เมื่อวาน นั่งฟังเพลง ฤดูที่แตกต่าง” “....อย่าไปกลัวเวลาที่ฟ้าไม่เป็นใจ อย่าไปคิดว่ามันเป็นวันสุดท้าย น้ำตาที่ไหล ย่อมมีวันจางหาย..งหากไม่รู้จักเจ็บปวด ก็คงไม่ซึ้งถึงความสุขใจ...”
บางทีเพลงก็เขียนออกมาจากชีวิตจริงๆของเรานี่ แหละยิ่งช่วงนี้เป็นช่วงที่รับนักศึกษา เข้าเรียนกันใหม่ พ่อแม่หลายคนดีใจ แต่ก็มีอีกหลายคนที่เสียใจมันก็ไม่ต่างอะไรกับฤดูกาลที่เราทุกคนต้องเจอะเจอหรอกฤดูกาลมี 3 ฤดู (หรือมากว่านั้นในความคิด) นับเอาตามการรียนการสอนนะ
การที่มีฤดูถึง 3 ฤดู ก็เพื่อให้คนเราเรียนรู้ที่จะปรับตัว ปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิต ปรับเปลี่ยนทัศนคติรู้จักสังเกตการเปลี่ยนแปลง ของสิ่งต่างๆ เพื่อเรียรู้ที่จะยอมรับความจริง และปรับตัวเข้ากับสิ่งนั้นๆได้
แม้ว่า จะไม่ชอบ ไม่ยากเจอ กับสิ่งนั้นๆ แต่ก็ใช่ว่าคนเราจะสามารถหนีได้ทุกปัญหา เหมือนฤดูกาลต่างๆที่บางคนชอบต่างๆกัน ไม่อยากให้มี ฤดูนั้นบ้าง ฤดูนี่บ้าง เพราะว่าไม่ชอบ แต่นั้นแหละ เห็นไหมล่ะว่าไม่ว่าเราจะชอบหรือไม่ชอบ เราก็ต้องเจอ
เมื่อเป็นอย่างนั้น เรามาเรียนรู้วิธีการรับมือกันดีกว่า ต่อต้าน จะดีกว่าไหม เพราะว่าการวิ่งเข้าชน ไม่ได้เกิดผลดีเท่าไรนักทุกอย่างย่อมมีอุปสรรค ไม่ว่าจะเป็นการเรียน การทำงาน เราย่อมเจออุปสรรคและปัญหา กันอยู่ทุกคนเหมือนที่ต้องเจอทุกฤดู เราเรียนรู้ว่า
ฤดูร้อน...คนเราต้องหาเสื้อผ้าที่จะปกป้องร่างกาย หรือเครื่องกำบังอื่นๆ เพื่อป้องกันตัวเอง ไม่ให้โดนแสงแดดมากเกินไป
ฤดูฝน..คนเราเราก็เรียนรู้ที่จะป้องกันตัวเอง สำรวจ และฟังข่าวสารมากขึ้นเพื่อที่จะได้ไม่ต้องไปเจอพายุฝนให้มากนัก
ฤดูหนาว...คนเราก็เรียนรู้ที่จะหาเครื่องป้องกันความหนาวเย็น ไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้า อาหารการกิน และทุกอย่างๆที่ทำให้ชีวิตดำเนินต่อไป
ก็เหมือนการทำงาน และการเรียน ที่เราต้องมองงาน มองคนอื่นๆก่อน เพื่อเรียนรู้ ลักษณะนิสัย และปรับตัวเข้าหาเขา อย่านำความเป็นตัวเองเข้าไปมาก แต่นั้นไม่ได้หมายความว่า ให้เปลี่ยนจนไม่เหลือความเป็นตัวเองนะ ทุกอย่างต้องเรียนรู้
ส่วนน้องๆนักศึกษาใหม่ ก็เรียนรู้ต่อไปละกัน แล้วเจอกันตอนเปิดเทอมนะ
**ปล*** คิดไม่ออกแล้ว อยากกลับบ้านอิอิ**
อ.ก็ ยังไม่ได้กลับเลย เข้ามาแก้นิดหน่อยค่ะ แต่ขอบุคุณมากนะคะที่เข้ามาทักทาย
ฤดูกาลข้างนอก ร้อน ฝนตก หนาว เราเปลี่ยนแปลงไม่ได้
แต่ฤดูกาลข้างใน (จิตใจ) เราเปลี่ยนได้ทุกวัน
ต่อให้ลมแรง แดดร้อน ฝนตก เราก็แค่ตัวเปียก แต่ใจเราไม่ได้เปียกด้วย
... มันอยู่ที่ใจ
...ทำจิตใจให้สดใสร่าเริง เหมือนเช้าวันใหม่ทุกๆวันนะจ๊ะ
อาจินต์ ปัญจพรรค์ เขียนไว้ในหนังสือเรื่อง "เหมืองแร่" ไว้ว่า ฝนตกจนใบไม้โงหัวไม่ขึ้น จากประสบการณ์ที่เคยอยู่จังหวัดพังงา ใน 1 ปี จะมีฝน 8 เดือน ทำให้เกิดคำพูดที่ว่า ฝนแปด แดดสี่ แล้วใน 1 เดือน ฝนจะตกทั้งวันทั้งคืน ประมาณ 20 วัน เห็นท้องฟ้าจริงๆ แค่ 10 วันเท่านั้น
10 วันที่ฟ้าเปิดเป็นอะไรที่มีความสุขสำหรับชีวิตวัยเด็กของผมมาก
ฟังเพลงนี้ทีไร ทำให้นึกถึงช่วงนั้นทุกครั้ง
ขอบคุณมาก ที่คิดตรงกัน ทุกอย่างอยู่ที่จิตใจ อากาศข้างนอก คือ อุปสรรคที่ทดสอบเราอยู่