ผมเล่าเรื่อง SiCORE-M (Siriraj Center of Research Excellence Management) ไว้เป็นระยะๆ ที่ (๑) จะเห็นว่า ผมเริ่มเข้าไปเกี่ยวข้องเรียนรู้ตั้งแต่เดือนมีนาคม ๒๕๖๑ เกือบ ๖ ปีมาแล้ว (๒) เริ่มจาก อ. นพ. อัครินทร์ นิมมานนิตย์ เป็นหัวหน้าโครงการ อีก ๑ ปี ต่อมา รศ. นพ. สิทธิ์ สาธรสุเมธี รับหน้าที่ต่อ ตอนนี้ ผศ. ดร. นพ. วรภัทร รัตนอาภา รับหน้าที่หัวหน้าโครงการมาราวๆ ๑ ปีแล้ว เนื่องจากเปลี่ยนคณบดี รศ. นพ. สิทธิ์ ไปทำหน้าที่รองคณบดีฝ่ายวิจัย
SiCORE-M เพื่อสนับสนุน SiCORE ริเริ่มโดยท่านคณบดีท่านก่อน คือ ศ. ดร. นพ. ประสิทธิ์ วัฒนาภา และคณบดีท่านปัจจุบัน (ศ. นพ. อภิชาติ อัศวมงคลกุล) ก็สนับสนุนอย่างจริงจัง (๓) และ ศ. นพ. ประสิทธิ์ ก็ยังเป็นที่ปรึกษาของโครงการ (ที่ปรึกษาของโครงการในปัจจุบันมี ๔ คน คือ ศ. นพ. ประสิทธิ์, ศ. ดร. นพ. ประเสริฐ เอื้อวรากุล อดีตรองคณบดีฝ่ายวิจัย, นพ. สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ และผม)
วันที่ ๒๐ ธันวาคม ๒๕๖๖ มีการประชุมทีม SiCORE-M ประจำเดือนตามปกติ โดยนำข้อสรุปจากการประชุม RIAC (๔) และการประชุมรีทรีต (๕) มาสะท้อนคิดร่วมกัน โดยทีม SiCORE-M สังเคราะห์ข้อมูลมาอย่างดีเยี่ยม ช่วยให้การสะท้อนคิดมีพลังมาก
ข้อสรุปจากการประชุมวันที่ ๒๐ ธ.ค. ๒๕๖๖ สำหรับผมคือ มีความท้าทายรออยู่ข้างหน้า ที่จะต้อง transform SiCORE-M ไปอีกมิติหนึ่ง คือมิติของการขับเคลื่อนโรงเรียนแพทย์ สู่การทำหน้าที่สร้างนวัตกรรมที่มีความหมายต่อประเทศ ในลักษณะใช้ความเข้มแข็งของระบบสุขภาพของไทย ในการพัฒนานวัตกรรม หรือเทคโนโลยีใหม่ ออกสู่ตลาด เพื่อร่วมขับเคลื่อนระบบเศรษฐกิจของประเทศไทยสู่ innovation-led economy
หากศิริราชมีนโยบายเพื่อทำงานนี้ให้แก่ประเทศ ก็เป็นความท้าทายอย่างยิ่งต่อฝ่ายบริหาร ในการทำความเข้าใจกับประชาคมภายในศิริราชที่มีบุคลากรเกือบ ๒ หมื่นคน ให้รวมใจกันสร้างความมุ่งมั่นนี้
นี่คือตัวอย่างของ Transformative Medical Education ที่โรงเรียนแพทย์ก้าวออกไปทำหน้าที่ทางสังคมให้แก่ประเทศ
วิจารณ์ พานิช
๑ ม.ค. ๖๗
ไม่มีความเห็น