อนุทินล่าสุด


ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

วิธีเขียนแผนธุรกิจ

ผู้เขียน : ชัยเสฏฐ์ พรหมศรี

“วิธีเขียนแผนธุรกิจ” เล่มนี้ เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่จะเริ่มต้นประกอบธุรกิจ ผู้ประกอบการ หรือเจ้าของกิจการ ที่จะได้เรียนรู้แนวทางการเขียนแผนธุรกิจด้วยเนื้อหากระชับ เข้าใจง่าย รวมทั้งยังทำให้คุณค้นพบแหล่งเงินทุนตลอดจนพันธมิตรทางการค้าเพื่อก้าวไปสู่ความสำเร็จในอนาคตอีกด้วย

โดยเนื้อหาในเล่มจะบอกถึงการเขียนแผนธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ สามารถนำมาใช้ได้จริงในโลกแห่งการทำงาน ได้ประยุกต์ใช้โดยเฉพาะผู้ประกอบการยุคใหม่ไฟแรงที่จะช่วยในการวางแผนจากเรื่องยากให้กลายเป็นเรื่องกล้วยๆ ไม่ซับซ้อน วุ่นวาย เช่น แผนธุรกิจคืออะไร?, ทำไมต้องเขียนแผนธุรกิจ, ประโยชน์ของการทำแผนธุรกิจ, จุดมุ่งหมายของแผนธุรกิจ, การเตรียมตัวก่อนเขียนแผนธุรกิจ ฯลฯ ตลอดจนข้อพึงระวังต่างๆ เหล่านี้จะเป็นตัวช่วยที่ดีของคุณ

เริ่มต้นเขียนแผนธุรกิจวันนี้ด้วยความเข้าใจที่ถูกต้อง จะช่วยให้การเริ่มต้นทำธุรกิจประกอบกิจการต่างๆ ผ่านไปได้ด้วยความรวดเร็ว และการทำงานไหลลื่นไม่สะดุดเพราะเรามีการวางแผนธุรกิจอยู่ในมือแล้ว…



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

ผู้ส่งสารอันมั่งคั่ง (The Millionaire Messenger)

ผู้เขียน : เบรนดอน เบอร์ชาร์ด (Brendon Burchard) ผู้แปล ฉัตรชัย ศิริวานนท์

“ผู้ส่งสารอันมั่งคั่ง” เล่มนี้ เหนังสือเล่มนี้จะช่วยให้คุณค้นหาตัวเองว่ามีความถนัดด้านใด และสามารถทำให้ตนเองเป็นผู้เชี่ยวชาญในด้านใดด้านหนึ่งที่ตนเองมีความถนัดได้ และหนทางที่จะค้นหาศักยภาพของตนเองและสามารถเดินทางไปสู่ความเป็นผู้เชียวชาญนั้นๆ พร้อมทั้งสามารถหารายได้เพื่อเพิ่มความมั่งคั่งให้กับตัวเองได้ด้วยพร้อมกับบทบัญญัติของผู้เชียวชาญที่ควรมี



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

สวยด้วยเลเซอร์

ผู้เขียน : ศ. นพ.วรพงษ์ มนัสเกียรติ

“สวยด้วยเลเซอร์” เล่มนี้ ว่าด้วยเรื่องของเทคโนโลยีสมัยใหม่อย่างเลเซอร์ เรื่องที่คุณต้องรู้ก่อนไปเลเซอร์ เพราะต้องยอมรับว่าปัจจุบันนี้การทำเลเซอร์โดยเฉพาะกับเรื่องของความสวยความงามอย่างผิวหน้ามีบทบาทอย่างมาก ณ ขณะนี้ หนังสือเล่มนี้จึงสามารถตอบโจทย์และไขข้อข้องใจของใครหลายคนได้เป็นอย่างดี

โดยเนื้อหาในเล่มจะกล่าวถึงการทำเลเซอร์ ทั้งรักษาสิว ฝ้า กระ จุดด่างดำบนใบหน้า ตลอดจนแผลเป็น ผิวแตกลาย ลบริ้วรอยเหี่ยวย่น กำจัดขน รวมทั้งการลบรอยสัก เป็นต้น เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการตัดสินใจก่อนไปทำเลเซอร์ เพื่อเตรียมพร้อมรับมือรู้ถึงข้อดี-ข้อเสียของการทำเลเซอร์ และขั้นตอนการดูแลรักษาหลังจากไปทำเลเซอร์มาแล้ว

เมื่อทราบแล้วจะได้แก้ปัญหากันได้ตรงจุด รู้ว่าปัญหาผิวของเราคืออะไร ควรรักษาด้วยเลเซอร์แบบไหน จะดีแค่ไหนถ้ามีผู้ช่วยเล่มเล็กๆ นี้ในมือ ให้คุณรู้ทุกขั้นตอนก่อนตัดสินใจทำเลเซอร์…



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

เรียนไม่เก่งแต่พิชิตข้อสอบอังกฤษได้สบาย

ผู้เขียน : อาจารย์อู๋

สำหรับน้องๆ ที่ไม่เก่งวิชาภาษาอังกฤษทั้งหลาย จะดีแค่ไหนถ้าจะสามารถพิชิตข้อสอบไปได้อย่างง่ายๆ “เรียนไม่เก่งแต่พิชิตข้อสอบอังกฤษได้สบาย” เล่มนี้ เป็นสุดยอดเคล็ดลับที่จะทำให้คะแนนสอบภาษาอังกฤษดีเกินหน้าเกินตาเพื่อนฝูง โดยใช้ได้ทั้งข้อสอบ GAT O-NET และข้อสอบรับตรงทุกสถาบัน

โดยเนื้อหาในเล่มได้รวมสุดยอดเคล็ด (ไม่) ลับวิชาเตรียมสอบสำหรับน้องๆ ที่ไม่เข้าใจภาษาอังกฤษเอาเสียเลย หรือสอบกี่ครั้งคะแนนก็ออกมาย่ำแย่เหมือนเดิม สามารถพิชิตข้อสอบภาษาอังกฤษสุดหินไปได้ มีโอกาสเอ็นทรานซ์ติดได้คณะที่ตนเองต้องการ

ซึ่งสำหรับใครที่กลัวแกรมม่าบอกได้เลยว่าหนังสือเล่มนี้ไม่ใช่การรวมหลักแกรมม่ามาให้ปวดหัว และไม่ใช่คู่มือเก็งข้อสอบสุดโหด ฉะนั้นสำหรับใครที่อยากสอบติดโดยไม่เก่งภาษาอังกฤษลองมาพิสูจน์กันได้ในเล่ม



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

ขายโจ๊กรวย

ผู้เขียน : กองบรรณาธิการ

“ขายโจ๊กรวย” เล่มนี้ ว่าด้วยเรื่องของอาหารมื้อเช้าอย่างโจ๊ก ที่ทำง่าย กำไรมาก กับสูตรเด็ดที่เพิ่มความอร่อยมาพร้อมสูตรที่คุณทำแล้วรวย เป็นการเสริมสร้างอาชีพที่สร้างกำไรให้คุณเป็นอย่างมากสำหรับธุรกิจที่ลงทุนน้อยแต่กำไรงาม จะบอกถึงเคล็ดลับการทำธุรกิจขายโจ๊กว่าไม่ยากอย่างที่หลายคนคิด

โดยเนื้อหาในเล่มจะบอกเล่าถึงธุรกิจขายโจ๊กเล็กๆ ที่สามารถทำให้คุณสร้างรายได้อย่างเป็นกอบเป็นกำ ซึ่งโจ๊กนั้นเป็นอาหารที่อยู่คู่กับคนไทยมานาน รับประทานง่าย โดยเฉพาะมื้อเช้าที่ต่างก็เร่งรีบไปเรียนหรือทำงาน โจ๊กนั้นเหมาะอย่างยิ่งสำหรับมื้อเช้าของคุณ แถมยังสะดวก ประหยัด เหมาะกับคนทุกวัย และได้รับความนิยมไปจนถึงขั้นธุรกิจโจ๊กกึ่งสำเร็จรูปเพราะสามารถรับประทานได้ง่าย

ดังนั้น โจ๊กจึงสามารถสร้างงานสร้างรายได้ให้แก่คุณได้ไม่ยาก เพียงคุณรู้จักขั้นตอนการทำที่ถูกต้อง เรียนรู้จากผู้ประกอบการ ตลอดจนรู้เคล็ดลับของการขาย และเกร็ดความรู้บางอย่างที่คุณอาจมองข้ามไป เพียงเท่านี้คุณก็สามารถขายโจ๊กรวยได้แล้ว เชิญค้นหาคำตอบกันได้ในเล่ม



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

วิถี (ไม่) ตัน ฉบับตัน ภาสกรนที

ผู้เขียน : ตัน ภาสกรนที

“วิถี (ไม่) ตัน ฉบับตัน ภาสกรนที” เล่มนี้ เขียนขึ้นมาจากใจของคุณตัน ที่กลั่นจากประสบการณ์ธุรกิจ 30 ปี โดยรายได้ค่าลิขสิทธิ์ทั้งหมดจะนำไปมอบให้แก่มูลนิธิตันปัน เพื่อช่วยเหลือผู้ประสบอุทกภัยทั่วประเทศ

ในเล่มคุณจะพบกับเรื่องราวของคุณตันที่ฝ่าฟันอุปสรรคต่างๆ นานาตลอด 30 ปี 30 ตอน โดยคุณตันเริ่มชีวิตจากที่ไม่มีอะไรเลย เรียนก็จบเพียงชั้นมัธยม และผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมายจนมาเป็นอิชิตันในปัจจุบัน ซึ่งคุณตันได้เผยเรื่องราวของตนเองทุกช่วงวัยถึงการดำเนินชีวิต มุมมอง แรงบันดาลใจ ตลอดจนกลยุทธ์เคล็ดลับวิธีการดำเนินธุรกิจ

แล้วคุณจะทราบว่าวิถีชีวิตของคุณตันนั้นไม่ได้ง่าย หรือโรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่กว่าจะมาถึงวันนี้ต้องล้มลุกคลุกคลานมามากมาย หากไม่ยอมแพ้ด้วยใจที่เข้มแข็งวิถีตันจึงไม่ตัน



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

การแปรรูปผักและผลไม้ไว้กินนาน

ผู้เขียน : บก. แพรวพรรณ แพรวิไล

“การแปรรูปผักและผลไม้ไว้กินนาน” เล่มนี้ เป็นการเพิ่มรายรับ ประหยัดรายจ่าย ซึ่งการแปรรูปผักและผลไม้นั้นมีอยู่หลายกรรมวิธีด้วยกัน เช่น ดอง แช่อิ่ม เชื่อม กวน หรืออบแห้ง เป็นต้น และมีทั้งทำไว้รับประทานกันในครอบครัวหรือทำเพื่อค้าขายสร้างรายได้อีกทางหนึ่ง

ในเล่มพบกับรายการอาหารมากกว่า 30 ชนิด ที่ได้จากการแปรรูปผักและผลไม้ เผยเคล็ด (ไม่) ลับในการแปรรูปอย่างละเอียด เพื่อให้สามารถเก็บไว้รับประทานได้นานยิ่งขึ้น เป็นการถนอมอาหาร และยังบอกถึงคุณประโยชน์ของผักและผลไม้ต่างๆ ว่าแต่ละชนิดนั้นมีคุณค่าอะไรอย่างไรบ้าง น่าติดตามมาก มาพร้อมภาพสีสวยสะดุดตาตลอดเล่ม



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

ทำไงดี! อยากมีตังค์เก็บเยอะๆ

ผู้เขียน : Kyoko Ikeda (เคียวโกะ อิเกะดะ)

ผู้แปล : ทินภาส พาหะนิชย์

“ทำไงดี! อยากมีตังค์เก็บเยอะๆ” เล่มนี้ สอนวิธีใช้เงินเป็น ออมเงินเก่ง สำหรับคุณผู้หญิงที่เก็บเงินไม่อยู่ ถ่ายทอดออกมาในรูปแบบฉบับการ์ตูน ชวนติดตาม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับคุณผู้หญิงทุกคนที่ออมเงินไม่เก่ง เก็บเงินไม่อยู่ ต้องใช้จ่ายเกินตัวตลอดเวลา

โดยเนื้อหาในเล่มจะบอกถึงวิธีการใช้เงินและออมเงินอย่างง่ายๆ เผยเคล็ดลับการใช้จ่ายเงินอย่างถูกวิธี เพียงรู้จักพอสำหรับทุกสิ่ง ไม่ใช้เงินสุรุ่ยสุร่ายเหมือนเทเงินออกจากกระเป๋าอย่างไร้สติ รู้จักทำให้เงินงอกเงยขึ้นมาเรื่อยๆ โดยไม่ลดน้อยลงไปตามๆ กัน แล้วจะออมเงินได้อย่างไรสำหรับผู้หญิงอย่างเราที่มีของสวยๆ งามๆ รอบตัวล่อใจอยู่ เชิญค้นหาคำตอบกันได้ในเล่ม



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

ครอบครัวอบอุ่น

คำว่า ครอบครัว เป็น คำที่มีความหมายมาก คือ หมายถึงความรักความอบอุ่น ความเป็นอันเดียวกัน สมัยลูกเป็นเด็กๆ เราอยู่รวมกันเป็นครอบครัว มีเสียงหัวเราะสนุกสนาน มี เสียงวิ่งเล่นวิ่งไล่กัน ได้ทานอาหารรวมกัน ได้อะไรด้วยกัน ดูมันมีชีวิตชีวา แม้พ่อแม่จะทำงานเหน็ดเหนื่อยกันมา พอเห็นหน้าลูกๆ มาคอยต้อนรับหน้าประตู ถามว่าเหนื่อยไหมแล้วช่วยถือกระเป๋าถือของให้ เท่านี้ก็หายเหนื่อยแล้ว เห็นลูกกินได้นอนหลับ พ่อกับแม่ก็สบายใจนี่แหละลูกเอ่ยที่เขาว่าครอบครัวที่อบอุ่น ตอนนี้ลูกก็โตกันแล้ว หากสามารถเสบเป่าได้ พ่อกับแม่ก็อยากจะเสบเป่าให้ครอบครัวเราเป็นครอบครัวที่อบอุ่น พร้อม หน้าพร้อมตากัน เหมือนตอนเป็นเด็กทานข้าวด้วยกัน ถามไถ่สุขของกันและกัน ได้อุ่มหลานตัวน้อยๆ เท่านี้ก็ยืนอายุให้พ่อกับแม่ได้อีกหลายปีแล้วลูกเอ่ย



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

เด็กชายที่ยังเลวไม่พอ

มีเด็กชายคนหนึ่งชื่อคลาวด์ เขาเป็นเด็กซึ่งเลวมากจนผู้คนที่อยู่ไกลและใกล้ได้ยินถึงคาวมซนของเขา ครั้งหนึ่งเมื่อมีคุณย่ามาอยู่กับเขาด้วยคลาวด์จับกบอ้วนมาไว้บนเตียงของ ท่าน และอีกครั้งหนึ่งเมื่อคุณครูไม่ทันได้มองเขาก็เลื่อนเข็มนาฬิกาของ โรงเรียนทำให้เด็กๆได้กลับบ้านก่อนเวลาถึง2ชั่วโมง และมีอีกที่เขาเลวมากคือเขาปีนขึ้นไปบนต้นไม้ที่สูงที่สุดในสวนแล้วผูกเสื้อ เชิ้ตตัวที่ดีที่สุดของคุณพ่อไว้บนกิ่งไม้ที่สูงที่สุดมันจึงโบกตามลมราวกับ ธง คุณพ่อคุณแม่และพี่น้องของเขาได้ใช้ทุกวิธีทางที่จะหยุดความซุกซนของคลาวด์ และทำให้เขาเป็นเด็กดีขึ้นพวกเขาให้เขาอดอาหารและไม่ให้ไปดูละครสัตว์แต่มัน ก็ไม่เป็นผลและวันหนึ่งทุกคนในเมืองต่างได้ยินถึงความซนของคลาวด์และไม่นาน ข่าวก็แพร่กระจายไปถึงหูแม่มดซึ่งแก่ที่สุด น่าเกลียดที่สุดและชั่วร้ายที่สุดในอณาจักรก็ทราบข่าว จึงมาหาเด็กชายคลาวด์ที่บ้านและก็จะมาพาตัวเด็กชายคลาวด์ไปที่โรงเรียนพ่อมด ที่มีแต่เด็กเลว



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

อยากให้บ้านนี้มีแต่รัก

อรวีเป็นสาวน้อยร่างโปร่งผิวขาวและเป็นลูกสาวคนเดียวของนักธุรกิจชื่อดังเธอ เกิดในครอบครัวที่มีฐานะความเป็นอยู่ดีแต่เธอไม่มีความสุขสบายดังฐานะของเธอ เลย ชีวิตของอรวีจึงเป็นชีวิตแบบหนึ่งในสังคมปัจจุบัน ตอนนี้อรวีเรียนอยู่ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 เขาน้อยอกน้อยใจตลอดเวลาถ้าคิดถึงเรื่องภายในครอบครัวของเขาเพราะพ่อแม่ ของอรวีไม่เคยมีเวลาให้เขาเลยแม้แต่วันหยุดเรียนก็ยังต้องออกไปพบปะสังคมภาย นอกปล่อยให้เธออยู่บ้านตามลำพังคนเดียวไม่มีคนที่จะปรึกษาไม่มีคนคอยถามข่าว การเรียนของเขาเลย อรวีตื่นแต่เช้าออกจากบ้านเพื่อจะไปเรียนหนังสือดดยที่แม่กับพ่อของเขายัง ไม่ตื่นนอนเลยพอกลับมาถึงบ้านก็ไม่มีใครอยู่มีแต่คนใช้เพราะพ่อกับแม่ไปทำ งานกว่าจะกลับอรวีก็เขานอนแล้วชีวิตของอรวีเป็นอย่างนี้ทุกวันจนบางครั้งทำ ให้อรวีไม่อยากกลับบ้านเลยเขาไม่เคยมีความสุขเขาอยากมีชีวิตเหมือนคนปกติถึง แม้จะมีฐานะไม่ร่ำรวยแต่เขาขอแค่พ่อแม่ลูกอยู่พร้อมหน้ากินข้าวด้วยกันแค่ นี้ก็พอใจแล้ววันหนึ่งเขาไปเรียนตามปกติก็มีเพื่อนของเขาคนหนึ่งมาคุยกับอร วีบอกว่าเขาเสียตัวให้กับผู้ชายที่พึ่งรู้จักจากการไปเที่ยวพับกลางคืนอรวี ตกใจมากจากเรี่องที่ได้ฟังทำให้อรวีคิดได้ว่าไม่มีที่ไหนจะปลอดภัยและอบอุ่น เท่าบ้านของเขาเองไม่มีใครที่จะให้ความรักกับเราเท่าพ่อกับแม่



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

ฉันอยู่ที่นี่....ศัตรูที่รั
เรื่องย่อ
“รวมเรื่องสั้นสะเทือนอารมณ์ไม่รู้สืม” ข้อความที่เขียนไว้บนปกของหนังสือฉันอยู่ที่นี่...ศัตรูที่รัก หนังสือที่ทำให้ใครหลายคนต้องเสียน้ำตา ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง”เรือรบจำลอง” ที่แสดงให้เห็นถึงความรักระหว่างเด็กชายอันดร ที่เคยเกเร ไม่เป็นมิตรกับใคร กับเด็กชายชาลี เด็กที่เกิดในครอบครัวที่อบอุ่น นิสัยดี จากที่ทะเลาะชกต่อยกันกลับกลายเป็นเพื่อนรักกันได้เพราะความเมตตาจากครูบุษบงที่อบรมสั่งสอนอันดรเป็นอย่างดี แต่สุดท้ายเด็กชายอันดรก็ต้องจากโลกนี้ไปในที่สุด เพราะกระโดดไปช่วยชาลีเพื่อนรักของเขาที่ตกน้ำ ทั้งที่ตัวอันดรเองก็ว่ายน้ำไม่เป็นเช่นกัน
นอกจากนี้ยังอีกหลายเรื่องราวทั้ง “ห่านย่างไฟแดง” “ฉันอยู่นี่...ศัตรูที่รัก” “นายที่รัก” “เสื้อราตรีสีเลือดนก” และ “ลาก่อน..INTERMEZZO (อินเตอร์เมโซ)...เพลงรักของแม่” ที่แต่ละเรื่องก็มีความเศร้า ความสะเทือนใจ ความซาบซึ้งใจที่แตกต่างกันออกไป นับเป็นหนังสืออีกเล่มที่ทรงคุณค่าและสามารถส่งผ่านความรู้สึกไปถึงผู้อ่านได้อย่างดี

ข้อคิด
ฉันอยู่ที่นี่...ศัตรูที่รัก แสดงให้เห็นถึงความรัก มิตรภาพ และการให้อภัยได้เป็นอย่างดี คนที่เคยเป็นศัตรูกัน แต่กลับมารักกันได้ในที่สุด เพราะคำๆ เดียว คำว่า “ให้อภัย” ความบาดหมาง ความขัดแย้งที่เกิดขึ้นไปแล้ว เราไม่สามารถลบล้างหรือแก้ไขเปลี่ยนแปลงอะไรได้ แต่ปัจจุบันและอนาคตเราเลือกได้ว่าจะก้าวต่อไปเช่นไร



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

นิกกับพิม

การสื่อสารกันผ่านจดหมายระหว่างพิเชฐและมนทิรา โดยเล่าผ่านมุมมองของสุนัขแสนรักของทั้งคู่คือ “นิก” สุนัขพันธุ์บ็อกเซอร์เพศผู้ตัวใหญ่สีน้ำตาลของพิเชฐ กับ “พิม” สุนัขสายพันธุ์พุดเดิ้ลเพศผู้ขนหยิกสีดำของมนทิรา โดยเรื่องราวของพิเชฐและมนทิรานั้นเริ่มก่อตัวขึ้นตั้งแต่ที่ร้านขายสัตว์เลี้ยง ที่เมืองซูริค ประเทศสวิสเซอร์แลนด์ ที่ซึ่งทั้งคู่เจอนิกกับพิมนั่นเอง
หลังจากที่พิเชฐกลับเมืองไทยไปพร้อมกับนิกและความเข้าใจผิดในตัวมนทิรา ผ่านไป 2 ปี จึงลองเขียนจดหมายติดต่อมนทิราอีกครั้ง มนทิราได้ตอบกลับ และเสนอเป็นสื่อกลางให้สุนัขทั้งสองได้สานสัมพันธ์กันต่อทางจดหมาย เรื่องราวระหว่างพิเชฐและมนทิราที่เล่าผ่านมุมมองของนิกกับพิมจึงได้เริ่มต้นขึ้น โดยผลัดกันเล่าเรื่องราวที่พบเจอในชีวิตประจำวันของนิกกับพิมอย่างสนุกสนาน ทั้งเล่นซุกซน ทำวีรกรรมจนโดนจับ ไปเที่ยวสวนสัตว์กับเจ้าของ หรือแม้แต่พูดถึงเจ้านายในมุมของสุนัขเอง

ข้อคิด
การเล่าเรื่องของพิเชฐและมนทิราในมุมมองของสุนัข ทำให้เราได้เห็นภาพที่แปลกใหม่และน่ารักของเรื่องราวต่างๆ ที่เกิดขึ้น และได้เห็นว่าสิ่งเดียวกันแต่มองจากคนละด้านก็สามารถให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปได้ อย่างในเรื่องของความหอม ที่เมื่อคนเห็นสุนัขตัวเหม็นก็จะชอบพาไปอาบน้ำ แต่สุนัขเองกลับชอบเอาตัวไปคลุกอะไรเหม็นๆ มากกว่า ทำให้อาจมองได้ว่า หรือความหอมของสุนัขกับคนมันเป็นคนละแบบกัน



ความเห็น

ไม่มีความเห็น

ทิพย์วิมล ดำริ
เขียนเมื่อ

ลูกอีสาน ผู้แต่ง คำพูน บุญทวี
เรื่องย่อ
วิถีชีวิตของชาวอีสานที่ถ่ายทอดผ่านประสบการณ์ของผู้เขียนครั้งยังเป็นเด็ก ทั้งในเรื่องการดำเนินชีวิต ความเชื่อ และวัฒนธรรมต่างๆ ซึ่งผู้เขียนบรรยายได้อย่างเห็นภาพและใช้ภาษาตรงไปตรงมา ทำให้คนอ่านได้สัมผัสและเข้าใจถึงวิถีชีวิตของคนอีสานมากยิ่งขึ้น โดยหนังสือเล่มนี้ได้รับรางวัลวรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเยี่ยมรางวัลซีไรท์ดีเด่นประเภทนิยายประจำปี พ.ศ. 2522
เด็กชายคูนอาศัยอยู่ในชนบทของภาคอีสานกับครอบครัว ซึ่งเป็นพื้นที่แห้งแล้งกันดาร สภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวยแก่การเพาะปลูก ทำให้หลายครอบครัวโยกย้ายออกไปในแถบลุ่มแม่น้ำซึ่งอุดมสมบูรณ์มากกว่า ชาวบ้านที่ยังอาศัยอยู่ที่นั่นก็ต้องอดทนและปรับตัวเพื่อความอยู่รอดโดยใช้ภูมิปัญญาต่างๆ เข้ามาช่วย อย่างบ้านของคูนเองก็เดินทางไปจับปลาที่แม่น้ำชีมาถนอมอาหารทั้งปลาร้า ปลาส้มกินกัน ซึ่งแต่ละครั้งที่ไปก็ใช้เวลาถึง 20 กว่าวัน เนื่องจากในสมัยนั้นการเดินทางยังไม่สะดวกเช่นทุกวันนี้
นอกจากเรื่องวิถีชีวิตความเป็นอยู่แล้ว ผู้เขียนยังเล่าถึงน้ำใจไมตรีที่มีระหว่างกันของชาวอีสานด้วย โดยตอนหนึ่งของหนังสือกล่าวว่า "...เรื่องน้ำใจ พ่อของคูนเคยสอนคูนเหมือนกันว่าคนมีชื่อนั้นคือ คน รู้จักสงสารคนและช่วยเหลือคนตกทุกข์ ถ้าไม่มีสิ่งของช่วย ก็เอาแรงกายช่วย และไม่เลือกว่าคนๆ นั้นจะอยู่บ้านใด อำเภอใด"

ข้อคิด
แม้ว่าชุมชนที่คูนอยู่จะแห้งแล้งกันดาร แต่คนในชุมชนกลับไม่แล้งในน้ำใจ แม้ว่าพวกเขาไม่ได้ร่ำรวยเงินทอง แต่เขาก็เอื้อเฟื้อช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ความจนไม่ได้แปลว่าเราจะช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้ เพราะน้ำใจไม่ต้องใช้เงิน
นอกจากนี้ยังทำให้เราได้เห็นถึงความลำบากของคนอีสานในสมัยก่อนว่าต้องอดทนปรับตัวต่อสู้เพื่อความอยู่รอดอย่างมาก แต่ก็ยังมีความสุขได้ ขณะที่สมัยนี้มีสิ่งอำนวยความสะดวกมากมายที่ช่วยให้การใช้ชีวิตของเราง่ายขึ้น แต่หลายคนกลับไม่มีความสุข



ความเห็น

ความจนไม่ได้แปลว่าเราจะช่วยเหลือคนอื่นไม่ได้ เพราะน้ำใจไม่ต้องใช้เงิน .....ชอบประโยคนี้ครับ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท