เรื่องเล่าจากดงหลวง 136 การทำงานชุมชนแบบใดในวิถีไทย


“สังคมเราเป็นสังคมความสัมพันธ์ ไม่ใช่สังคมหลักการ” ซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสีย ลักษณะสังคมเช่นนี้มีตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงผู้ที่มีความรู้ทั้งหลาย มันเป็นความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อผลประโยชน์เข้ามามากกว่าความสัมพันธ์ธรรมดา จนบางทีเราแยกแยะไม่ออกหากไม่อยู่วงในจริงๆ

สมัยทำงานที่ชนบททางภาคเหนือเมื่อปี พ.ศ. 2518 นั้น ผู้บันทึกต้องทึ่งกับวัฒนธรรมชาวบ้านชนบทที่เมื่อเห็นคนแปลกหน้าอย่างผมในหมู่บ้านก็ทักทาย  แม้กลางทางที่เดินสวนกัน อย่างน้อยก็ถามว่าจะไปไหน มาจากไหน มาทำอะไร เป็นการพูดคุยเพื่อสำรวจว่าเราเป็นใครมาทำอะไร เมื่อได้ข้อมูลชัดเจนและเขาเชื่อมั่นระดับหนึ่งแล้วก็จะแสดงความสนิทสนมอีกขั้นหนึ่ง เช่นเชิญดื่มน้ำ กินข้าว ไปเยี่ยมบ้าน  หากเข้าใจเป็นที่ชัดเจนและเชื่อมั่นที่สุดแล้วก็เชิญนอนพักที่บ้านได้ เพื่อนบ้านญาติพี่น้องก็จะแวะเวียนมาเยี่ยมดูตัวกัน  

หากใกล้ชิดสนิทสนมกันนานเป็นเดือนเป็นปี ก็จะเรียกเราเป็นลูกเป็นหลานไปเลย มีงานอะไรในหมู่บ้านก็จะบอกเราให้ไปร่วม หากเป็นงานตานก๋วยสลากละก้อ เตรียมเงินแบ้งค์ย่อยๆไว้ให้เต็มกระเป๋านะเพราะเขาจะมาเชิญให้ไปร่วมทุกหลังคาเรือน และเราก็ต้องร่วมทำบุญทุกหลังคาเรือน ไม่มากหรอกครับ 10-20 บาท เท่านั้นก็เป็นสินน้ำใจ  แต่หลายหลังคาเรือน หลายหมู่บ้านก็เล่นเอากระเป๋าเบาไปเลย บางเดือนกระเป๋าฉีกเลยครับโดยที่หน่วยงานไม่ได้รับผิดชอบค่าสังคมส่วนนี้ ผู้ปฏิบัติต้องสร้างทุนทางสังคมเอง 

แต่สิ่งที่ได้รับคือความรักความผูกพัน ความสนิทสนม ความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่กัน ลูกหลานเขาไม่สบายเราก็เอารถไปส่งให้โดยไม่คิดเงินทองอะไร เดือดเนื้อร้อนใจอะไรก็มาพูดมาคุย ปรึกษาหารือ ยิ่งเราใกล้ชิดชาวบ้านมากกว่าหน่วยงานอื่นๆ ที่ไม่สามารถคลุกคลี และให้เวลากับชาวบ้านได้มากเท่าเรา ก็ยิ่งเห็นความต่าง !!  

ความสนิทสนมกันเช่นนั้นน่าจะเป็นเรื่องดีดี เช่น การแลกเปลี่ยนเรียนรู้ทำได้เต็มที่ไม่มีความกังวลว่า เองเป็นใครมาถามข้อมูลอะไรมากมาย แต่สังคมไทยเมื่อเป็นพวกเดียวกันแล้ว ความสัมพันธ์นี้มีผลไปถึงส่วนอื่นๆมากมายรวมไปถึงลักษณะที่ผู้บันทึกสรุปเอาว่า สังคมเราเป็นสังคมความสัมพันธ์ ไม่ใช่สังคมหลักการ ซึ่งมีทั้งข้อดีข้อเสีย   ลักษณะสังคมเช่นนี้มีตั้งแต่ชาวบ้านไปจนถึงผู้ที่มีความรู้ทั้งหลาย มันเป็นความซับซ้อนมากขึ้นเมื่อผลประโยชน์เข้ามามากกว่าความสัมพันธ์ธรรมดา จนบางทีเราแยกแยะไม่ออกหากไม่อยู่วงในจริงๆ  

อย่างผู้บันทึกเคยเล่าประสบการณ์ว่ามือปืนยุติการรับคำสั่งฆ่าเพราะรู้ว่าคนที่จะไปฆ่าเป็นผู้มีพระคุณมาก่อน สังคมแบบนี้จึงไม่มีขาวบริสุทธิ์ และไม่ดำสนิท นอกจากขาวขุ่นๆ และดำๆด่างๆ ในชุมชนชนบทมักจะไม่ค่อยเห็นความขัดแย้งแบบไม่เผาผีกันเลย แต่จะมี ความขัดแย้งแบบขลุกขลิกไปด้วยกัน อาจจะมีพูดจาเชือดเฉือนกันบ้างในที่ประชุม แต่ก็อยู่ด้วยกันได้ แต่ละชุมชนมีความแตกต่างกันในรายละเอียดตามลักษณะทางประวัติศาสตร์ชุมชนและโครงสร้างชุมชน เช่น บางชุมชนมีระบบเจ้าโคตร ที่ยังทำงานอยู่ ซึ่งซ้อนกับระบบการปกครองปัจจุบันที่มีกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน อบต.  

แต่บางชุมชนระบบเจ้าโคตรตายไปนานแล้ว เหลือแต่ผู้นำที่มีหัวทางธุรกิจการค้า และคบค้ากับผู้มีสี และมียศตำแหน่งเพื่อเสริมฐานะทางสังคมของตนเอง  ข้อเท็จจริงเหล่านี้เป็นเงื่อนไขที่สำคัญต่อกระบวนการทำงานที่หวังผลในพื้นที่ จะต้องออกแบบไม่เหมือนกัน ต้องเอาเงื่อนชุมชนเป็นตัวตั้งแล้วออกแบบให้เหมาะสมกับเงื่อนไขนั้นๆ ในแต่ละชุมชน ??   ดังนั้นผู้ทำงานจะมีเพียงความปรารถนาดี หรือมีอุดมการณ์เพียงอย่างเดียวไม่เพียงพอ ต้องรอบรู้และจัดเจนด้วย เครื่อมือทางวิชาการที่เรียนมาก็ช่วยได้มากทีเดียว เช่นการทำ Sociometrix เราก็จะทราบ Human node ในด้านต่างๆ และนั่นคือ Key person หรือ Key informant ที่เราต้องศึกษาจากท่านอย่างละเอียด 

สาระด้านนี้ทางหน่วยงานราชการที่ทำงานเกี่ยวข้องกับชุมชนคงไม่เอื้อที่จะทุ่มเทเวลามาทำความเข้าใจประเด็นเหล่านี้  กิจกรรมที่ออกแบบมาจากข้างบนก็สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทำเหมือนกันทั่วประเทศ โดยไม่ได้แยกแยะว่าวิธีการกระบวนการขั้นตอนที่ทำนั้นต้องรื่นไหลไปตามเงื่อนไขของชุมชน แต่ระเบียบราชการไม่ได้เอื้อต่อข้อเท็จจริงเหล่านี้ นี่คือส่วนหนึ่งที่ระบบใหญ่ ดังนั้นเราจะ Re engineering ระบบนี้อย่างไรดีครับ

หมายเลขบันทึก: 115246เขียนเมื่อ 28 กรกฎาคม 2007 11:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 19:40 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (8)
  • มาทักทาย
  • ทุกท่านคิดถึงพี่อยู่
  • รออยุ่นะครับ
  • อย่าลืมท่านอาจารย์ paew นะครับ

พี่นัดจะไปรับอาจารย์แป๋วตอนบ่ายโมงครับ น้องขจิต

สวัสดีครับพี่บางทรายครับ

P

กระผมติดตามอ่านบันทึกของพี่สม่ำเสมอ ได้เรียนรู้ และได้แง่คิดอันเป็น Tacit Knowledgeที่ดีในการทำงานชุมชนมาก เป็นประโยชน์กับน้องๆที่กำลังทำงานเช่นผม

ชุมชนมีมากกว่าที่เห็น หากเข้าไปสัมผัส และเรียนรู้ ขุมพลังมหาศาล ที่เราเรียกว่า "ภูมิปัญญา" อยู่ที่นั่น

มีโจทย์ที่น่าท้าทายว่า เราจะทำอย่างไรที่จะจัดการความรู้เหล่านั้นออกมาเพื่อพัฒนาชุมชนของเรา

ยกระดับความรู้ สร้างความรู้ และใช้ความรู้ ตลอดจนการผลิตซ้ำ

ขอบคุณพี่บางทรายครับ สำหรับบันทึกที่มีคุณค่า เล่าขานงานชุมชน

น้องๆที่เชียงใหม่รอการมาเยือนของพี่ครับ หลายท่านก็อยากเจอเพื่อที่จะได้พูดคุยในประเด็นเหล่านี้ครับ

ขอบคุณครับ

  • สวัสดีค่ะ ..

วัฒนธรรมชาวบ้านในสมัยก่อนดูอบอุ่นและเต็มไปด้วยน้ำจิตมิตรใจ   แต่ตอนนี้แปรเปลี่ยนไปตามกระแสของโลกและสังคมที่หมุนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็วตามยุคตามสมัย  แต่ฤา จะถอยหลังเข้าคลองในเรื่องศีลธรรม

เคยค่ะ  ตอนสมัยเด็ก ๆ เคยเห็นแม่ไปธนาคารเพื่อแลกแบ้งค์ปลีก เช่น ธนบัตรใบละ 10 บาท และ 20 บาท รวมเป็นเงิน 3000 บาท  เพื่อไปร่วมทำบุญในงานประเพณีปอยหลวงของหมู่บ้านใกล้ ๆ    โอ้ แม่เจ้า

สวัสดีครับท่าน

P

ขออนุญาติตัดนำข้อความบางตอนไปรวมในรวมตะกอนครับ ขอบคุณมากครับ http://gotoknow.org/blog/mrschuai/113523#

สวัสดีครับน้องเอกP

  • น้องเอกเป็นกำลังสำคัญทางเหนือคนหนึ่งนะ น่าชื่นชมบทบาทที่เป็นประโยชน์นี้
  • สังคมทางเหือนเป็นจุดเริ่มต้นชีวิตในงานพัฒนาของพี่ จนถึงปัจจุบัน พี่ยังระลึกชีวิตที่เปลี่ยนแปลงในช่วงนั้นดี และชาวบ้านก็ยังพูดถึง พี่ก็หาทางมาเยี่ยมทุกปี
  • อย่างน้อยที่สุดคนที่จัดรายการเกษตรทุกเช้าตีห้าที่สถานีวิทยุมก.แม่โจ้คือเพื่อนพี่ที่ทำงานด้วยกันมา ชื่อ ขวัญชัย สกุลทอง ไปหาได้เด้อ มีอะไรที่เกี่ยวกับการประชาสัมพันธ์ไปได้เลย

สวัสดีครับน้อง P เนปาลี

  • พี่ประทับใจสังคมชนบททางเหนือมาก ไม่ลืมเลือน และบันทึกได้ไม่รู้จบ เป็นที่เกิดใหม่ของพี่ แต่วิถีชีวิตต้องล่องลอยไปอีสานอย่างไม่ได้มีแผนมาก่อนและอยู่ที่นั่นจนถึงปัจจุบัน เพื่อนฝูงทางเหนือยังมีมากมายและติดต่อกันอยู่ แม้ชาวบ้านในพื้นที่สะเมิงก็ตาม เรามีการพบปะกันเกือบทุกปีครับ
  • ขออภัยที่หนังสือช้าไปหน่อยนะครับเพราะทางร้านเขาสั่งมาช้ามาก เขาให้เหตุผลว่าเอเยนต์เปลี่ยนร้ายใหม่เลยทำให้ยุ่งยากในการติดต่อและจัดระบบ ขออภัยนะ ช้าหน่อยนะครับ  

สวัสดีครับ P สิทธิรักษ์

  • ด้วยความยินดีครับที่เอาบันทึกไปเผยแพร่
  • ผมก็จะตามไปเรียนรู้ครับ 
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท