เราจะได้ขึ้นเครื่องบินลำนี้ ซึ่งจะออกจากพิษณุโลก ไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็น Flight แรกเช่นเดียวกัน
บันทึกนี้ตั้งใจเขียนเพื่อเป็นเศษเสี้ยวเล็กๆ (ในฐานะของผู้โดยสารคนหนึ่ง) ในประวัติศาสตร์ของวันที่ 15 กันยายน 2549 ซึ่งเป็นวัน "First Commercial Day" หรือวันแรกของการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ (Suvarnabhumi Airport) ในเชิงพาณิชย์ของ "การบินไทย"
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- ตอนเช้าผมไปถึงสนามบินเวลาประมาณ 7.30 น. ขณะกำลังเดินจากลานจอดรถเพื่อจะเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร คุณตูน (เจนจิต...จากบันทึกนี้) กำลังจอดรถอยู่ ได้เรียกทักผม ผมก็ได้หยุดรอ....
- เรากำลังจะไปประชุมที่สำนักงาน สกว. ในเรื่องเกี่ยวกับ "การเตรียมการมหกรรมการจัดการความรู้ครั้งที่ ๓" ในส่วนของ UKM หรือการจัดการความรู้ในมหาวิทยาลัยเครือข่าย
- พอเข้าไปในอาคารผู้โดยสาร ของสนามบินพิษณุโลก คุณตูนบอกว่า "วันนี้เครื่องบิน delay" ประมาณ 17 นาที (ไม่ใช่การ delay ปกติ แต่คงมีเงื่อนงำ ติดตามจากข่าวนะครับ)
- ผมถามว่าทราบได้อย่างไร ก็ได้รับคำตอบว่า "ดูข่าวจาก modern 9"
- แต่ตอนที่เราไปถึงสนามบินนั้น Flight แรก (ปฐมฤกษ์) ของการบินไทย จากสนามบินสุวรรณภูมิ ได้ถึงพิษณุโลกเรียบร้อยแล้ว....
- และเราจะได้ขึ้นเครื่องบินลำนี้ ซึ่งจะออกจากพิษณุโลก ไปลงที่สนามบินสุวรรณภูมิเป็น Flight แรกเช่นเดียวกัน
- เราได้เข้าไป check in เพื่อออก boarding pass ผมได้ที่นั่ง 48 K ในเที่ยวไป และได้ที่นั่ง 34 B ในเที่ยวกลับ
- เราได้ของที่ระลึกจาก "การบินไทย" ดังภาพที่นำมาแสดงครับ
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
- เมื่อขึ้นไปบนเครื่อง ผมได้ที่นั่งติดหน้าต่าง
- วันนี้เหมือนท้องฟ้าจะสวยเป็นพิเศษ มีปุยเมฆสีขาวค่อนข้างมาก แล้วผมยังเห็นปุยเมฆ อยู่เหนือชั้นเมฆบางๆ สีขาว
- ขณะบินลงไปทางใต้ ผมอยู่ด้านขวาของเครื่อง (ทิศตะวันตก) ได้เห็นเงาของเครื่องบิน ทอดลงไปบนชั้นเมฆ ภายในวงกลมเหมือนพระอาทิตย์ทรงกลด และวันนี้เหมือนเงาใหญ่มาก เนื่องจากเครื่องบิน บินอยู่เหนือเมฆเพียงเล็กน้อยเท่านั้น...ภาพอย่างนี้ปรากฎเพียง 2 ครั้ง และครั้งละ 2-3 วินาทีเท่านั้น
- พอล้อเครื่องบินแตะสนามบินสุวรรณภูมิ ..ไม่นิ่มอย่างที่คิด.. ตอนนั้นผมมิได้ตื่นเต้นแต่อย่างใด เนื่องจากลืมนึกว่า "ที่นี่สุวรรณภูมิ"
-
ผมอยากทราบว่าใครเป็นคนตั้งชื่อนี้ เพราะว่าเหมาะสมมาก ชอบมาก...ถ้าค้นตอนนี้ก็คงพอจะทราบ..แต่ผมจะปล่อยปริศนานี้ไว้ก่อน....
- มานึกได้อีกทีว่าตื่นเต้น ก็ตอนเห็นเครื่องบินเลี้ยวมาใกล้อาคารผู้โดยสาร รู้สึกว่าเป็นสนามบินที่ยิ่งใหญ่ "ภูมิใจกับสนามบินแห่งนี้ และรู้สึกภูมิใจ (อีกครั้ง)ที่ได้เกิดบนแผ่นดินไทย "
- ขณะรอประตูเครื่องบินเปิด ก็ได้เห็นรถสายพานขนสัมภาระมาจอดติดกับท้องเครื่องบินและขนสัมภาระเข้าไปใส่ในรถกระบะ มีคนมาช่วยขนเกือบ 1 โหล (ผมไม่ได้ใช้บริการส่วนนี้)...กระเป๋าใบแล้วใบเล่า ถูกโยนเข้าไปในรถ โดยมีเจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งจัดเรียงให้เป็นระเบียบ...ตรงส่วนนี้คงยังไม่เนียนในเนื้องาน..
- เราออกจากสนามบินพิษณุโลก Late ไป 5 นาที แต่เราได้ลงจากเครื่องตอน 9 โมงพอดี ไม่เสียเวลาเลย
- พอเราโผล่เข้าไปในสนามบิน เราก็พบกับทีมงาน "กบนอกกะลา" (ภาพอยู่กับคุณตูน)
- คุณตูนเห็นก่อน แล้วเขาก็ขอสัมภาษณ์เรา ถึงความรู้สึกที่มาใช้สนามบินแห่งนี้
- เราก็ได้พูดถึงความประทับใจ และมีส่วนร่วม ในบันทึกประวัติศาสตร์นี้
- ระหว่างทาง ผมบอกคุณตูนว่า ถึงแม้เราเกิดไม่ทันสนามบินดอนเมือง แต่เราเกิดทันสนามบิน "สุวรรณภูมิ"
- ติดตามเสี้ยงหนึ่งของการสัมภาษณ์ ได้ทางทีวีนะครับ...ถ้าใครได้ชม ช่วยบอกต่อด้วย..ขอบคุณล่วงหน้าครับ
- เราใช้เวลาเดินมาถึงทางออก แบบไม่รีบเร่ง 20 นาที ระหว่างทางมี "ทางเลื่อน" 2-3 แห่ง ไป-กลับสวนทางกัน
- พอมาถึงทางออก เราก็ได้ขึ้น "รถเวียน" หรือ "Shuttle Bus = รถเวียน" ออกมาที่ศูนย์ขนส่ง
|
ภาพบรรยากาศภายในรถเวียนถ่ายโดย beeman แต่เราไม่ได้ถามว่า "พขร" ชื่อว่าอะไรครับ |
- ผมกับคุณตูน มีความเห็นไม่ตรงกันเรื่องพาหนะ ที่จะพาเราไปยังสถานที่จัดประชุม โดยผมเห็นว่าควรขึ้นรถประจำทางปรับอากาศสายสีน้ำตาล ระหว่าง สุวรรณภูมิ-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ แต่คุณตูนยืนยันว่า ยังไงก็ "Taxi meter" เนื่องจากต้องการจับเวลา
- สุดท้ายจะเป็นอย่างไร โปรดติดตาม ตอน 2 ครับ
- เชิญดูภาพทางเลือกของการเดินทางด้านล่าง