เหตุการณ์สร้างองค์กรนวัตกรรม ตอนจบ

ตอนที่ผ่านมาผมได้นำเสนอ 10 เหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดนวัตกรรมในองค์กรกันไปแล้ว เรามาต่อด้วยเหตุการณ์ที่เหลือกันครับว่ามีอะไรบ้าง เท่าที่มีการประมวลมาจากแหล่งข้อมูลและความคิดเห็นต่างๆ ดังนี้ 

1. คิดมุมใหม่ (Six Hats) ใส่หมวกให้ถูกใบก็ช่วยให้ความคิดเป็นระเบียบมากขึ้น ดีกว่าใส่แต่หมวกใบเดียว คิดแบบเดียว มุมเดียวตลอด หมวก 6 ใบเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้คนคิดอย่างมีแบบแผน และแสดงออกอย่างถูกเวลา เพราะถ้าเราสังเกตเห็นทั่วไปในเวทีเสวนา แสดงความคิดเห็น จะมีบางคนพูดจ้ออยู่คนเดียว บางคนก็นิ่งเงียบตลอด บางคนพูดแสดงความคิดเห็นแบบมีหลักการ บางคนก็พูดด้วยอารมณ์ความรู้สึก แต่บางคนก็แสดงภูมิรู้ที่มากด้วยประสบการณ์แบบปิดกั้น และไม่รับฟังความคิดเห็นคนอื่น อย่างไรก็ตามการนำแนวคิดและวิธีการหมวก 6 ใบมาใช้อย่างผสมผสานถูกวิธี สามารถก่อให้เกิดความคิดใหม่ๆที่จะต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมได้เช่นกัน
2. จากปัญหางานเอามาขบคิด (Problem Generation) ถ้าเราสังเกตให้ดีสินค้าและบริการมากมายเกิดขึ้นเพื่อแก้ปัญหาความยุ่งยากที่มีมาในอดีต บางครั้งก็คิดขึ้นมาเพื่อคนขี้เกียจก็มีนะ อย่างอุปกรณ์อัตโนมัติ หรือรีโมทคอนโทรล เป็นต้น
3. คิดแบบโน่นเอามาผสมนี่ (Combination) ความที่คนบางกลุ่มอยากให้สิ่งของสิ่งหนึ่งสามารถทำอะไรได้หลายๆอย่างในคราวเดียวกัน จะได้ไม่ต้องพกพาหลายสิ่งหลายอย่างมากมายไปในคราวเดียวกัน อย่างโทรศัพท์มือถือในปัจจุบันทำได้สารพัดจริงๆ
4. คิดแบบหน้าที่งาน (Function analysis) ในทางวิศวกรรมมีเครื่องมือตัวหนี่งเรียกว่า การวิเคราะห์คุณค่า (Value Analysis) และวิศวกรรมคุณค่า (Value Engineering) เครื่องมือดังกล่าวนำมาใช้เพื่อวิเคราะห์หน้าที่การทำงานของส่วนย่อยๆต่างๆของระบบใหญ่ระบบหนึ่ง หรือสินค้าชิ้นหนึ่ง เพื่อจะหาสิ่งอื่นมาทดแทนโดยที่ยังสามารถทำงานได้เหมือนเดิม แต่มีต้นทุนที่ต่ำกว่า
5. หยิบของมาหนึ่งสิ่งแล้วคิดว่าทำอะไรได้บ้าง (One Thing, Many Ideas) คนที่ไม่เคยคิดอะไรต่างไปจากเดิมเลย คงปฏิบัติข้อนี้ได้ยาก ลองบังคับตัวเองดูโดยการหยิบสิ่งของขึ้นมา 1 สิ่ง แล้วให้เวลา 10 นาที คิดให้ได้ว่าสิ่งของสิ่งนี้ทำอะไรได้บ้าง ยิ่งคิดได้มากเท่าไร แสดงว่าเกิดพัฒนาการทางสมองมากขึ้นเท่านั้น
6. อยากได้รายได้มากขึ้น (Money incentive) บางครั้งความโลภ ความอยากได้ไม่พึงพอใจในสิ่งที่มีอยู่ ก็ก่อให้เกิดการแสวงหาสิ่งใหม่ๆได้เหมือนกัน แต่ต้องคิดในทางที่ถูกศีลธรรมด้วยนะ
7. ถูกท้าทายหรือถูกสบประมาท (Challenging) บางคนเปลี่ยนวิกฤตเป็นโอกาส แทนที่จะจมปลักกับการถูกถากถางเยาะเย้ย แต่กลับเปลี่ยนสิ่งนั้นเป็นพลังความสามารถในการสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆเพื่อเอาชนะคำสบประมาทนั้น แบบนี้เรียกว่า “คิดบวก”
8. ได้รับมอบหมายให้ทำ (Assignment) ภาวะการณ์บังคับให้ต้องทำงานใหม่ งานใหญ่ งานยาก ช่วยผลักดันให้เอาตัวรอดให้ได้ เหตุการณ์เช่นนี้ทำให้เกิดนวัตกรรมได้เหมือนกัน
9. จากความผิดพลาด (Accident or Failure) ความผิดพลาดจากการทดลอง อาจนำมาซึ่งสอนค้าและบริการอื่นๆย่อมเป็นได้ เรียกว่าตั้งใจทำอย่างหนึ่งแต่กลับได้ผลอีกหนึ่งมาทดแทน ลองนึกถึงกระดาษ Post It ของ 3M สิครับ นั่นน่ะคือผลผลิตจากความผิดพลาดโดยแท้
10. คิดแบบไม่ต้องทำเอง (I think, I talk But You do) ใครมีความคิดดีๆช่วยนำเสนอออกมาหน่อย “เงียบ” คือบรรยากาศที่เรามักคุ้นเคยกันเป็นประจำ เรื่องอะไรจะคิดให้โง่ เดี๋ยวก็โดนมอบหมายให้ไปทำน่ะสิ แต่ถ้ากลับกันบอกว่า “ใครมีความคิดดีๆมาเสนอมีรางวัลให้ แล้วก็ไม่ต้องทำเองด้วย” อาจมาจนล้นทะลักรับกันไม่ไหว เพราะอัดอั้นมานานอยากระบายเหลือเกิน
11. ตั้งชื่อใหม่ให้เป็นบวก (Rename to good name) เปลี่ยนจาก “แห้ว” เป็น “สมหวัง” ก็ทำให้ขายดีขึ้นได้ อืมแปลกจริงคนเรา มิหน่าเขตบางรักถึงมีคนไปจดทะเบียนสมรสกันมากกว่าเขตอื่น ชื่อเป็นมงคลนี้เอง
12. มองธรรมชาติแล้วคิด (Nature learning) ลองสังเกตธรรมชาติรอบตัวสิครับ อาจได้แนวคิดดีๆ เพื่อมาต่อยอดให้เกิดนวัตกรรมใหม่ๆก็ได้เหมือนกัน เช่นขี้โคลนบางชุมชนที่คนทั่วไปไม่เหลียวแล อยู่มาวันหนึ่งอาจกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยวธรรมชาติเพื่อการฟื้นฟูร่างกายก็ได้ เพราะวิจัยแล้วว่าเป็นโคลนบำรุงผิวนั่นเอง

 

หลายเหตุการณ์ถ้าเราเปลี่ยนมุมมองจากลบเป็นบวกได้ และฝึกคิดหาวิธีที่จะสร้างประโยชน์จากมันก็ทำให้เราได้ความคิดดีๆที่จะต่อยอดไปสู่นวัตกรรมที่มีคุณค่าได้เหมือนกัน

คลิกเพื่ออ่านตอน 2

[Sasinand]

สวัสดีค่ะ

มีประโยชน์มาก

ขอนำบล็อกคุณเข้าแพลนเนทนะคะ

[White]

ติดตามมานาน และนำข้อคิดเห็นของพี่อ๊อด ไปปรับใช้ในการทำงานหลายเรื่องค่ะ แต่ก็ยังทำได้ไม่ทั้งหมด แต่จะพยายามค่ะ