วันนี้มีแผนหลักที่จะไปร่วมงานงานหนึ่ง แต่ว่าพี่สาวผมจะต้องเข้าร่วมประชุมเครือข่ายพัฒนาคนพิการของจังหวัดมหาสารคาม ที่ศูนย์การศึกษาพิเศษของจังหวัดมหาสารคาม เป็นทางผ่านที่จะเดินทางไปยังเป้าหมาย ผมจึงได้เข้าไปสังเกตการณ์การประชุมครั้งนี้ด้วย
เมื่อประชุมเสร็จได้เดินทางต่อไปยังเป้าหมายหลัก ไปสู่ความจริงของชีวิตอย่างหนึ่ง คนเราเกิดมาเหมือนกัน และดับเหมือนกัน เป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ถึงแม้วิทยาศาสตร์จะทำให้โลกเราก้าวหน้ามาไกลจากอดีตมาก แต่วิทยาศาสตร์ก็ไม่สามารถทำให้เราหนีความจริงตรงนี้ได้ เป็นสิ่งหนึ่งที่เหมือนจะบอกว่า “ธรรมชาติ คือ ความจริงที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้”
คนเราเกิด แล้วก็ต้องดับเหมือนกัน แต่ต่างกันตรงที่รายละเอียดในการใช้ชีวิต สิ่งนี้หล่ะ ทำให้คนเราแต่ละคนมีการดำรงอยู่แตกต่างกันออกไป ทำอย่างไรจึงจะใช้ชีวิตอย่างคุ้มค่าและมีประโยชน์
ผมได้อ่านประโยคด้านล่างนี้ในบลอก และวันนี้ก็ได้ฟังอีกครั้งในงาน ทำให้ประโยคนี้ติดอยู่ในหัว
“พระพุทธองค์สอนให้เราอยู่ในโลกใบนี้อย่างบางเบา สัมผัสสมบัติของโลกแต่เพียงแผ่วเบา อย่าหอบหิ้ว แบกหาม กำกอด เหนี่ยวรั้ง คือเมื่อทำชีวิตบนโลกให้บางเบา เราจะพอหาความสุขในชีวิตได้บ้าง แต่ถ้าพิจารณาความจริงของชีวิตและโลก ต้องให้หนักแน่น ทำแผ่วเบาไม่ได้”
...
ขอบคุณที่นำเอาแง่คิดดีดีมาฝากค่ะ