เรื่องเล่าจากดงหลวง 88 ที่พักสุดท้ายของไทโซ่ดงหลวง


แต่ที่พักอาศัยหลังสุดท้ายที่จะเล่าต่อไปนี้เป็น บ้านสำหรับผู้เสียชีวิตไปแล้วครับ ไทโซ่มีคำหนึ่งที่กล่าวกันคือ ชายสี่วัน หญิงสามวัน หมายถึงว่าหากมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในชุมชน หากเป็นผู้ชายจะเอาศพไว้บ้านเพียง 4 วัน และถ้าเป็นหญิงเอาไว้เพียง 3 วันเท่านั้น แล้วก็เอาไปเผาทันที ไม่มีการเก็บ 50 วัน 100 วันเหมือนไทยอีสานและภาคกลางทั่วไป

สืบประวัติไทโซ่ดงหลวงแล้วทราบว่าย้ายมาจากฝั่งซ้ายแม่น้ำโขงนานมาแล้ว ประมาณรัชการที่ 3 และก็มาอยู่ตามถิ่นที่มีภูเขาเป็นส่วนใหญ่ แถบรอบๆชายเทือกเขาภูพาน หากที่มุกดาหารก็จะเป็นที่ดงหลวง ที่สกลนครก็มีที่อำเภอกุสุมาลย์  

ผู้เฒ่าเล่าว่าสมัยก่อน พ.ศ. 2500 นั้นบ้านพักอาศัยใช้ไม้ไผ่เป็นหลัก ซึ่งยังเหลือร่องรอยมาจนปัจจุบัน หลังลงจากป่าก็ใช้ไม้มาทำบ้านเรือนกันแบบถาวรมากขึ้น แต่ก็เรียบง่ายไม่ได้สร้างวิจิตรพิสดารเหมือนภาคกลางภาคเหนือ    

แต่ที่พักอาศัยหลังสุดท้ายที่จะเล่าต่อไปนี้เป็น บ้านสำหรับผู้เสียชีวิตไปแล้วครับ  ไทโซ่มีคำหนึ่งที่กล่าวกันคือ ชายสี่วัน หญิงสามวัน หมายถึงว่าหากมีผู้เสียชีวิตเกิดขึ้นในชุมชน หากเป็นผู้ชายจะเอาศพไว้บ้านเพียง 4 วัน และถ้าเป็นหญิงเอาไว้เพียง 3 วันเท่านั้น แล้วก็เอาไปเผาทันที ไม่มีการเก็บ 50 วัน 100 วันเหมือนไทยอีสานและภาคกลางทั่วไป 

การเอาศพไว้ที่บ้าน 3 หรือ 4 วันนั้นก็ทำพิธีสวดศพง่ายๆ ให้ญาติพี่น้องมาเคารพศพ ไม่นิยมเอาไปตั้งศาลาที่วัดเหมือนคนในเมือง ก็เอาไว้ที่บ้านนั่นแหละ เมื่อครบกำหนดชาย 4 หญิง 3 แล้ว ญาติก็จะนำเอาไปเผากลางทุ่งนา หรือชายป่า แล้ววันรุ่งขึ้นก็ไปเอากระดูกเอาไปเก็บไว้ที่ ธาตุ หรือภาคกลางเรียก เจดีย์ธาตุ  

ไทโซ่ไม่เอากระดูกเข้าบ้าน แต่จะเก็บไว้ที่นา โดยเอาธาตุไปสร้างไว้ตามนาต่างๆ หากเป็นกระดูกพ่อ แม่ ก็จะเอาไปไว้ที่นาของพ่อของแม่นั่นแหละ ทั้งนี้กล่าวกันว่า เพื่อให้พ่อแม่อยู่กับนาเจ้าของที่เขาทำกินมาตลอด และทุกครั้งที่ลูกหลานมาทำนาก็จะระลึก ถึงพ่อแม่ ระลึกถึงคำสั่งสอน คำสั่งเสียต่างๆไปตลอด  

ธาตุ มีที่มาที่ไปด้วย คนอีสานทั่วไป โดยเฉพาะจังหวัดรอบๆริมแม่น้ำโขงรวมไปถึงชุมชนฝั่งประเทศลาวจะเคารพนับถือองค์พระธาตุพนมเป็นที่สุด เหมือนเมกกะชาวพุทธแถบนี้ ครั้งหนึ่งในชีวิตต้องเดินทางไปกราบองค์พระธาตุพนมให้ได้ หากท่านศึกษาประวัติศาสตร์ย่อมทราบดีว่าพระธาตุพนมนั้นสร้างตั้งแต่ประเทศไทยยังไม่ได้ผนวกดินแดนแถบนี้ ดังนั้นพี่น้องฝั่งซ้ายของแม่น้ำโขงจึงหลั่งไหลเข้ามากราบไหว้บูชาตลอดทั้งปี  นอกจากนี้ก็มีพระธาตุอิงฮังที่เมืองสะหวันนะเขตตรงข้ามกับเมืองมุกดาหาร ซึ่งเป็นพระธาตุที่มีความสำคัญทัดเทียมกัน สนใจโปรดดูที่ http://www.nkpinfo.com/forum/show.php?Category=nkptour&No=70  

จากการที่พี่น้องในบริเวณนี้เคารพกราบไหว้องค์พระธาตุพนม รวมทั้งไทโซ่ดงหลวงด้วย ยังนิยมเอากระดูกผู้ตายใส่ในเจดีย์ที่มีรูปเหมือนองค์พระธาตุพนมมาตั้งแต่โบราณอันเป็นยุคที่สองของพัฒนาการบ้านผู้ตาย ดังนี้

  • ยุคที่ 1 นานมาแล้ว ใส่กระดูกผู้ตายไว้ในหม้อดินแล้วฝังไว้ในที่นา หรือชายป่า ยังสามารถพบได้ตามชายป่าบางแห่ง
  • ยุคที่ 2 เปลี่ยนจากหม้อมาเป็นไม้ที่แกะสลักแบบง่ายๆเป็นองค์ธาตุพนม แล้วเจาะช่องเอากระดูกใส่ข้างใน แล้วเอาไปปักไว้ตามชายป่าที่เป็นที่นาของผู้ตาย ยังพอมีเหลือให้เห็นบ้าง
  • ยุคที่ 3 เป็นยุคปัจจุบันที่มีงานก่อสร้างปูนซีเมนต์เป็นรูปจำลององค์ธาตุพนม เอากระดูกผู้ตายมาใส่ข้างใน  

 

กล่าวได้ว่าธาตุ หรือเจดีย์เก็บกระดูกผู้ตายนี้คือบ้านที่พักสุดท้ายของไทโซ่ ความนับถือองค์ธาตุพนมแม้ตายไปแล้วก็ยังขอเข้าใกล้สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่เขาเคารพ เตือนสติให้คนอยู่ในธรรมยามมีชีวิตอยู่    

แต่ปัจจุบันเกิดปรากฏการณ์ทำลายสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นแล้วคือ มีการร้องเรียนว่า ธาตุของผู้ตายกลางทุ่งนานั้นโดนใครมาทำลายลงจำนวนมาก จากการสืบสวนพบว่า เป็นฝีมือกลุ่มติดสิ่งเสพติด ไปพังธาตุเก็บกระดูกค้นหาเศษสตางค์ เพื่อเอาไปซื้อยาเสพติดครับ ?????

หมายเลขบันทึก: 94206เขียนเมื่อ 4 พฤษภาคม 2007 00:49 น. ()แก้ไขเมื่อ 14 มิถุนายน 2012 12:29 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (15)

ตามมาอ่านค่ะ
                น่าสนใจมากค่ะ   ในการเก็บศพ  ชาย 3 หญิง 4  โดยหลักธรรมชาติ  ถ้าในยุคก่อนสามารถเก็บไว้ได้ต้องมีเทคนิคที่น่าสนใจแน่   เพราะโดยส่วนมากกล่มชุมชนต่างๆ   ที่โยกย้ายถิ่นข้ามมาจากฝั่งลาวนิยมเก็บศพไว้บ้าน  1  คืน หลังเสียชีวิตรุ่งเช้านำไปฝัง  เรียกว่า   เอาไปป่า   และในบางแห่งเสียชีวิตแล้วจะต้องฝังเลยภายในวันนั้น

สวัสดีค่ะพี่บางทราย

วันนี้พี่องุ่น แย่งตำแหน่งคนแรกไปแล้วอิ อิ  ตามมาอ่านต่อจากตอนที่แล้วค่ะ  ไม่มีคนเฝ้า แล้วเห็นเป็นที่เปลี่ยว พวกนี้จึงเข้ามาทำลายธาตุกระดูก เพียงเพราะเศษสตางค์ของคนตาย  น่าสงสารพวกนี้จริง ๆ ค่ะ เขาเรียกว่าตายทั้งเป็นนี่เอง

สวัสดีครับคุณพี่องุ่น

  • ผมยังไม่ได้เจาะลึกมากเท่าใดครับเรื่องรายละเอียดพิธีต่างๆของคนตายนี่นะครับ
  • แต่ชาย 4 หญิง 3 นี่เห็นเป็นประจำอยู่แล้วครับ  เมื่อครบกำหนดจริงๆ ญาติมาไม่ทันก็ไม่รอด้วยซ้ำไปครับ
  • เอาไว้มีข้อมูลมากขึ้นก็จะเอามาขยายต่อครับ
  • ขอบคุณครับ

สวัสดีน้องราณีครับ

  • เหตุการณ์ลักขโมยเศษสตางค์นี่เพิ่งจะเกิดขึ้นปีที่แล้วนี่เอง  แต่ก่อนไม่เคยมีปรากฏ
  • พวกติดยาเสพติดนี้มันไม่เกรงกรัวต่อบาปบุญคุณโทษอะไรเลย  เอาทุกอย่างที่จะหาเงินไปซื้อยามาเสพได้  อันตรายจริงๆ ฤทธิยาเข้าไปบงการชีวืตคนได้  คนยังยอมให้มันบงการนะ คนจริงๆเลย
  • ขอบคุณครับน้องราณี

สวัสดีครับพี่บางทราย

ได้ทราบรายละเอียดของไทโซ่เพิ่มอีกแล้วครับ  แต่ชอบประโยคนี้มากครับ ไทโซ่ไม่เอากระดูกเข้าบ้าน แต่จะเก็บไว้ที่นา โดยเอาธาตุไปสร้างไว้ตามนาต่างๆ หากเป็นกระดูกพ่อ แม่ ก็จะเอาไปไว้ที่นาของพ่อของแม่นั่นแหละ ทั้งนี้กล่าวกันว่า เพื่อให้พ่อแม่อยู่กับนาเจ้าของที่เขาทำกินมาตลอด และทุกครั้งที่ลูกหลานมาทำนาก็จะระลึก ถึงพ่อแม่ ระลึกถึงคำสั่งสอน คำสั่งเสียต่างๆไปตลอด 

สวัสดีค่ะคุณบางทราย (คนเข็นครก ขึ้นภูเขา)

ได้เห็นรูปแบบพิธี และแนวความคิดของชาวไทโซ่แล้ว ประทับใจ รู้สึกเหมือนกับอ.ภูคา และครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์ เลยค่ะ

แต่ยังสงสัยว่าทำไมต้อง 4 กับ 3 อยู่ค่ะ ไม่ใช่เรื่องชายหรือหญิงนะคะ แต่เป็นเรื่องทำไมต้อง 4 วันกับ 3 วันน่ะค่ะ  แล้วค่อยๆ เล่าเป็นบันทึกต่อก็ได้ค่ะ จะได้ติดตามตอนต่อไป ขอบคุณนะคะ

สวัสดีครับน้องภูคา

ผมก็ชอบครับ

เห็นไหมว่าคนป่าคนดอยเขาก็มีหลักคิดของเขา คนนอกเข้าไปอย่าเพิ่งไปมองเขาต่ำต้อยไปทุกเรื่อง ค่อยๆนั่งลงและเป็นผู้ถามที่ดี เป็นผู้รับฟังที่ดี ก็จะได้อะไรมากมาย ที่คนอย่างเราที่เรียกปัญญาชน(เรียกเองนะเนี่ย) ยังทึ่งในระบบของเขา 

 แน่นอนในหลายเรื่องเขาด้อย แต่หลายเรื่องเราคนนอกต้องเรียนรู้จากเขาครับ

ขอบคุณมากครับ

สวัสดีครับท่านครูบา สุทธินันท์ ปรัชญพฤทธิ์

กำลังตามมาครับ บันทึกต่อไปมอบให้โดยตรงกับคณะที่จะมาร่วมงานเฮฮาศาสตร์ครั้งที่สองครับท่านครับ

สวัสดีครับอาจารย์กมลวัลย์

ตรงกันครับ ผมกำลังตามเรื่องนี้อยู่พอดีครับ รอเดี๋ยวนะครับ

โห....

  • ตายแล้วยังโดนรังแกอีกครับ 
  • โซ่ มีธาตุไม้ไหมครับ
  • ลวดลาย รูปแบบเป็นแบบไหนครับ

สวัสดีครับคุณออต

  • โซ๋ก็มีธาตุไม้เหมือนกัน ผมเคนถ่ายรูปไว้ ตามหายังไม่พบเลยว่าเอาไปซุกไว้ที่ไหน เพราะรูปมีหลายพันรูป
  • ลวดลายเป็นการจำลองลักษณะขององค์ธาตุพนมน่ะครับ วันหลังพบแล้วจะเอามาให้ดู
  • หรือถ่ายมาใหม่ก็จะเอาให้ดูครับ
  • ขอบคุณครับ

ได้ความรู้มากจริงๆค่ะ

น่าสลดใจที่ยาเสพติดได้ทำลายทุกอย่างในสังคมไทย

เรื่องเจดีย์มีความเชื่อกันหลายแบบนะคะ เคยไปพุกาม ไปเห็นทะเลเจดีย์นับพันๆ เขาสร้างเพื่อเป็น"บุญ"ไม่ได้บรรจุกระดูก หรือเคยทราบมาว่าที่เนปาลเขาจะสร้างเจดีย์ที่ไม่ใหญ่นักเปนสัญญลักษณ์ของสิ่งดีๆที่เกิดขึ้นในชีวิตในช่วงหนึ่งๆ เช่นปีที่ได้ลูกชายเป็นต้น และมีการนำดอกไม้ไปเซ่นไหว้บูชา

สวัสดีครับ คุณนายดอกเตอร์

อื่อ..น่าสนใจข้อมูลที่กล่าวถึง

ทุกความหมายดังกล่าว  แสดงให้เห็นว่าการสร้างเจดีย์เป็นศรัทธาและเป็นสัญลักษณ์ที่มีต่อศรัทธานั้น

ขอบคุณครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท