาหารที่อยู่ตรงหน้าแม้ว่า ผู้ปรุงจะสรรหาสิ่งที่ดีๆ ผิดกับคนที่อดอยาก แม้แต่ข้าวเปล่าก็ต้องรับประทาน อาจจะต้องทำให้ผู้ที่อิ่มรู้สึกหิวเสียก่อน หรือทำให้อยาก (อย่างที่ครูบาแนะนำต้องโดนใจ) แล้วดิ้นรนแสวงหาเอง
สวัสดีค่ะ
ที่เขาไม่เรียนรู้ เพราะไม่อยากรู้ค่ะ
การจะกระตุ้น คงต้องพยายามทำเป็นกลุ่มและจัดเป็นกิจกรรมค่ะ สนุกๆค่ะ ต้องdesignแบบให้เข้ากับเขาค่ะ
และต้องทำต่อเนื่องค่ะ