[ อ่าน : หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง 7 กรณีตัวอย่าง]
ในช่วงบ่ายของวันที่ 25 เมษายน 2550 ดิฉันและทีมงานก็ไปชวนชาวบ้าน จุดที่ 2 หมู่ที่ 8 บ้านท้องคุ้ง ตำบลสวนหลวง จังหวัดสมุทรสงคราม คุยกันเรื่อง หมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง แล้วทำการจัดเก็บข้อมูลโดยใช้เครื่องมือ 3 ห่วง 2 เงื่อน ซึ่งสรุปได้ว่า
<p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> 1) กระบวนการสร้างชุมชน ในอดีตมีการทำนาเป็นอาชีพหลัก หลังจากนั้นได้ปรับเปลี่ยนอาชีพเป็นทำสวน เช่น สวนมะพร้าว สวนลิ้นจี่ และ สวนส้มโอ ปัจจุบันอาชีพที่ทำ คือ ทำสวนมะพร้าว สมุนไพร ท่องเที่ยว รับจ้าง แม่ค้าขายขนมหวาน ทำปุ๋ยชีวภาพ ผักปลอดสารพิษ และอื่น ๆ มีกลุ่มเกษตรกร มีกลุ่มออมทรัพย์ มีการใช้ผลิตภัณฑ์ของพื้นบ้าน ส่วนความเป็นอยู่จะอยู่ร่วมกันอย่างเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่และมีน้ำใจ มีการทำบุญในวันสำคัญที่วัด ทางด้านจุดเด่นของหมู่บ้าน ได้แก่ มีกลุ่มออมทรัพย์ชนะเลิศระดับประเทศ เป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง เป็นแหล่งท่องเที่ยว มีตลาดวัฒนธรรมริมน้ำ เป็นหมู่บ้านที่ปลอดภัยไม่มีโจรผู้ร้าย มีการทำงานกันเป็นกลุ่มร่วมกัน/กล้าแสดงออก ทำอาชีพโดยคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม เช่น ใช้ปุ๋ยชีวภาพ และลดต้นทุนการผลิต มีรายได้เสริมของครัวเรือนและแต่ละครัวเรือนมีการทำบัญชีรายรับ-รายจ่าย มีการอนุรักษ์วัฒนธรรมไทย และมีหน่วยงานต่าง ๆ เข้ามาดูแลและสนับสนุนจำนวนมาก</p><p> 2) กระบวนการเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ความเป็นอยู่ของชาวบ้านจะมีการจัดทำบัญชีครัวเรือน ทำกิจกรรมและประกอบอาชีพกันเป็นกลุ่ม เช่น กลุ่มออมทรัพย์ กลุ่มเกษตรกร และกลุ่มอื่น ๆ เพื่อต่อรองกับพ่อค้า เพื่อซื้อขายผลผลิต และเพื่อปรึกษาหารือกับการประกอบอาชีพ ซึ่งอาชีพที่ทำจะคำนึงถึงสิ่งแวดล้อม มีระบบการดูแลคนในชุมชน มีการจัดระเบียบของชุมชน ส่งเสริมการออมในครัวเรือน นอกจากนี้ความเป็นอยู่ของชาวบ้านจะมีอาชีพหลักและอาชีพเสริม โดยปลูกพืชไว้กินเองเป็นหลักและเหลือก็เอาไปขาย และใช้ชีวิตกันอย่างสบาย ๆ จึงสรุปเป็นหมู่บ้านเศรษฐกิจพอเพียง ได้ว่า </p><p> (1) ความพอประมาณ ได้แก่ ผลิตแบบพอกิน ทำช้าแต่คิดรอบคอบ ผลิตโดยคำนึงถึงสภาพแวดล้อม (จึงไม่มีอุตสาหกรรม)</p><p> (2) ความมีเหตุมีผล ได้แก่ การจัดการกลุ่มที่มีหลักเกณฑ์/นโยบาย เริ่มต้นการทำงานที่ตนเองเป็นหลัก ใช้ความต้องการของชาวบ้านเป็นหลักในการพัฒนา ชาวบ้านเปิดตัวรับรายได้จากการท่องเที่ยวโดยพัฒนาผลิตภัณฑ์ในตำบลและมีตลาดอยู่ใกล้ตัว การจัดการทรัพยากรการผลิตโดยทำปุ๋ยชีวภาพ มีการผลิตเพื่อต่อยอดไปสู่อุตสาหกรรม แปรรูปผลิตภัณฑ์ (ลิ้นจี่แห้ง) มีการเพิ่มมูลค่าที่ทุกคนมีส่วนร่วม และมีมาตรฐานการผลิต </p><p> (3) มีภูมิคุ้มกัน ได้แก่ มีภาคีร่วมทั้งในและนอกชุมชน สร้างคนก่อนทำกิจกรรม ชุมชนมีความปลอดภัยจากขโมย มีการออมทรัพย์ มีตลาดภายในและภายนอกชุมชน มีการทำผังเมืองรวมเพื่อกันอุตสาหกรรม และคนในชุมชนอยู่กันอย่างสบาย </p><p> (4) มีความรู้ ได้แก่ มีการประชุมแลกเปลี่ยนความรู้กันทุกเดือน มีทรัพยากรท่องเที่ยว (ตลาดวัฒนธรรม) มีภูมิปัญญา (น้ำดอกอัญชัญ/น้ำดาหลา/อื่น ๆ) และมีความรู้จากภายนอก (สอนแปรรูปกะลา/ลิ้นจี่แห้ง/อื่นๆ) </p><p> (5) มีคุณธรรม ได้แก่ มองเห็นความสำคัญของเด็กและผู้สูงอายุ มีการ </p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal">สร้างงานให้เยาวชนเพื่อไม่ให้ออกไปทำงานนอกพื้นที่ มีเมตตาธรรม (ปรับโครงสร้างหนี้) เอาชีวิตเป็นตัวตั้ง มีสามัญสำนึกในการทำ/การใช้/การอยู่ และอยากให้คนในหมู่บ้านอยู่ด้วยกันมีความสุขสบายในวัยชรา</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> 3) กระบวนการถอดบทเรียน ในการจัดกระบวนการชวนคุยก็ได้เริ่มจาก หัวหน้าทีมชี้แจงเกี่ยวกับที่มาที่ไป วัตถุประสงค์และเป้าหมาย และสิ่งที่จะทำนั้นมีอะไรบ้างให้ชาวบ้านฟัง แล้วชวนชาวบ้านมาเล่าข้อมูลของตนเอง ซักถามเป็นระยะ ๆ (ภายใต้กรอบของข้อมูล) แล้วถามเป็นรายคนบ้างเป็นกลุ่มบ้างสลับกันไปมา หลังจากนั้นคนที่บันทึกข้อมูลลงในกระดาษฟางก็จะประมวลข้อมูลและสะท้อนให้ฟังว่า “ที่คุยกันนั้นมีอะไรบ้าง?” แล้วก็นัดแนะกันถึงงานที่จะทำต่อไปนั้นมีอะไรบ้าง?</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> ก็เป็นอีกบทเรียนหนึ่งที่ไปถอดองค์ความรู้ที่เป็นภาพรวมของชุมชนมาเล่าสู่กันฟังค่ะ.</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> ภาพการจัดกระบวนการชวนคุย</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> ภาพผลการประมวลข้อมูล</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> </p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> ภาพสวนลิ้นจี่ของชาวบ้าน "เราไปดูของจริงหลังจากคุยเสร็จแล้ว"</p><p style="margin: 0in 0in 0pt" class="MsoNormal"> </p>
เรียน คุณสิงห์ป่าสัก
อร่อยมากเลยค่ะ กิโลละ 50 บาท เลยซื้อมา 2 กก.