จังหวัดพัทลุงมีพื้นที่เหมาะกับภาคเกษตรกรรม  มีพื้นที่ประกอบด้วย เขา- ควน-ป่า-นา- เล  ที่เห็นเป็นเชิงประจักษ์มีป่าอยู่ 2อำเภอคือ

อำเภอป่าบอน และ

อำเภอป่าพยอม   มีเขาอยู่ 2 อำเภอ

อำเภอศรีบรรพต  และ

อำเภอเขาชัยสน   มีควน 1 อำเภอ  คือ

อำเภอควนขนุน    มีบางเป็บลำคลองส่งน้ำลงสู่ทะเลสาบ 1 อำเภอ  คือ

อำเภอบางแก้ว   มีอ่าวเป็นปากน้ำ 1อำเภอ คือ

อำเภอปากพะยูน  เป็นข้อยืนยันว่าเป็นพื้นที่เกษตกรรมโดยเฉพาะการทำนาในอดีตที่ผ่านมา คนเมืองลุงดำรงวิถีชีวิตตามปรัชญาเศรษบกิจพอเพียงอย่างมั่นคง  ประมาณว่า เลี้ยงเป็ดไว้กินไข่ เลี้ยงไก่ไว้กินตัว เลี้ยงวัวไว้ไถนา เลี้ยงหมาไว้เฝ้าบ้าน (ประมวล มณีโรจน์)  แต่วันนี้ บิ๊กซี โลตัส ก็เข้ามา  เพื่อพัฒนา พัทลุง มุ่งให้ตามทันเพื่อนบ้าน

    องค์กรอิสระที่ทำงานในพื้นที่  หลายองค์กร  หลายคน สงเสียงทักทายถึงถัยที่ยังมาไม่ถึง  แต่ไม่อาจต้านกระแสแห่งการพัฒนาได้   หลายคนเริ่มถามหาสภาองค์กรชุมชนทัองถิ่นว่าน่าจะเป็นทางออกของการพัฒนา  ที่ชาวบ้านได้มีส่วนร่วม   ร่วมคิด ร่วมรับผลประโยชน์  หรือโทษ ที่จะมีขึ้นเพราะได้คิดร่วมกันมาแล้ว 

      การขับเคลื่อนให้เกิดสภาองค์กรชุมชน พัทลุง ได้ดำเนินมามีการจดแจ้ง จัดตั้งเป็นสภาฯแล้ว  11 ตำบล  1 เทศบาล และได้จัดประชุมสภาองค์กรชุมชน จังหวัดขึ้น  เมื่อ วันที่ 19 สิงหาคม 2551 ที่ศากลางจังหวัด   ผลการประชุมได้ผู้ทรงคุญวุฒิ  5 ท่านดังนี้

1 นายแก้ว สังข์ชู          ตัวแทนเครือข่ายแผนแม่บทชุมชน 4 ภาค

2  นายสำเริง   สุดสวาท ตัวแทนสถาบันชุมชนท้องถิ่นพัฒนา

3 นายวิจิตร    ดำประสิทธิ์ ตัวแทนสื่อมวลชน

4 นายจำนง อรุณรัตน์     ตัวแทนข้าราชการบำนาญ

5นายปกรณ์   พงศ์จันทรณเสถียร    ตัวแทนเครือข่ายชีวิตสาธารณะท้องถิ่นน่าอยู่

และได้สรรหาบุคคลที่จะเป็นตัวแทนเข้าร่วมประชุมสภาองค์กรชุมชนตำบลระดับชาติ  2 ท่าน คือ

1นายถวิล  ทองนวล   จากตำบลพนางตุง

2 นายวิวัฒน์ หนูมาก จากตำบล โคกสัก

และได้สรรหาตัวบุคคลที่ไปเป็นตัวแทนเข้าเป็สมาชิก  สภาพัฒนาการเมืองระดับชาติ 1 คน คือ

 นายโกศล พรหมช่วย

ต่อไปนี้บุคคลเหล่านี้คงเป็นปากเสียงแทนชาวบ้านในการพัฒนา ที่ไม่เป็นไปตามที่ชาวบ้านต้องการ

จังหวะก้าวต่อไปคงได้ปรึกษาเพื่อคิดพัฒนาสภาให้เข้มแข็ง  เป็นที่พึ่งของชาวบ้านอย่างแท้จริง