ใส่เกียร์..ไหนดี? (2)
วันนี้ผู้เขียนคุยเรื่องการปั่นจักรยานกันต่อ นะคะเป็น บทเรียนที่2 นะคะ ….ที่ผ่านการฝึกมา 2 ครั้งแล้ว .... ถึงตอนนี้ร่างกายของแต่ละท่าน ...น่าจะชินกับ ....ท่าทางในการปั่นจักรยานกันแล้ว .... ระบบการทำงานต่างๆ ในร่างกายก็ควรจะดีขึ้นด้วยนะคะ ... กล้ามเนื้อขาที่ใช้ในการปั่นขาจาน หรือ ถีบลูกบันได ...ก็ได้รับการโปรแกรมให้ปั่นที่ความเร็วรอบสูงแล้วนะคะ ....คราวนี้เรามาเริ่มออกกำลังกันจริงๆ ล่ะ ที่ผ่านมา 2 สัปดาห์นั่น...แค่อุ่นเครื่องเท่านั้นเอง
การหัดใช้เกียร์
ผ่านโปรแกรมฝึกแล้ว...คราวนี้เล่นไม่ยากเพราะขาเราจะชินกับการปั่นที่ 80 รอบ/นาทีกันแล้ว ... ก็ยึดรอบขานี้ไว้เป็นหลัก ... ไม่ว่าเราจะอยู่ที่เกียร์ไหน-ความเร็วเท่าไร ...ก็ให้รักษารอบการปั่นไว้เท่านี้เสมอ …. แล้วจะใช้ยังไงบ้าง? … ก็ต้องมาทำความเข้าใจกับการทำงานของอุปกรณ์ติดจักรยานของเรากันก่อน .... มาดูกันที่ ... “มือสับเกียร์ทั้ง...ข้างซ้ายและขวา”
- ตัวเลขน้อย คือ เกียร์ที่ใช้กับความเร็วต่ำ(แต่ใช้แรงน้อย)
- ตัวเลขมาก ใช้กับความเร็วสูง(แต่ต้องออกแรงมาก)
- มือสับข้างขวา ... จะใช้ในการเปลี่ยนแนวโซ่ไปยังเฟืองขนาดต่างๆ
- ล้อหลัง .... เฟืองเล็ก คือ เกียร์สูง (ตัวเลขมาก-ต้องออกแรงมาก)
- เฟืองใหญ่ คือ เกียร์ต่ำ (ตัวเลขน้อย-ออกแรงน้อย)
- การเปลี่ยนเกียร์ด้วย.. มือขวา ... จะให้ความเร็วในแต่ละเกียร์ ไม่กระโดดต่างกันมาก ซึ่งการเปลี่ยนเกียร์ในการขับขี่โดยทั่วไปแล้วเราจะ...ใช้มือขวาเป็นหลัก”
มือเกียร์ขวา
เราจะเปลี่ยนเกียร์ด้วย ... “มือขวา” ...ตามความเร็วของจักรยาน เช่น จากหยุดอยู่กับที่เริ่มออกตัวก็ควรจะใช้เกียร์1 …. พอขี่ไปหน่อยเริ่มมีความเร็วก็เปลี่ยนเป็นเกียร์ 2 …. เร็วขึ้นอีกก็เปลี่ยนเป็นเกียร์ 3 ไปเรื่อยๆ .... เวลาลดความเร็วลงมาก็ให้เปลี่ยนเกียร์ต่ำลงมาด้วยเช่นกัน ... จนรถหยุดก็จะอยู่ที่เกียร์ 1 เหมือนตอนเริ่มต้นขี่ .... แต่เวลาใช้งานจริงๆ แล้วเกียร์หนึ่งนี่จะเบามากเกินไป ... เรามักจะเริ่มออกรถกันที่เกียร์ 2 หรือ 3 กันมากกว่า
เรื่องที่ต้องจำตรงนี้คือ .... ระบบเกียร์ของจักรยาน...ส่วนใหญ่จะทำงานต่อเมื่อมีการขับโซ่ให้หมุนไปข้างหน้าเท่านั้น เวลาชะลอความเร็วแล้วต้องเปลี่ยนมาเป็นเกียร์ต่ำ ก็ให้ปั่นบันไดเดินหน้าไปด้วยนะคะ
มือเกียร์ซ้าย
มือสับเกียร์ข้างซ้าย .... จะเปลี่ยนแนวโซ่ไปยังจานโซ่ซึ่งมี 3 ขนาด “เล็ก-กลาง-ใหญ่”..... จากขนาดที่ต่างกันมากนี้ทำให้ความเร็วของแต่ละเกียร์ต่างกันมากด้วย ... การที่จะเลือกใช้จานโซ่ไหนก็ขึ้นอยู่กับสภาพเส้นทาง ...ที่เราจะไป เช่น
- จานเล็ก (เกียร์หมายเลข 1) ใช้ในทางที่ไปได้ด้วยความเร็วต่ำแต่ต้องการกำลังมากๆ ช่วงขึ้นเขา หรือ ลุยโคลนลึกๆ ค่ะ
- จานใบกลาง (เกียร์หมายเลข2) สภาพ ทั่วๆไปเราก็จะใช้ เป็นหลักนะคะ
- จานใหญ่ (เกียร์หมายเลข3) ใช้ช่วงที่ต้องการความเร็วสูง เช่น ตอนลงเขา และสำหรับทางในป่า ค่ะ
การปฏิบัติบทเรียนที่2
เริ่มด้วยการใช้จานโซ่ขนาดกลาง (มือสับเกียร์ข้างซ้ายชี้เลข 2) .. .มือสับข้างขวาชี้เลข2 เช่นกัน จะใช้แต่ “เกียร์ที่มือขวา” เท่านั้น … มือสับเกียร์ข้างซ้าย ปล่อยทิ้งไว้อย่างนั้นไม่ต้องไปยุ่งนะคะ …. ออกรถปั่นไปจนกว่า ... “ขาจะซอยอยู่ที่ 80 รอบ/นาที” หรือ มากกว่า .... แล้วเปลี่ยนเกียร์ที่มือขวาเป็นเกียร์ 3 รอบขาของเราจะตกลงมาต่ำกว่า 80 รอบต่อนาที .... เร่งซอยขาจนได้ 80 รอบ/นาทีหรือมากกว่า .... แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์ 4 ...รอบขาจะต่ำกว่า 80 รอบอีกแล้ว เร่งซอยขาจนได้ 80 รอบต่อนาทีหรือมากกว่า .... แล้วเปลี่ยนเป็นเกียร์ 5 พยายามซอยขาขึ้นมาที่ 80 รอบ/นาทีอีก ... แล้วคงความเร็วขนาดนั้นไว้ซักพัก ถึงตรงนี้ท่านจะมีทางเลือก 3 ทางดังนี้ค่ะ
1. ท่านยังมีแรงเหลือเฟือแล้วก็อยากไปเร็วขึ้นอีก ก็ .... เปลี่ยนเป็นเกียร์สูงขึ้นได้เรื่อยๆ
2. ท่านอยากปั่นด้วยความเร็วขนาดนี้แหละ .... ก็รักษารอบขาไว้ประมาณนี้ไปเรื่อยๆ ค่ะ
3. ท่านรู้สึกเหนื่อยและต้องออกแรงที่ขามาก ... ก็ให้ลดเกียร์ต่ำลงมาหนึ่งเกียร์และพยายามคงรอบขาไว้แถวๆ 80 รอบ/นาที
การใช้วิธีซอยขาให้ได้ประมาณ 80-90 รอบ/นาทีนี้ ... แล้วถามความรู้สึกของขาตัวเองว่า .... เกียร์ที่ใช้อยู่นั้นหนักไป(ใช้เกียร์สูงไป) หรือ เบาไป(ใช้เกียร์ต่ำไป) แล้วก็เปลี่ยนเกียร์ขึ้นหรือลงทีละ 1 เกียร์ให้พอดีกับแรงขา แนะนำให้ดื่มน้ำทุก 10-15 นาที พอ1/2 ชม.ก็จอดพักซักหน่อย แล้วก็เริ่มปั่นกลับบ้าน การฝึกในช่วงสัปดาห์ที่ 3 นี้ พยายามใช้เวลาให้ได้ 60-90 นาที/วัน ... ครบ 4-6 วัน ... แล้วก็อย่าลืมพักเต็มๆ อีกวัน ... ก่อนการฝึกในช่วงที่ 4 ด้วยฝึกความชำนาญในการเปลี่ยนเกียร์ด้วยมือขวานี้ให้คล่องในทุกๆเกียร์นะคะ
ขอบคุณข้อมูลจากhttp://www.thaimtb.com/
สรุปได้ว่า .... การหัดใช้เกียร์ ...มือสับเกียร์ข้างซ้าย... อย่าเพิ่งไปเล่น ให้ใช้สมาธิกับการใช้เกียร์ที่มือขวาก็พอแล้วพยายามใช้ให้หมดทุกเกียร์ของ มือขวา .... จับความสัมพันธ์ของเกียร์กับความเร็วในแต่ละเกียร์และกับแรงที่ต้องใช้รักษารอบขาให้อยู่ในช่วง 80-90 รอบ/นาทีตลอดการฝึก….จะเลือกใช้เกียร์ไหนก็ให้ถามขาของตัวเอง ... ว่าเบาไปหรือหนักไป… เวลาเปลี่ยนเกียร์ทุกครั้ง... “ให้ผ่อนแรงถีบบันไดลง” .... “แต่อย่าหยุดปั่น” ... จะทำให้การเปลี่ยนเกียร์นุ่มนวลขึ้นอย่าเพิ่งขึ้นเขา รอให้ฝึกสำเร็จก่อนค่ะ วันนี้จบบทเรียนที่ 2 ไว้เพียงแค่นี้ก่อนนะคะ
ขอบคุณค่ะ
๒๖ พ.ค. ๒๕๕๗
ความเห็น (19)
เป็นคนกลัวการปั่นจักรยาน ทำไงดีคะพี่เปิ้น
...ชอบชุดเท่มากค่ะ
ตามมาอ่านค่ะ ไม่กล้าถีบแล้วค่ะ
จักรยานนี่ขึ้นเป็น ถีบไปได้ แต่ตอนลงไม่เป็น ท่าทางน่าหวาดเสียวมาก เจ็บตัวก็เคย มีแต่คนห้าม เลยไม่กล้าแล้วค่ะ
ขอบคุณ nui มากค่ะ
ขอบคุณ ภูสุภา มากค่ะ
ขอบคูณ อาจารย์ต้น มากค่ะ
ขอบคุณ Pojana Yeamnaiyana Ed.D. มากค่ะ
ขอบคุณ GD มากค่ะ
ขอบคุณ rojfitness มากค่ะ
<p>ขอบคุณในคำแนะนำจ้ะ พี่หมอเปิ้น สงสัยคุณมะเดื่อจะแก่เกินปั่นจักรยานแล้วจ้ะ แค่เดินก็เหนื่อยแล้ววววว…</p>
ใส่ใจเอาจริงจังมากๆค่ะ...
บางคน ใส่ เกียร์ว่างครับ เอ เกี่ยวกันใหมนี่
ชอบตอนอยู่บนเนินสูงชัน แล้วปล่อยจักรยานแล่นลิ่วลงมาโดยไม่ต้องถีบ-ปั่น.....
อารมณ์นั้น คือการหัดปั่นจักรยานตอนเป็นเด็ก ครับ
ขอบคุณค่ะ คุณมะเดื่อ การเดินก็ดีนะคะ ได้ออกกำลังกายที่ดีอย่างหนึ่ง นะคะ
ขอบคุณ คุณ kanchana muangyai มากนะคะ
ขอบคุณ พี่ใหญ่ พี่นงนาท สนธิสุวรรณ มากค่ะ ให้กำลังใจ ตลอดมา นะคะ
ขอบคุณ ท่าน JJ มากๆๆ นะคะ
ขอบคุณท่าน แผ่นดิน มากๆค่ะ
พี่เปิ้นครับ
ได้ความรุ้เรื่องจักรยานและเกียร์ชัดเจนมาก
แต่ชอบชุดปั่นมาก
เท่และรัดกุมดี แบบนี้ปลอดภัยแน่
จำได้ว่าพี่เคยเล่าว่า ปั่นไปบางที่สุนัขชอบไล่เห่า 555
ขอบคุณมากๆครับ
อย่าลืมปั่นให้คุ้มกับที่ต้องจ่ายไปนะคะ
จักรยานแพงน่าดูนะเนี้ยะ
ขอบคุณท่าน ขจิต ฝอยทอง มากค่ะ .... ใช้แล้วค่ะ ถ้าปั่นจักรยานกลางคืน หมาชอบไล่เห่า นะคะ ต้องปั่นตอนเช้า นะคะ
ขอบคุณ กล้วยไข่ มากๆ จ๊ะ .. ใช้แล้ว ลงทุนมาก ต้องเอา
จริง เอาจัง ให้ได้ ห้ามแพ้ใจ ตนเอง นะคะ
กลับมาจากภูเก็ตแล้วครับ
มารายงานตัว
เย็นนี้ว่าจะไปปั่นจักรยานครับ