สองสามวันก่อนมีโอกาสได้ไปพบเพื่อนที่คณะฯ แถวสยามสแควร์
เนื่องจากต้องรอเพื่อนนานจึงได้มีโอกาสสำรวจสยามสแควร์ปี 2550 ว่าเป็นอย่างไรบ้าง
สิ่งที่เปลี่ยนไปจากช่วง 2535-2540 ที่ผมใช้ชีวิตอยู่แถวๆนี้ ก็คือ ปริมาณของโรงเรียนกวดวิชาครับ โรงเรียนกวดวิชาในสยามแควร์กินพื้นที่ประมาณหนึ่งในสี่ของพื้นที่ทั้งหมด
เดินผ่านหน้าโรงเรียนกวดวิชา ที่ผนังกระจกด้านหน้าของเกือบทุกที่จะติดไว้ด้วยคำสรรเสริญสรรพคุณของอาจารย์ที่สอน จากนักเรียนที่มาเรียน
ไปอ่านดูก็จะเห็นคำสำคัญมีอยู่ไม่กี่คำเช่น สูตรเด็ด, เคล็ดลับ, ไม่ต้องจำมาก, เทคนิกพิเศษ, วิชามาร, เจาะข้อสอบ, พิชิต O-net A-net
คำสำคัญเหล่านี้ ทำให้ผมนึกถึงคำโปรยที่อยู่บนปกของหนังสือประเภทหนึ่งครับ คือหนังสือที่เกี่ยวกับการแนะนำเฉลยเกมส์คอมพิวเตอร์ ก็จะมีคำประเภท สูตรลับ, เจาะฉาก, สูตรโกง, พลังชีวิตไม่รู้จบ ฯลฯ
ทำไมคำสำคัญที่เด็กๆ รู้สึกจากการเรียนกวดวิชา (ซึ่งน่าจะหมายถึงศึกษาแบบเข้มข้น) ถึงมาพ้องกับคำสำคัญในการเล่นเกมส์คอมพิวเตอร์ไปได้
เป็นไปได้ไหมที่ปัจจุบันนี้ ในความคิดของพวกเขา ความหมายของการศึกษา ไม่ได้หมายถึง การแสวงหาองค์ความรู้ และการฝึกฝนขัดเกลาตัวเองให้ไปสู่ความรู้และเข้าใจในตนเอง เข้าใจคนรอบข้าง และเข้าใจธรรมชาติ
แต่การศึกษาแปรรูปกลายเป็นเกมส์ประเภทหนึ่งที่ผู้เล่นแสวงหา"สูตร" เพื่อจะ "พิชิต" ข้อสอบ (จริงๆ แล้วคนที่ถูกพิชิตก็คือเพื่อนๆ ที่สอบได้คะแนนน้อยกว่า-ไม่ใช่ข้อสอบ) โดยมีผลตอบแทนเมื่อเล่นเกมส์ชนะคือการได้เข้า "ศึกษา"ต่อในมหาวิทยาลัย
สิ่งที่ต้องรู้ต้องเข้าใจจึงไม่ใช่ สิ่งจำเป็นต่อการดำรงชีวิตในฐานะผู้ที่มีการศึกษาแต่เป็นสูตร ทางลัด ต่างๆ ที่ทำให้ชนะเกมส์ได้ง่ายๆ
ไม่เถียงว่าเด็กเล่นเกมส์เป็นนั้นเป็นเด็กฉลาด, วิธีการเล่นเกมส์ก็มีผลพลอยได้เป็นความรู้ กระบวนการของการศึกษา และการเล่นเกมส์อาจจะมีส่วนที่ซ้ำและพ้องกัน
แต่วิธีคิดเริ่มต้นมันต่างกันโดยสิ้นเชิงนะครับ
นักเล่นเกมส์พวกนี้ยังคงเล่นต่อ ดังที่ผมได้เจอเสมอๆ ในห้องเรียนคณะทันตแพทย์
"ตรงนี้ออกข้อสอบไหมค่ะ อาจารย์"
"นักศึกษาที่รัก ให้ขีดเส้นใต้ที่ประโยคนี้ไว้"
"เนื้อหาตรงนี้ไม่สำคัญสำหรับนักศึกษาทันตแพทย์นะคะ แต่นักศึกษาแพทย์ต้องจำไว้นะคะ"
ฯลฯ
หากจะมองโลกในแง่ร้าย ก็ทำให้เราสรุปได้ว่า ทุกๆ ปีที่เราได้นักศึกษาใหม่ และเราได้บัณฑิตใหม่
เราอาจจะไม่ได้ "ผู้มีปัญญา" ใหม่ๆ เลยก็เป็นได้
เพราะรูปแบบหรือวิธีการที่เป็นอยู่นี้ไม่ได้ส่งเสริมให้เกิดผู้มีปัญญา
เพียงแต่สร้างคนที่เล่นเกมส์เป็นให้มาเล่นต่อในสังคมของเรา เท่านั้นเอง
แถมพุทธภาษิตปิดท้ายครับ
ทนฺโต เสฎฺโฐ มนุสฺเสสุ ในหมู่มนุษย์ ผู้ฝึกตนแล้วเป็นผู้ประเสริฐสุด
โรงเรียนกวดวิชาที่ชนเผ่ามลาบรีไม่มีแต่...ชีวิต คือ การต่อสู้และเรียนรู้ไม่มีวันจบสิ้น.....
จิตฺตํ ทนฺตํ สุขาวหํ จิตที่ฝึกดีแล้ว ย่อมนำสุขมาให้
หากชีวิตเปรียบได้ดังเกมส์
เราจะชนะเกมส์เมื่อหยุดเล่นเกมส์
มิเช่นนั้นแล้วการศึกษาจะเป็นเพียง เกมส์วิ่งวัว