การท่องเที่ยวในเทศกาลปีใหม่ 2551 <hr><p>ก่อนเกิดเหตุ </p><p>ปีใหม่ 2551 เราได้วางแผนกันไว้ล่วงหน้าตั้งแต่ตอนกลางเดือนธันวาคมว่าจะไปเที่ยวไหว้พระกันที่วัดหลวงพ่ออุตมะ จังหวัดกาญจนบุรี ขณะที่ผู้เขียนและคณะไปเข้าประชุมวิชาการอยู่ที่ประเทศไต้หวัน ระหว่างวันที่ 11-20 ธค. กลับมาได้รัทราบจากศรีภรรยาว่า ได้คุยกับครูโชคและน้องชายที่จังหวัดสมุทรสงครามเรื่องที่พักและจองไปแล้วด้วย</p><p>แผนการเดินทาง</p><p>แผนการเดินทางจึงเริ่มต้นขึ้นจากครอบครัวสามครอบครัว คือครอบครัวผู้เขียนหนึ่ง ครูโชคหนึ่งและน้องชายอีกหนึ่ง กะว่าจะขับรถเก๋งไปสามคัน กำหนดออกเดินทางวันเสาร์ที่29 เช้า กลับเย็นวันที่ 30 ปลายทางคือด่านเจดีย์สามองค์ชายแดนตะวันตกสุดชายแดนสยาม  พักค้างที่สังขละบุรีหมู่บ้านชาวมอญหนึ่งคืน เช้ามืดตื่นขึ้นมาชมทะเลหมอกเหนือแม่น้ำเกริกกาเวีย ข้ามสะพานมอญ(ไม้)ไปใส่บาตรพระที่หมู่บานคนมอญ ล่องแม่น้ำชมวัดหลวงพ่ออุตตมะที่จมน้ำหน้าเขื่อนเขาแหลม   บ่ายๆล่องกลับมาเที่ยวน้ำตกไทรโยค กลับถึงบ้านก็เย็นวันเสาร์ ส่วนคืนวันที่31และเช้าวันที่หนึ่งเป็นวันครอบครัว ทุกครอบครัวต้องกลับสังสรรค์กับญาติพี่น้องตนเองและเช้าปีใหม่ต้องทำบุญตักบาตรที่บ้านภูมิลำเนาของแต่ละคน</p><p></p><p>ที่มาของการเดินทาง</p><p>ก่อนถึงวันเดินทางดูพวกเราจะตื่นเต็นกันเป็นพิเศษ เพราะปีนี้เป็นปีแรกที่เราเริ่มต้นเที่ยวกันใหม่ หลังจากที่เลิกไปแล้วหลายปี ย้อนหลังไปซัก 7-8ปี  เราครอบครัวพี่น้องต้องนัดหมายรวมกันปีละครั้ง เพื่อมาพบปะกันและท่องเที่ยวด้วยกัน บางปีนัดกันที่เชียงใหม่ บางปีนัดที่ขอนแก่น บางปีนัดพบกันที่ราชบุรี  นัดกันที่ใดคนจากที่อื่นก็ไปรวมกันที่นั้น และขับรถบ้าง เช่ารถตู้บ้างไปเที่ยวตามสถานที่เราเลือกกันไว้ เป็นการท่องเที่ยวแบบรวมญาติ  ระยะหลังหลายคนอายุมากขึ้นเดินทางไกลไม่ได้ กิจการที่ว่าก็ซาๆไป ปีนี้ก็เริ่มต้นขึ้นมาใหม่ แต่เลือกที่ใกล้ ไม่ไกลจนเป็นอุปสรรคต่อสังขารมากนัก ที่เป็นที่มาของเหตุเกิดที่สังขละบุรี</p><p>จากกลุ่มเล็กขยายเป็นกลุ่มใหญ่ </p><p>เราตั้งใจแต่แรกว่าจะกลุ่มเล็กรถสามคัน อยากแวะอยากพักที่ใดก็ทำเอาตามใจ ไม่กำหนดกฏเกณฑ์ว่าต้องอย่างนี้อย่างนั้น ผลปรากฏว่าระหว่างที่วันเวลาให้ถึงวันที่จะเดินทาง ก็มีเหตุให้ต้องเพิ่มคนเข้ามาในคณะขึ้นอีก พี่สาวผู้เขียนทราบเรื่องก็ขอร่วมเดินทางไปไหว้พระหลวงพ่ออุตตมะด้วยเพิ่มอีกหนึ่งครอบครัว  ต่อมาพี่ชายที่บางบอนทราบความก็เพิ่มอีกหนึ่งครอครัว เมื่อคนมากขึ้นแล้วก็เลยชวนป้าและญาติที่ราชบุรีไปด้วยกัน รวมเป็นกลุ่มใหญ่ นับไปนับมา 17คนครับ ไม่เล็กเลยละครับ</p><p>กองคาราวาน</p><p>แล้ววันที่ 29 ก็มาถึง รถ4คันก็เริ่มออกเดินทางจากแต่ละจุด อาหารไปทานไปใส่บาตรถูกลำเลียงขึ้นรถ รถเก๋งผู้เขียนหนึ่งคัน 4คนออกจากกรุงเทพตอน 6 โมงเช้า  รถตู้หนึ่งคันรับคนจากกรุงเทพตอนตีห้าครึ่งและไปรับคนที่ราชบุรีรวม 7 คน รถเก๋งอีกสองคันๆละ 3-4 คนออกจากสมุทรสงครามตอนหกโมงเช้า จุดนัดหมายรวมพลคือ สุสานทหารผ่านศึก จังหวัดกาญจนบุรี เวลาแปดโมงเช้า น่าสนุกมากครับ ระหว่างแต่ละจุดออกเดินทาง ก็จะโทรสอบถามกันว่า ออกหรือยัง  ถึงไหนแล้ว จะถึงหรือยัง ที่ว่าน่าสนุกกลายเป็นเริ่มสนุกแล้วละครับ</p><p></p><p>เข้าสู่จุดนัดหมาย </p><p>จากการตรวจสอบระยะทาง จากกรุงเทพถึงเมืองกาญจนบุรี ราวๆ 200 กม. กะว่าใช้เวลาเดินทาง 2 ชม เริ่มออกเดินทางตอน 6.00 น. ไปทางพุทธมณฑล ตามถนนเพชรเกษม ผ่านนครปม บ้านโป่ง ท่ามะกา ท่าม่วง ถึงอำเภอเมือง ใช้เวลา 2 ชมครึ่งนะครับ รถจากสมุทรสงครามสองคันไปถึงจุดนัดหมายก่อน ตามด้วยรถของผู้เขียน ส่วนรถตู้ที่ไปแวะรับคนจากราชบุรีเป็นคันสุดท้าย รวมพลได้เมื่อเกือบเก้าโมง เราวางแผนการเดินทางต่อทันที เรากะว่า จะเดินทางไกลก่อนแล้วจึงย้อนกลับมาเก็บระหว่างทาง แล้วจึงเข้าที่พัก คาราวานรถเก๋งสามรถตู้หนึ่ง ก็เริ่มออกเดินจากสุสานทหารผ่านศึกษากาญจนบุรี เป้าหมายคือด่านเจดีย์สามองค์ เวลา 12..00 น. ระยะทาง 120 กม(ขึ้นเขาด้วย) อาหารกลางวันรออยู่ที่นั่น เรากะว่าถ้ามีอาหารป่าเราจะไม่รีรอเลย</p><p>กองคาราวานเคลื่อนพล </p><p>คาราวานของเราออกจากสุสานถึงสี่แยกนอกเมือง รถวันนี้ไม่มาก เพราะบริษัทยังทำงานวันเสาร์อยู่ ขบานของเราเลี้ยวซ้ายข้ามแม่น้ำแควออกไปทางตะวันตก ผ่านมหาวิทยาลัยราชภัฏกาญจนบุรี น้ำตกไทรโยคน้อย น้ำตกไทรโยคใหญ่ ถนนเรียบดีมาก ทางเป็นทางราบ ขึ้นลงเนินสลับกันไป  ผ่านป่าไม้  ภูเขา ทะเลสาป เนินหล่ม บางครั้งรถวิ่งไปตามไหล่เขา หมู่บ้านแล้วหมู่บ้านเล่าตามรายทาง ระหว่างทางมีด่านตรวจและรักษาความปลอดภัยของตำรวจเมืองบ้าง ทำให้อุ่นใจไม่น้อย กองคาราวานของเราไปถึงทองผาภูมิเอาตอนราวๆสิบเอ็ดโมง</p><hr><p>ติดตามใต่เขาเข้าสังขละบุรี เมืองชาวบ้านมอญตอนต่อไปนะครับ</p><p> </p><p> </p><p> </p><p>  </p><p> </p>