นามสมมติ
นาย เอกรินทร์ นามสมมติ อินทร์ชลิต

แสงน้อย ค่อยๆสว่าง


     วันนี้* ผ่านไปหน้าตึกอธิการบดี  เห็นกลุ่มนิสิตประมาณ 50 คน  ยืนถือป้ายและมีการใช้เครื่องเสียง  เหมือนจะเป็นการประท้วงอะไรสักอย่าง  เห็นแล้วน่าสนใจดีลองแวะเข้าไปดูว่าคนกลุ่มนั้นเค้ามาทำอะไรกัน  เมื่อเข้าไปถึงอ่านป้ายและฟังเสียงที่เค้าประท้วง  ก็ได้รู้ว่ากลุ่มคนที่มา คือ กลุ่มแกนนำการต่อต้านการลงทะเบียนเรียนระบบใหม่

(1)

     เมื่อก่อนมหาวิทยาลัยใช้ระบบที่ใครมาลงทะเบียนก่อนก็จะได้สำรองที่นั่งก่อน  คนที่ลงทะเบียนทีหลังจะเสียโอกาสในการลงทะเบียน  ดูแล้วก็ยุติธรรมดีสำหรับผู้ที่มีความกระตือรือร้นในการลงทะเบียนที่จะได้ที่นั่งก่อน  แต่เมื่อช่วงภาคฤดูร้อน  มหาวิทยาลัยได้เปลี่ยนระบบการเรียนเป็นระบบใหม่  แบบการจองที่นั่งไว้ก่อนแล้ว  จะจองกี่คนก็ได้  แต่ทางมหาวิทยาลัยระบุจำนวนคนที่เปิดรับในแต่ละกลุ่มเรียน  ลักษณะเหมือนจะเป็นการบีบให้หาเงินมาจ่ายในรายวิชาที่จองไว้ให้เร็ว  เพื่อจะได้เรียนในวิชานั้น

     เมื่อมหาวิทยาลัยทำแบบนี้  ก็ย่อมส่งผลกระทบต่อมวลนิสิตของมหาวิทยาลัย  เมื่อประเทศเราอยู่ใต้ระบบทุนนิยม  ฐานะทางครอบครัวของแต่ละคนก็ย่อมแตกต่างกันออกไป  สำหรับคนที่ครอบครัวมีความพร้อมก็สามารถนำเงินมาจ่ายได้ทันที  และอีกด้านหนึ่งของคนที่ไม่มีความพร้อมหล่ะ  เค้ามีสิทธ์ที่จะเลือกลงวิชาที่เขาอยากเรียน  แต่เค้าจะได้เรียนก็ต่อเมื่อมีเงินมาจ่ายเร็วๆ      

     ผมได้ยินเรื่องนี้ครั้งแรกในช่วงการเรียนภาคฤดูร้อน ( คนกลุ่มนี้เริ่มแสดงตัวขึ้นต่อต้าน ) จากปากคำของเพื่อนร่วมชั้นบางคน  เมื่อได้ฟังเรื่องระบบลงทะเบียนแบบใหม่นี้แล้ว  ผมรู้สึกว่า  มันก็ไม่ต่างอะไรกับที่เราไปตลาด  ผู้ค้าก็อยากให้เราซื้อของเงินสด  ใครมีเงินสดมามาให้ก่อนก็ได้สินค้านั้นไปก่อน  กลุ่มที่มีเครดิต  ก็ได้สิทธ์ในการซื้อเช่นกัน  แล้วกลุ่มที่มีทุนน้อยหล่ะจะทำอย่างไร  มันไม่แปลกนักในภาพรวมของระบบทุนนิยมในประเทศเรา  

     แต่แปลกใจที่ระบบแบบนี้เกิดขึ้นในมหาวิทยาลัย  สงสัยว่ามีมหาวิทยาลัยอื่นที่ใช้ระบบนี้ในการลงทะเบียนหรือไม่  ได้ผลอย่างไร  และทำไมมหาวิทยาลัยนี้จึงได้เปลี่ยนรูปแบบการลงทะเบียน  ระบบเก่ามีข้อด้อยอย่างไร  หรือระบบใหม่ดีกว่าอย่างไร

     จากที่ได้ลงทะเบียนระบบใหม่  รู้สึกว่ามีขั้นตอนที่มามากกว่าระบบสำรองที่นั่ง  บางขั้นตอนทำให้สับสน  เช่น  เมื่อจองรายวิชาต่างๆ จนเสร็จแล้ว  เราเห็นตารางเรียน  แต่เมื่อยืนยันการจองแล้ว  เราไม่เห็นตารางเรียน  จนกว่าเราจะไปจ่ายเงินในรายวิชาที่จอง  ตารางเรียนจึงจะขึ้นมาให้เห็น  อีกอย่างหนึ่งที่พบ  คือ  การลงทะเบียนเพิ่มไม่สามารถทำในระบบ Regiter ได้  ในสัปดาห์แรกของการเปิดเรียนมีคนไปติดต่อที่งานทะเบียนเยอะมากๆ  ( มากกว่าคนที่มา action หลายร้อยเท่า )

(2)

     การลงทะเบียนระบบใหม่ทำให้มีปัญหา  แต่ก็อยู่ที่วิธีการแก้ปัญหาของแต่ละคน  บางคนก็เร่งให้พ่อแม่ผลิตเงินมาให้อย่างเร่งด่วนเพื่อที่จะได้เรียนในวิชาที่ต้องการ   บางคนก็ตัดสินใจยังลงไม่ทะเบียนในบางวิชาเพราะไม่อยากจะกดดันพ่อแม่  บางคนก็คิดที่จะประท้วงการลงทะเบียนระบบใหม่

     จะว่าไปแล้ว  ปัญหานี้เป็นเรื่องใหญ่ของมวลนิสิตในมหาวิทยาลัย  แต่มีผู้ประท้วงเพียงไม่กี่คน  ภาพที่สะท้อนออกมาก็เหมือนกับเรื่องนี้ไม่ได้เป็นปัญหาอะไรเลยกับนิสิต  ถ้าเป็นปัญหาของมวลนิสิตจริง  ทำไม่ไม่มีกลุ่มคนที่มากพอมาเรียกร้อง  ลำพังเพียงแค่คนไม่ถึง 50 คน  จะมาเรียกร้องเรื่องนี้คงจะไม่เกิดผล

     นิสิตส่วนมากว่าเขาคิดว่าเป็นปัญหา แต่ไม่คิดที่จะเรียกร้องสิทธิ์  ได้แต่บ่นใจ ( ถึงจะบ่นมากคนแต่คงจะไม่มีเสียงออกมา  ให้ใครได้รับรู้  )  แล้วก้มหน้ารับ

     ผมนั่งดูสักพัก  เจ้าหน้าที่ของกองกิจการนิสิตก็มาถึงเหตุการณ์  ตัวแทนของอธิการบดีลงมาเจรจาว่าจะเปิดห้องประชุมคุยกันหรือไม่  ทางกลุ่มผู้ประท้วงเกิดความลังเลใจ  หลังจากที่ปรึกษากันก็ตัดสินใจไม่เข้าไปเสนอปัญหา  

    

 ( 3 )

     ข้อด้อยของการประท้วงครั้งนี้  ผู้ประท้วงน้อยมากๆ  ( ทำอย่างไรจึงจะรวมนิสิตแสดงพลังที่มากพอที่จะมีพลังประกาศว่าเรื่องนี้เป็นปัญหาของมวลนิสิต )  เนื้อหาในการปราศรัย ( ปลุกระดมมากไป บางครั้งไร้แก่น ) ความเด็ดเดี่ยวแน่นอนในกลุ่มแกนนำ ( ไม่เข้าประชุมกับตัวแทนอธิการ )  แม้จะเสียดายที่ผู้ประท้วงไม่ขึ้นไปคุยกับตัวแทนอธิการบดี  แต่ก็ดีใจที่อย่างน้อยก็มีกลุ่มคนที่แสดงตัวออกมาว่าเห็นเรื่องนี้เป็นปัญหา  และต้องการที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ

12 มิ.ย. 2549

           

 
 

 

คำสำคัญ (Tags): #ที่ว่าง
หมายเลขบันทึก: 103101เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2007 20:56 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:01 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)
  • มุมมองแหลมคมทีเดียวนะครับ



  • สิ่งที่สะท้อนออกมานั้น แสดงให้เห็นถึง การยึดมั่นในจุดหมายปลายทาง หากมีจุดหมายที่ชัดเจน ต้องแสดงออกไปให้ถึงจุดหมาย
  • กลุ่มคนที่ประท้วง ศึกษาและเข้าใจปัญหาเป็นอย่างดี แต่กลับถอยมาเฉยๆ เมื่อตัวแทนอธิการบดีจะเปิดโอกาสให้ แต่กลับละทิ้งโอกาสอันนั้นเสีย
  • คงเป็นจุดด้อยตั้งแต่คิดที่จะประท้วงแล้วกระมัง หรือจุดหมายของพวกเขาอยู่ที่การได้แสดงออกเพียงเท่านี้ ไม่ได้คาดหวังถึงขนาดชี้แจงปัญหากับผู้ที่มีส่วนแก้ไขปัญหาโดยตรง
  • บางครั้ง อาจต้องมีใครสักคนนำทางไปสู่จุดหมายที่แน่นอน ชัดเจน เหมือนคนในภาพ (ยืมภาพมาใช้อีกแล้ว)
  • อย่างที่วิเคราะห์ไว้ใน (3) น่าสังเกตว่า มีนิสิตที่มองในจุดนี้ได้ (ก็คนที่เขียนบันทึกนี้แหละ) แต่ก็เอาแต่นั่งสังเกตการณ์ซึ่งคงจะคิดเหมือนกับนิสิตท่านอื่นๆที่ขออยู่เฉยๆดีกว่า
  • คงมีหลายคนที่เกิดความรู้สึกเสียดายเช่นนี้
  • และปัญหาที่เกิดขึ้น ก็คงจะสร้างความเดือดร้อนให้เกิดขึ้นในเทอมต่อไป ปีต่อไป หรือเปล่านะ

 

ไม่มีรูป
นายบอน!-กาฬสินธุ์
  • ตอนนี้แสงน้อยๆ สว่างขึ้นทำให้เห็นทางสว่างในปัญหาที่เกิดแล้วครับ
  • ขอบคุณครับ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท