ชีวิตที่พอเพียง : 297. ชีวิตที่เบาสบาย


          ช่วงนี้ท่านติช นัท ฮันห์ มาเยือนประเทศไทย     เห็นหน้าและท่าทางดูไม่ออกว่าอายุกว่า ๘๐     ดูเหมือนคนอายุน้อยกว่า ๖๐    และหน้าตาแจ่มใส     ทำให้นึกว่าคนเรามักวิ่งไขว่คว้าหาลาภ ยศ สรรเสริญ มาปรนเปรอตนเอง     หวังว่าจะเกิดความสุข     แต่ในระหว่างทางกลับติดบ่วงความทุกข์อันเนื่องจากกิเลสเครื่องเศร้าหมองทั้งหลาย

         สังคมโดยทั่วไป ก็มักจะยัดเยียดกิเลสเครื่องเศร้าหมองให้แก่กัน     โดยคิดว่าเป็นสิ่งดี    สิ่งนั้นคือ ลาภ ยศ สรรเสริญ     มองเผินๆ ก็เป็นสิ่งดี    แต่ถ้ารับมามากเกินไป  มันก็หนัก และยึดติด    เคยชินกับ ลาภ ยศ สรรเสริญ มากเข้า ก็กลายเป็นสิ่งเสพติด   
         หน้าร้อนที่ผ่านมา  ตื่นเช้าขึ้นมาจะออกไปวิ่งออกกำลัง อากาศร้อนผ่าว      บอกตัวเองว่าพอร้อนมากๆ ก็จะมีฝนตก     ความร้อนก็คลาย     การได้วิ่งในท่ามกลางอากาศร้อนก็เป็นการฝึกตนอย่างหนึ่ง     ได้บอกตัวเองว่า เวลาอากาศร้อนมากๆ รู้สึกอย่างไร     อย่าไปรับเอามาเป็นทุกขเวทนาเพราะเอาความรู้สึกร้อนเข้ามาเป็นอารมณ์

         แม้ในช่วงฤดูร้อนนั่นแหละ บางเช้าอากาศเย็นกว่าทุกวัน    ก็ได้บอกตัวเองว่า วันนี้ได้ชื่นชมอากาศที่เย็นกว่าเมื่อวาน    ถือว่าเป็นชีวิตที่ดี

        ปีนี้ฝนมาเร็ว     บางเช้าฝนตก  แต่ผมจะหาทางออกไปวิ่งออกกำลัง     แม้ฝนตกบ้างก็ออกไปวิ่ง     บอกตัวเองว่าเราโชคดีที่เกิดมาเป็นเด็กบ้านนอก     โดนฝนไม่เป็นไร ไม่เจ็บป่วย     เวลาถูกฝนผมจะนึกถึงช่วงปี พ.ศ. ๒๕๐๐ ตอนผมเรียน ม. ๖ ที่ รร. ปานะพันธุ์วิทยา      อาจารย์เรียว โรจน์เสรี เป็นอาจารย์ใหญ่ เป็นคนแก่ใจดี     เวลานักเรียนมาโรงเรียนสายและอ้างว่าฝนตก     ท่านจะถามว่า "หัวคุณทำด้วยน้ำตาลหรือ"     ผมจะนึกในใจว่า ผมเป็นเด็กบ้านนอก หัวแข็ง     โดนฝนก็ไม่เป็นไร

         การได้ออกกำลังแบบแอโรบิก ทำให้รู้สึกเบาสบาย     ผนวกกับการฝึกฝนตนเอง ให้ไม่เอาเรื่องไม่เป็นเรื่องมาแบก หรือเอามาใส่หัว     ไม่เอาลาภ ยศ สรรเสริญมาแบก    ทำให้ชีวิตเบาสบาย  

          การฝึกตนให้เป็นคนเบาสบาย     เป็นสุดยอดของการฝึกฝนตนเอง     เวลานี้ผมเป็นนักเรียนระดับประถม สำหรับเรื่องนี้

วิจารณ์ พานิช
๓ มิ.ย. ๕๐

หมายเลขบันทึก: 103009เขียนเมื่อ 13 มิถุนายน 2007 13:54 น. ()แก้ไขเมื่อ 9 มิถุนายน 2012 19:46 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (4)

ชีวิตคนนั้นหากหลุดจากการยึดสิ่งเข้าตนได้แล้วก็หมดทุกข์ ช่วยให้ส่งเสริมสุขภาพด้วย มีคนจำนวนมากที่ปล่อยไม่ได้ จึงเกิดทุกข์ตลอดชีวิต คำสอนของหลวงปู่ชา บอกว่า

ทุกข์มีเพราะยึด
ทุกข์ยืดเพราะอยาก
ทุกข์มากเพราะพลอย
ทุกข์น้อยเพราะหยุด
ทุกข์หลุดเพราะปล่อย

หากเราปล่อยวางในสิ่งต่างๆ ความทุกข์ทั้งหมดก็หลุดจากตัวเรา เท่านี้เองครับ

อาจารย์ พอมีรูป ท่านติช นัท ฮันห์ ให้ดูไหมคะ สนใจงานที่ใครๆ ก็อ้างถึงมานาน 

ยิ่ง อยากเห้น เมื่ออาจารย์ บอกว่า

เห็นหน้าและท่าทางดูไม่ออกว่าอายุกว่า ๘๐     ดูเหมือนคนอายุน้อยกว่า ๖๐    และหน้าตาแจ่มใส    

เคยแต่ได้ยินชื่อท่าน และเคยอ่านเรื่องที่ท่านเขียนแล้วชอบความธรรมดาที่กินใจ เมื่อดูข่าวว่าท่านมาเยือนเมืองไทย เห็นภาพของท่านแล้วก็ยังคิดเหมือนกันค่ะว่า ท่านน่าจะอายุมากๆๆแล้ว เพราะเราอ่านเรื่องของท่านมาตั้งแต่เรายังแค่สิบขวบได้ พอเห็นก็ยังคอยตามเฝ้าดูข่าวว่าเป็นท่านองค์นี้จริงๆหรือ

คุณหมอหน่อยตามไปดูได้ที่เว็บไซต์นี้นะคะ ติช นัท ฮันห์ กับมิติใหม่ของพุทธศาสนา (พระไพศาล วิสาโล) ได้ทั้งดูรูปท่านและได้อ่านสิ่งดีๆเป็นมงคลกับชีวิตด้วยค่ะ

ขอบคุณ อาจารย์ โอ๋นะคะ

ไปดูแล้วเหมือนที่อาจารย์ วิจารณเ ล่าเลยค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท