เป็นความใฝ่ฝันอย่างหนึ่งที่ต้องไปเยือนเสียมเรียบจังหวัดที่เต็มไปด้วยปราสาทหิน และหนึ่งในสิ่งมหัศจรรย์โลก นั่นคือ มหาปราสาทนครวัด
เตรียมข้อมูลสำหรับการไปชื่นชมนครวัด-นครธม ทุกช่องทาง ใครเขียนถึงเขมรเป็นไม่ได้ต้องสอบถาม สุดท้ายเลยลงเอยที่ ซื้อทัวร์ไปเที่ยว หลังเสียสูญกับโปรศูนย์บาท ของสายการบินต้นทุนต่ำแต่ราคารวมก็ไม่เบา
ราคาทัวร์ 4 วัน 3 คืน ในราคา 9200 บาท ไม่รวมค่าวีซ่า(ประมาณ 20 เหรียญ)มัดจำ 30% แต่เราจ่ายให้หมดเลย ไว้เนื้อเชื่อใจตัวเองและบริษัททัวร์มาก ฝากบริษัททัวร์ทำวีซ่า เพื่อความรวดเร็ว ในราคา 880 บาท แพงเหมือนกันนะ แต่คงจะเร็วกว่าที่ไปทำเองที่ด่าน และเราคงไปทำที่สถานทูตไม่ได้
ก่อนการเดินทางประมาณ 3 อาทิตย์ วอร์มร่างกายด้วยการวิ่งวันละประมาณ 1 กิโล ทั้งแบบ open air และ inner air เนื่องจาก เคยมีประสบการณ์ว่า ออกกำลังกายก่อนเดินทางจะทำให้ไม่เมารถมาก ไม่อ่อนเพลีย สดชื่นและสำคัญคือ คงมีการเดินด้วยเท้าในระยะทางที่ค่อนข้างไกลและปีนป่ายปราสาทหิน
ส่วนอีกใจหนึ่งก็เตรียมไว้เพื่อความผิดหวังที่จะไม่ได้เดินทางเพราะวิถีชีวิตที่ไม่แน่นอนในภารกิจของวัลลี
ใกล้ถึงวันเดินทางต้องเตรียมเสื้อผ้า เลือก เสื้อผ้าที่ตัวเล็กๆบางๆ เพื่อไม่ไห้กินพื้นที่มากนักเพราะต้องเตรียมเสื้อผ้าในการไปถวายสักการะพระศพ พระพี่นางฯด้วย อากาศที่เขมรก็คงร้อนไม่น้อย ถึงกระนั้นก็ยังทำให้เป้ขนาด 25 ลิตรหนักเอาการเลยทีเดียว
วันที่ต้องเดินทางไป กรุงเทพ เมื่อต่อไปที่เสียมเรียบ ติดประชุมสำคัญที่เลี่ยงไม่ได้ทั้งวัน เลยเลือกเดินทางด้วยรถไฟ ตู้นอน หนองคาย-กรุงเทพ เพื่อให้ได้นอนยาวบ้างเผื่อว่าจะได้หลับสบาย
เดี๋ยวนี้รถด่วนตู้นอน ออกเร็วขึ้นเป็นเวลา 18.20 น. ไม่มี late หรือ delay น่าประทับใจ กว่าเมื่อก่อน
อาหารเย็นเจ้าประจำที่เมืองหนองคายส่วนใหญ่ที่เลือกกินก่อนเดินทางต้องเป็นร้านข้าวต้ม ไม่ร้าน ดีดี ก็ ร้านไทยไทย เมนูประจำ ยอดฟักทองผัดไข่ ขี้เมาเนื้อ/หมู ต้มมะระกระดูกหมู
ใครที่มาเที่ยวหนองคาย แนะนำ 2 ร้านนี้เลย อยู่ใกล้สำนักงานเทศบาล อาหารอร่อยราคายุติธรรม แถวหน้าร้านยังมีร้านรถเข็นคล้ายๆตลาดโต้รุ่งด้วย ของกินเยอะแยะไปหมด อร่อยๆทั้งนั้น คนที่เคยมาเที่ยวหนองคาย ก็มักมาเดินกินข้าวกันแถวนี้
เสร็จสิ้นกับภาระกิจ การเตรียมตัวเดินทาง ไปต่อกันที่บนรถไฟ ในบันทึกต่อไป
สวัสดีค่ะ ป้าแดง น่าเที่ยวแล้วก็น่าทานด้วยค่ะ จะรออ่านนะคะ
สวัสดีค่ะ น้องสีตะวัน
สวัสดีค่ะ น้องลิ้ม