เมล็ดพันธ์...เป็นต้นกล้า


การที่คนในองค์กร รู้ร้อนรู้หนาว คิดริเริ่มที่จะเรียนรู้ที่พัฒนางานของตนเอง ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสั่ง ..เป็นสิ่งที่องค์กรต้องการครับ...

วันนี้ช่วงบ่ายขณะที่ผมกำลังนั่งสรุปรายงานการประชุมที่ ได้ประชุมเมื่อช่วงเช้า ระหว่างที่กำลังจิ้มๆอยู่กับแป้นคีย์บอร์ด เสียงโทรศัพท์ที่โต๊ะก็ดังขึ้น..พอผมรับ ก็ได้ยินเสียงจากต้นทาง..ว่า

....“พี่ ว่างไหมขอปรึกษาหน่อย. ผมก็ตอบไปว่า พอได้ครับ มีอะไรหรือครับ แล้วต้นสายก็เล่าให้ฟังว่า เขาเป็น Learner จากโครงการ C-Cement ที่จบจากโครงการแล้ว ..ตอนนี้กลับเข้าไปทำงาน ก็อยากนำความรู้ที่ได้ไปประยุกต์ใช้..ให้เกิดประโยชน์กับงานจริง.ซึ่งขณะนี้เขาได้ชวนเพื่อนๆตั้งทีมเพื่อศึกษาปัญหาในงานเพื่อหาแนวทางการพัฒนางานของเขาให้ดียิ่งขึ้น มากกว่าที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ถึงแม้ว่างานจะได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้แล้วก็ตาม แต่เขาอยากทำได้มากกว่านั้น...สิ่งที่เขาต้องการให้ผมช่วยก็คือ..ช่วยเป็นคุณอำนวย ให้กับโครงการที่เขาจะทำได้ไหม..ได้ยินเท่านั้นแหละครับ หัวใจผมพองโต ..ดีใจครับ..ผมรีบตอบรับทันที..พร้อมกับบอกว่า"ด้วยความยินดีเป็นอย่างยิ่ง" ...

ทำไมผมต้องดีใจและใจง่ายขนาดนั้น..มีเหตุผลครับว่า..

       เพราะว่า การที่คนในองค์กร รู้ร้อนรู้หนาว คิดริเริ่มที่จะเรียนรู้ที่พัฒนางานของตนเอง ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสั่ง ..เป็นสิ่งที่องค์กรต้องการครับ...และยิ่งเมื่อเข้าได้เรียนรู้จากโครงการที่บริษัทจัดให้แล้ว นำไปคิดปรับปรุงแก้ไข และพัฒนางานได้ แล้วนั้น..ยิ่งน่าส่งเสริมอย่างยิ่ง

..หลังจากวางสายแล้วผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียวครับ (บ้ามั๊ยนี่) ผมกำลังนึกว่า นี่แหละเมล็ดพันธ์ที่เราบ่มเพาะไว้ เริ่มงอกออกมาเป็นต้นกล้าแล้ว....และเชื่อว่าจะสามารถขยายพันธ์ต่อไปทั่วทั้งองค์กร...ในไม่ช้า.. 
คำสำคัญ (Tags): #พัฒนาพนักงาน
หมายเลขบันทึก: 71786เขียนเมื่อ 9 มกราคม 2007 23:00 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 16:59 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
ขอร่วมแจม แอบยิ้ม ด้วยคนได้ไหมค่ะ เชื่อมั่นค่ะ ว่า จะมีเมล็ดพันธุ์อีกหลายเมล็ดที่เตรียมพร้อมที่จะงอกงามเป็นต้นกล้าที่ยิ่งใหญ่ เพราะทุกเมล็ดพันธุ์ที่หว่าน ล้วนคัดสรรมาแล้วทั้งสิ้น

..หลังจากวางสายแล้วผมนั่งยิ้มอยู่คนเดียวครับ (บ้ามั๊ยนี่) ไม่บ้าหรอกค่ะ....แต่ถ้าเดินยิ้มไปทั่ว...อาจเข้าข่ายค่ะ....เวลาที่เมล็ดพันธ์เป็นต้นกล้าอย่าเผลอเร่งปุ๋ยเคมีนะคะ....ใช้ปุ๋ยธรรมชาติจะได้ไม่ทำร้ายดิน...ทำลายอากาศ....ร่วมแสดงความยินดีกับเมล็ดพันธ์ค่ะ

เมล็ดพันธุ์ มากมายที่พร้อมจะเป็นต้นกล้าที่งอกงาม ทว่าองค์กร ค่อนข้างให้ดำเนินการโดยไม่มีแนวทางให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น ทำอย่างไรดีครับ กลุ้มใจ นี่ก็จะให้ทำทีพีเอ็ม โดยยังไม่รู้มันคืออะไร

ขอบคุณทุกท่านครับ

  • คุณรัตติยา..ถึงแม้จะมีการคัดสรรเมล็ดพันธ์แต่ถ้าเราเพาะในที่  ที่ไม่เหมาะสม ก็อาจไม่มีการงอกเป็นต้นกล้าได้ หรือไม่ก็งอกช้าได้...แต่ก็อย่างว่าการคัดสรรเมล็ดพันธ์ที่ดีแต่แรก ก็ทำให้โอกาสในการเพาะเป้นต้นกล้าได้มากครับ
  • คุณเมตตา ครับ..โล่งอกไปทีที่มีคนมองว่ายังไม่บ้าครับ..ขอบคุณมากสำหรับข้อคิดดีๆครับ...
  • คุณไพศาล..เห็นด้วยครับองค์กรต้องสนับสนุน หรือเสริมสร้างบรรยากาศ จัดสภาพแวดล้อมให้เหมาะสมกับเมล็ดพันธ์เหล่านั้น..หากปล่อยตามมีตามเกิดมีหวัง ว่าได้แค่งอกเท่านั้น คงไม่มีทางได้เจริญเติบโตอย่างแน่นอน ครับ...
  •  " เพราะว่า การที่คนในองค์กร รู้ร้อนรู้หนาว คิดริเริ่มที่จะเรียนรู้ที่พัฒนางานของตนเอง ด้วยตนเอง โดยไม่ต้องรอให้ใครมาสั่ง ..เป็นสิ่งที่องค์กรต้องการครับ..."
  • ขอร่วมชื่นชมกับต้นกล้านี้ด้วยคนนะครับ

ขอบคุณ พี่สิงห์ป่าสักครับ .

..คงเป็นสิ่งที่คุณอำนวยอย่างพวกเราอยากเห็นเหมือนกันนะครับ..

ยังไงซะ เราก็ยังต้องหาแนวทางการเติบโตของเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น ซึ่งบางเมล็ดคงต้องใช้เวลาที่นานกว่า แต่ผมยังเชื่อว่าหากเราบ่มเพาะเมล็ดพันธุ์นั้นด้วยความรัก เห็นอกเห็นใจ ยืดหยุ่นได้บ้าง ภายใต้เงื่อนไขที่ไม่มากไป ก็น่าจะเห็นการขยายพันธุ์เพิ่มมากขึ้นครับ

ขอบคุณครับ

ถูกต้องแล้วครับ..คุณไพศาล...

อุตสาห์ลงแรงบ่มเพาะพันธ์ จนออกมาเป็นต้นกล้าแล้ว คงต้องดูแลเอาใจใส่ จนกว่าจะโต และสามารถหากินด้วยตนเองได้ แต่ก็ต้องดูด้วยนะครับ หากใส่ปุ๋ย หรือรดน้ำมากเกินไป โหมแรงมากเกินไป อาจจะทำให้รากเน่าได้ ฉะนั้นต้องให้แบบพอดีๆครับ... 

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท