พวกเราคงจะสงสัยกันไม่น้อยว่า ความเครียดมีส่วนกระตุ้นให้เกิดมะเร็งหรือไม่ วันนี้มีข่าวว่า ฮอร์โมนเครียดมีส่วนกระตุ้นมะเร็งมาฝากครับ
เวลาคนเราเครียดจะมีการตอบสนองผ่านระบบสำคัญๆ 2 ระบบได้แก่ ระบบประสาท และระบบฮอร์โมน
...
ระบบประสาทจะส่งสัญญาณไฟฟ้าไปตามส่วนต่างๆ ของร่างกาย ระบบนี้จะทำให้เกิดการกระตุ้น เพื่อให้ร่างกายพร้อมที่จะ "สู้หรือหนี (fight-or-flight)"
ระบบฮอร์โมนเป็นระบบสารเคมี หรือระบบ "ไร้สาย" ระบบนี้จะมีการปล่อยสารเคมีเข้าไปสู่กระแสเลือด ทำให้อวัยวะสำคัญๆ ในร่างกายเกิดการตื่นตัว เช่น หัวใจเต้นแรง-เร็ว กล้ามเนื้อตึงตัว ฯลฯ
...
ฮอร์โมนหนึ่งที่ร่างกายใช้ตอบสนองต่อสิ่งเร้า หรือความเครียดทั้งจากภายนอก (ทางตา หู จมูก ลิ้น กาย) หรือภายใน (ทางใจ) ได้แก่ นอร์อีพิเนฟริน (norepinephrine / NE) ที่หลั่งออกมาจากต่อมหมวกไต
ท่านอาจารย์อีริค ยัง และศาสตราจารย์รอน เกลเซอร์ทำการศึกษาในปี 2549 พบว่า เจ้าฮอร์โมนนี้กระตุ้นให้เซลล์มะเร็งบางเซลล์สร้างโปรตีนที่กระตุ้นการเจริญเติบโตของเส้นเลือด (vascular endothelial growth factor / VEGF)
...
การที่เนื้องอกหรือมะเร็งจะเติบโตได้ดีจะต้องมีการทำ "ท่อน้ำเลี้ยง" คล้ายๆ กับการทำงานการเมือง ท่อน้ำเลี้ยงที่ว่าคือ เส้นเลือดใหม่
ถ้าเนื้องอกโตเร็วจนเส้นเลือดใหม่หรือ "ท่อน้ำเลี้ยง" ส่งกำลังบำรุงไม่ทัน เนื้องอกจะเกิดการเน่าตาย (necrosis) ตรงกันข้ามถ้ามีสารกระตุ้นท่อน้ำเลี้ยงมากพอ เนื้องอกจะโตได้เร็ว แถมยังกระจายไปยังอวัยวะต่างๆ ได้เร็วด้วย
...
การศึกษาครั้งใหม่ทำในเซลล์มะเร็งในไขกระดูกที่มีชื่อว่า "มัลทิเพิล ไมอีโลมา (multiple myeloma)" ซึ่งเป็น 1 ในมะเร็งจอมโหด คนไข้ส่วนใหญ่จะมีชีวิตอยู่ได้เพียง 3-4 ปี
ผลการทดลองครั้งใหม่สนับสนุนไปในทางคล้ายๆ กับการศึกษาในปี 2549 คือ ฮอร์โมนเครียดมีส่วนกระตุ้นให้เซลล์มะเร็งโต และแบ่งตัวได้ดีขึ้น
...
ทีนี้ข่าวร้ายย่อมมาคู่กับข่าวดี... ข่าวดีคือ ยารักษาความดันเลือดสูงชนิดหนึ่ง (beta blocker) มีแนวโน้มจะออกฤทธิ์ยับยั้งผลร้ายของฮอร์โมนนี้ได้
ถึงแม้การศึกษานี้จะเป็นการศึกษาแรกเริ่มก็ยังให้ความหวังว่า ต่อไปอาจมีการพัฒนายารักษามะเร็งชนิดใหม่ๆ ได้
...
ระหว่างที่รอการศึกษาเพิ่มเติม ซึ่งมักจะได้ยาใหม่ๆ ที่แสนแพง พวกเราควรหาทางลดความเครียดเท่าที่จะทำได้ โดยเฉพาะการออกแรง-ออกกำลัง นอนให้พอ หรือกิจกรรมคลายเครียด เช่น ฝึกสมาธิ ฝึกหายใจช้าๆ ไม่เกิน 10 ครั้งต่อนาที วันละ 10 นาที นอนให้พอ ฯลฯ ไปก่อน
ถึงตรงนี้... ขอให้พวกเรามีสุขภาพดีไปนานๆ ครับ
ที่มา
ขอขอบคุณ... คุณ suksom...