หลังจบการอบรมR2R เมื่อวันที่ 13 กค 54 มุมมองชีวิตก็เปลี่ยนไป จากที่ไม่ค่อยรู้เรื่องการทำวิจัยก็ได้รู้ หลังทำวิจัยเสร็จแล้ว ไม่รู้จะเขียนรายงานการวิจัยอย่างไร ตอนนี้ก็ได้รู้ เขียนรายงานวิจัยแล้วแต่ไม่รู้ว่าใช่หรือไม่ใช่ ตอนนี้ก็ได้รู้แล้วว่ามันใช่แน่ๆ
เป็นผลจากระบบการสอนแบบไม่สอนR2Rของดร.กะปุ๋มโดยมีคุณโอเป็นสาวเชียร์R2Rอยู่ข้างๆ มีการใช้เครื่องมือในการสอนที่มีประสิทธิภาพมากคือ sss ( Success Story Sharing) เป็นระบบการสอนที่ทำให้เกิดการเรียนรู้ด้วยตัวเอง และส่งผลให้เกิดความเข้าใจอย่างถ่องแท้ พร้อมสร้างความมั่นใจให้เกิดในตัวผู้เรียนได้อย่างมหาศาล ทำให้เกิดปัญญาเกิดการต่อยอดความคิดได้แบบไม่รู้ตัว
จากบรรยากาศในห้องเรียนวันแรกที่ดูจากสีหน้าและแววตาของทุกคนที่มาด้วยความสับสนและประหม่าด้วยไม่รู้ไม่เข้าใจในR2R กลับเปลี่ยนไปอย่างไม่น่าเชื่อในวันสุดท้ายของการประชุม บุคลิกลักษณะของแต่ละคนเปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง จากวันแรกที่อาจารย์ให้นำเสนองานพัฒนาที่ทุกคนทำอยู่ แต่จะไม่ค่อยมีใครกล้าพูด เพราะไม่แน่ใจว่าใช่R2Rหรือปล่าว แต่ในวันสุดท้ายของการประชุมทุกคนกลับเล่าเรื่องของตัวเองได้อย่างมั่นใจ และร่วมต่อยอดความคิดในเรื่องของเพื่อนได้เป็นอย่างดี บรรยากาศเป็นกันเองและสนุกสนาน จนไม่อยากให้การประชุมสิ้นสุดเลยจริงๆ
เพิ่งมาเข้าใจอย่างกระจ่างแจ้งกับระบบการสอนแบบไม่สอนในวันนี้เอง โดยเฉพาะวิธีให้กลุ่มทำ Reflection เพื่อให้เข้าใจเรื่องที่เรียนในระดับลึกและสามารถช่วยเติมความรู้เชิงทฤษฎีในเรื่องนั้นๆ
และจากประสบการณ์ที่ได้รับในครั้งนี้ ทำให้เกิดความคิดหวังและตั้งใจ(อย่างแรง) ในการที่จะกลับไปพัฒนาคนหน้างาน ให้กลายเป็น Knowledge worker เปลี่ยนวัฒนธรรมคนทำงานในองค์กรให้เป็น Learning organization โดยการสร้างเครือข่ายR2R .ให้เกิดในองค์กร โดยใช้SSS เป็นเครื่องมือช่วยผลักดัน ตามกระบวนการที่ได้เรียนรู้จากดร.กะปุ๋ม
ขอบคุณนะคะอาจารย์ที่ทำให้เกิดแรงบันดาลใจ ในการเป็นสาวเชียร์R2Rคนต่อไป
แวะมาเป็นกำลังใจให้ชาว R2R ค่ะ ^^
ขอบคุณทุกคนนะคะ