ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (2) ต่อสู้...พิษภัยบุหรี่


ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (2) ต่อสู้...พิษภัยบุหรี่
ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (2) ต่อสู้...พิษภัยบุหรี่

            หากเอ่ยชื่อของ ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ หลายคนจะรู้จักในบทบาทของผู้นำการรณรงค์ให้คนไทยงดสูบบุหรี่จนประเทศไทยมีชื่อเสียงและได้รับการยกย่องในระดับโลก หากแต่คนๆ นี้ยังมีอีกบทบาทที่ยังไม่มีใครนึกถึงนั่นคือ การเป็นนั่งวิ่งตัวยง แม้จะไม่เคยได้ถ้วยรางวัล จากการวิ่งรายการใด แต่รางวัลที่เขาได้กลับเหนือค่ากว่าสิ่งใด เพราะไม่มีใครให้เขาได้ นอกจากตัวเอง นั่นคือการมีสุขภาพแข็งแรงดี โรคภัยไม่เบียดเบียน             ศ.นพ.ประกิต เริ่มบทบาทการเป็นนักวิ่งเพื่อสุขภาพเมื่อต้องรับหน้าที่ดูแลการวิ่งรณรงค์ให้คนไทยงดสูบบุหรี่ในช่วงปี 2535 ในขณะดำรงตำแหน่งเป็นเลขาธิการโครงการรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ เนื่องจากคุณยืนยง โอภากุล หรือแอ็ด คาราบาว นักร้องเพลงเพื่อชีวิต ได้มาหารือ และขอคำแนะนำเพื่อจัดกิจกรรมวิ่งรณรงค์งงดสูบบุหรี่ จากต้นทางจังหวัดบุรีรัมภ์และสิ้นสุดที่กรุงเทพมหานคร โดยแอ็ดเล่าให้ฟังถึงวัตถุประสงค์ถึงการวิ่งรณรงค์ครั้งนั้นว่า เขาสามารถเลิกบุหรี่ได้เพราะได้รับแรงบันดาลใจจากนักข่าวคนหนึ่งที่ตะโกนบอกระหว่างเล่นคอนเสิร์ตว่า พี่แอ็ดเลิกสูบบุหรี่เถอะ และหลังจากที่คอนเสิร์ตจบลง นักข่าวคนนั้นก็เดินมาบอกกับแอ็ดว่า ถ้าเลิกสูบบุหรี่ได้เขาจะวิ่งจากบุรีรัมภ์ถึงกรุงเทพเป็นการแก้บนให้ เพราะเขาไม่อยากให้ใครตายด้วยโรคมะเร็งเหมือนพ่อเขาอีกแล้ว ประกอบกับช่วงนั้นแอ็ดร้องเพลงอย่างไม่มีพลัง เนื่องจากลากเสียงไม่ขึ้น จึงตัดสินใจเลิกบุหรี่โดยใช้เวลาเพียง 2 เดือนเท่านั้นปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (2) ต่อสู้...พิษภัยบุหรี่ ปาฏิหาริย์ของการออกกำลังกาย              ภายหลังที่ ศ.นพ.ประกิต ตกปากรับคำจะจัดกิจกรรมร่วมกับแอ็ด คาราบาว จึงเริ่มเตรียมงานเพื่อรองรับมหกรรมการวิ่งครั้งใหญ่ ระหว่างเตรียมงานก็มีผู้เสนอให้ ศ.นพ.ประกิต วิ่งเพื่อสัญลักษณ์ของการไม่สูบบุหรี่อีกทางหนึ่ง นั่นจึงทำให้เขาต้องเตรียมร่างกายให้พร้อมกับศึกใหญ่ที่รออยู่เบื้องหน้า เขาจึงเริ่มซ้อมก่อนที่งานจะเริ่มเป็นเวลากว่า 6 เดือน ในที่สุดก็ไม่มี งานวิ่งรณรงค์ไม่สูบบุหรี่ อย่างที่หวัง อันมีเหตุการไม่ลงรอยกันของข้าราชการการเมือง การฝึกซ้อมในครั้งนั้นจึงทำให้เขาหลงเสน่ห์การวิ่งอย่างยากจะถอนตัว 

            อานิสงค์ครั้งนั้นติดการวิ่งออกกำลังกายไปเสียแล้ว ผมวิ่งเพราะผมมีความสุขที่ได้วิ่ง ถ้าไม่ได้ทำมันเหมือนขาดอะไรบางอย่าง เพราะวิ่งทุกวันจนเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต เป็นเหมือนกิจวัตรประจำวัน แม้จะเดินทางไกล ภายในหรือภายนอกประเทศก็ต้องพกรองเท้าสำหรับวิ่งติดตัวไปตลอด โดยจะใช้เวลาวิ่งประมาณวันละ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงเป็นอย่างน้อย ตอนนี้ลูกชายทั้ง 3 คนก็ติดนิสัยออกกำลังกายเป็นประจำเหมือนผม เขากล่าว

 ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (2) ต่อสู้...พิษภัยบุหรี่ ปาฏิหาริย์ของการออกกำลังกาย             การเริ่มต้นวิ่งตั้งแต่วัย 48 ทำให้ร่างกายสร้างปราการป้องกันโรคได้อีกทางหนึ่ง เพราะอายุเริ่มมากขึ้นโรคความดันโรหิตสูงที่ผ่านทางพันธุกรรมก็เริ่มแผ้วพานแต่นั่นไม่ใช่อุปสรรคสำหรับเขา เพราะผลพวงจากการวิ่งได้ทำให้ร่างกายมีความแข็งแกร่งระดับหนึ่งอยู่แล้ว เขาจึงไม่ต้องใช้ยามากนัก ทว่าก็ไม่ได้ปฏิเสธยาเสียทีเดียว เพียงแต่ทานในปริมาณที่ไม่มากนัก คือ อยู่ในปริมาณ 25 มิลลิกรัม ซึ่งถือว่าน้อยมากหากเทียบกับคนอื่น             แม้จะออกกำลังกายเป็นประจำก็ยังมีโรคแผ้วพานอยู่บ้าง ด้วยความที่อายุเริ่มมากขึ้น โรคที่เคยสะสมมาก็ยังมีอยู่ แต่โรคใหม่ก็เข้ามาร่วมด้วย จากความเครียดที่เป็นทุนเดิมก็ทำให้เป็นโรคเส้นเลือดหัวใจตีบตัน การเป็นแพทย์ก็ช่วยทำให้รักษาสุขภาพได้ส่วนหนึ่งแต่สิ่งสำคัญคือ ถ้าไม่ออกกำลังกายเป็นประจำคงไม่มีโอกาสเห็นโลกได้นานถึงขนาดนี้ เพราะการออกกำลังกายถือเป็นการต่อลมหายใจของคนได้ โดยสามารถบวกเวลาที่ใช้ไปกับการออกกำลังกายมาเติมช่วงเวลาชีวิตที่ควรจะเป็น เราจึงเห็นว่าคนที่ออกกำลังกายเป็นประจำมีชีวิตยืนยาวกว่าคนที่ไม่ออกกำลังกายกว่า 8-10 ปี             ศ.นพ.ประกิต ยังกล่าวถึงผลวิจัยที่กล่าวถึงการออกกำลังกายที่ส่งผลให้ร่างกายสร้างภุมิต้านทานโรคที่ระบุว่า หลังการออกกำลังกายร่างกายจะมีการเปลี่ยนแปลง เม็ดเลือดขาวจะแบ่งตัวออกเป็นสารที่สามารถฆ่าเชื้อโรคหรือสิ่งที่แปลกปลอมเข้ามาในร่างกายได้ คนที่ออกกำลังกายจึงมีภูมิต้านทานโรคเป็นพิเศษ ทำให้ไม่เป็นหวัดง่ายหรือถ้าเป็นก็หายเร็วดังนั้นจึงไม่เคยหยุดงานเพราะป่วยเป็นไข้แม้แต่วันเดียว             การที่คลุกคลีอยู่ในวงการแพทย์ โดยเฉพาะอายุรแพทย์จึงทำให้เขารู้สึกกังวลกับสถานการณ์โรคร้ายที่คุกคามสุขภาพของคนไทยและคนทั้งโลก โดยมีผลวิจัยจากองค์การอนามัยโลกที่ประกาศให้เป็นโรคเรื้อรังที่บั่นทอนสุขภาพของคนไทยทั่วโลก มีด้วยกัน 4 โรค คือ โรคหัวใจและหลอดเลือด มีทั้งสิ้น 17 ล้านคน ต่อมาเป็นโรคมะเร็งที่คร่าชีวิตคนไปกว่า 7 ล้านคน ถัดมาเป็นโรคถุงลมพองมีกว่า 4 ล้านคน ส่วนโรคสุดท้ายเป็นโรคเบาหวานมีกว่า 1 ล้านคน ซึ่งโรคทั้ง 4 มีตัวแปรมาจากการไม่ออกกำลังกาย การทานอาหารที่มีไขมันมาก การสูบบุหรี่และการทานน้ำตาลมากเกินไป ดังนั้นจึงจำเป็นต้องทำให้คนส่วนมากตระหนักถึงการออกกำลังกาย และให้หันมาดูแลสุขภาพให้มากที่สุด             เนื่องจากถือคติที่ว่า “Move for life” นั่นจึงทำให้กิจวัตรการออกกำลังกายเขาเป็นแบบอย่างให้กับคนรอบข้าง ทั้งที่บ้านและที่ทำงาน...   

ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง (2) ต่อสู้...พิษภัยบุหรี่ ปาฏิหาริย์ของการออกกำลังกายโดย ศ.นพ.ประกิต วาทีสาธกกิจ
       p       ที่มาข้อมูลจาก : หนังสือ ปาฏิหาริย์แห่งการวิ่ง เติมพลังให้แก่ชีวิต ด้วยการวิ่งเพื่อสุขภาพ : สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)ภาพประกอบ : www.thaihealth.or.th
คำสำคัญ (Tags): #การวิ่ง#สุขภาพ
หมายเลขบันทึก: 100069เขียนเมื่อ 1 มิถุนายน 2007 15:33 น. ()แก้ไขเมื่อ 23 พฤษภาคม 2012 16:39 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท