Le Petit Prince
หนังสือเล่มโปรดเล่มนั้นยังคงอยู่ตรงที่เดิม...บนชั้นวางหนังสือของโต๊ะทำงาน ข้าง ๆ กรอบรูปหินอ่อนสีฟ้าที่มีภาพต้นไม้ในป่าใหญ่ยืนโดดเดี่ยวท่ามกลางทุ่งหิมะสีขาว
Le Petit Prince หรือ “เจ้าชายน้อย” เป็น “เพื่อนสนิท” ของเรา มายาวนาน....อ่านหนังสือเล่มนี้หลายครั้งหลายหน ทั้งที่แปลเป็นภาษาไทย และทั้งที่เป็นภาษาดั้งเดิมคือภาษาฝรั่งเศส...รู้สึกรักและผูกพันกับเจ้าชายน้อย ด้วยรับรู้ถึงความฝันและจินตนาการของวัยเยาว์อันบริสุทธิ์ที่มีต่อการแสวงหาเส้นทางเดินและสารัตถะแห่งชีวิต... ที่ไม่แตกต่างไปจากความคิดฝันของตัวเองเมื่อยามเยาว์วัย และแม้เมื่อยามเติบใหญ่ คราใดที่ได้หยิบหนังสือเล่มนี้ขึ้นมา ความรู้สึกทางใจก็ถูกเติมเต็มและแต่งแต้มด้วยความคิดฝันและจินตนาการที่มีต่อคำว่า “เพื่อน... ความผูกพันและความรัก”
ผู้ประพันธ์เรื่องและวาดภาพ “เจ้าชายน้อย” คือ Antoine de Saint-Exupery ซึ่งเป็นนักเขียนฝรั่งเศสแนว “มนุษยนิยม” ส่วนท่านอาจารย์อำพรรณ โอตระกูล ผู้แปลวรรณกรรมเรื่องนี้นั้น ได้เคยมีโอกาสพบท่านช่วงที่เรียนอยู่ที่ปารีส ยังคงระลึกถึงและประทับใจท่านอาจารย์จนถึงทุกวันนี้
ความงดงามของภาษาและคุณค่าที่แฝงฝังอยู่ในวรรณกรรมเรื่อง “เจ้าชายน้อย” เป็นสิ่งที่กล่อมเกลาจิตใจให้อ่อนโยนและมีพลัง... ความมีอิสระและเสรีภาพของชีวิตจะมีความหมายก็ต่อเมื่อเรามีความรับผิดชอบต่อทั้งตัวเรา คนที่เรารัก และทุกผู้คนบนโลกใบนี้.....
ดอกไม้มากมายในสวนนับพัน แม้จะสวยสดงดงามเพียงใด แต่ไม่เคยมีคุณค่าและความหมายในความรู้สึกของเจ้าชายน้อยเลย เพราะใจของเจ้าชายน้อยผูกพันอยู่กับ “ดอกไม้ดอกเดียว” ที่มีอยู่บนดวงดาวของเขา
.................................................
"สวัสดี” เขากล่าวทักบรรดาดอกกุหลาบในสวนหนึ่ง
“สวัสดี” ดอกกุหลาบกล่าวตอบ
เจ้าชายน้อยมองดูดอกไม้เหล่านั้น มันช่างเหมือนกันกับดอกไม้ของเขา
“คุณคือใคร” เขาถามดอกไม้นั้นอย่างประหลาดใจ
“พวกเราคือดอกกุหลาบ”“
อา...” เจ้าชายน้อยพึมพำ
................................................
เจ้าชายน้อยกลับไปดูหมู่กุหลาบ“เธอช่างไม่เหมือนดอกกุหลาบของฉันเลย เธอยังไม่มีความหมาย เพราะไม่มีใครมาสร้างความสัมพันธ์กับเธอ และเธอยังไม่เป็นของใคร.....”
ฝ่ายหมู่กุหลาบดูรู้สึกอึดอัดใจ
"เธอสวยอยู่หรอก แต่เธอไม่มีความหมายเลย” เจ้าชายน้อยกล่าวสืบไปกับหมู่ดอกกุหลาบนั้น “ไม่มีใครยอมตายเพื่อเธอหรอก แต่สำหรับดอกกุหลาบของฉัน แน่ละ คนผ่านไปมาตามธรรมดาก็คิดว่าดอกกุหลาบนั้นเหมือน ๆ กับพวกเธอ แต่ว่าดอกกุหลาบดอกเดียวนั้นมีความสำคัญกว่าเธอทั้งหมด เพราะเป็นดอกกุหลาบซึ่งฉันรดน้ำ เพราะว่าฉันได้ถนอมไว้ในฝาครอบ และเพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน ฉันจึงหาฉากมาบังลม ฉันได้ฆ่าตัวหนอน (ยกเว้นบางตัวซึ่งฉันปล่อยให้เป็นผีเสื้อ) ฉันจึงทนฟังเขาบ่น ฟังเขาโอ้อวด แม้กระทั่งฟังเขานิ่งเงียบ ทั้งนี้ทั้งนั้น เพราะว่าเป็นดอกกุหลาบของฉัน”
..................................................
สัมพันธภาพของเจ้าชายน้อยและสุนัขจิ้งจอกกลางทะเลทราย ที่ทำให้เจ้าชายน้อยเรียนรู้และเข้าใจความหมายของคำว่า “เพื่อน ความสัมพันธ์และความรับผิดชอบ” ได้ตระหนักถึงความโศกเศร้าและการสร้างความรู้สึกภายในทดแทนเมื่อเวลาแห่งการจากพรากเดินทางมาถึง
..................................................
.“ฉันคือสุนัขจิ้งจอก”“มาเล่นกับฉันสิ” เจ้าชายน้อยชวน “ฉันกำลังเศร้าใจมาก...”
“ฉันเล่นกับเธอไม่ได้หรอก ฉันยังไม่ถูกทำให้เชื่อง” สุนัขจิ้งจอกตอบ
“ทำให้เชื่องแปลว่าอะไร?”
“เป็นสิ่งที่มักถูกลืม” สุนัขจิ้งจอกกล่าว “มันคือการสร้างความสัมพันธ์...”
“สร้างความสัมพันธ์หรือ?”“แน่นอน” สุนัขจิ้งจอกพูด “สำหรับฉัน เธอเป็นเพียงเด็กผู้ชายเล็ก ๆ คนหนึ่งซึ่งเหมือน ๆ กันกับเด็กชายอื่น ๆ อีกแสนคน ฉันไม่ต้องการเธอ และเธอก็ไม่ต้องการฉันเช่นเดียวกัน ฉันก็เป็นเพียงสุนัขจิ้งจอกธรรมดา ๆ ตัวหนึ่งเหมือนสุนัขจิ้งจอกอื่น ๆ แสนตัว แต่ทว่า...ถ้าเมื่อใดเธอคุ้นเคยใกล้ชิดกับฉัน เมื่อนั้น เราต่างก็ต้องการซึ่งกันและกัน เธอก็จะเป็นเด็กคนเดียวในโลกสำหรับฉัน และฉันก็จะเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเดียวในโลกสำหรับเธอด้วย...”
“ฉันเริ่มจะเข้าใจแล้วละ” เจ้าชายน้อยกล่าว
“มีดอกไม้อยู่ดอกหนึ่ง...ฉันคิดว่าเธอได้สร้างความสัมพันธ์กับฉัน...”
........................................
สุนัขจิ้งจอกนิ่งไป พร้อมกับมองดูเจ้าชายน้อยเป็นเวลานาน
“ได้โปรดเถิด...จงทำให้ฉันเชื่อง” เขากล่าว
“ฉันอยากจะทำเช่นนั้น”เจ้าชายน้อยตอบ “แต่ฉันไม่มีเวลามาก ฉันมีเพื่อนมากมายที่จะต้องไปค้นหา และสิ่งต่าง ๆ มากมายที่จะต้องเรียนรู้อีก”
“เราจะรู้จักแต่สิ่งซึ่งเรามีความสัมพันธ์ด้วยเท่านั้น” สุนัขจิ้งจอกกล่าว “มนุษย์เขาไม่มีเวลารู้จักสิ่งใดทั้งนั้น เขาซื้อของสำเร็จรูปจากพ่อค้า แต่เนื่องจากพ่อค้าขายเพื่อนยังไม่ปรากฏ มนุษย์จึงยังไม่มีเพื่อน ถ้าเธอต้องการเพื่อน เธอจงหัดฉันให้เชื่องสิ...”“
"ต้องทำอย่างไรเล่า?” เจ้าชายน้อยถาม
“เธอจะต้องมีความอดทน” สุนัขจิ้งจอกตอบ “เธอจะต้องนั่งห่างจากฉันหน่อยในตอนแรก อย่างนั้นแหละ... นั่งบนหญ้า ฉันจะชายตามองดูเธอ จากนั้นเธอก็อย่าพูดอะไรเลยนะ เพราะภาษาคือที่มาของความเข้าใจผิด และเธอค่อยเขยิบเข้ามาใกล้ ๆ ฉันมากขึ้นทีละน้อย”
.........................................
“ลาก่อนนะ” เขากล่าว
“ลาก่อน” สุนัขจิ้งจอกตอบ “นี่คือความลับของฉัน มันแสนจะธรรมดา เราจะมองเห็นแจ่มชัดด้วยหัวใจเท่านั้น สิ่งสำคัญนั้นไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา”
“สิ่งสำคัญไม่อาจเห็นได้ด้วยดวงตา” เจ้าชายน้อยพูดตามเพื่อเป็นการเตือนความทรงจำ
“เวลาที่เธอเสียไปให้กับดอกกุหลาบของเธอ ทำให้ดอกกุหลาบนั้นมีค่ามากขึ้น”
“เวลาที่ฉันเสียไปให้กับดอกกุหลาบของฉัน....” เจ้าชายน้อยว่าตามเพื่อจดจำไว้
“มนุษย์ลืมความจริงข้อนี้” สุนัขจิ้งจอกเอ่ย “แต่เธอต้องไม่ลืมมัน เธอต้องรับผิดชอบต่อทุกสิ่งที่เธอมีความสัมพันธ์ด้วย เธอต้องรับผิดชอบดอกกุหลาบของเธอ....”
“ฉันต้องรับผิดชอบดอกกุหลาบของฉัน” เจ้าชายน้อยกล่าวซ้ำเพื่อให้หวนระลึกได้
...............................................
เส้นทางเดินชีวิตของใครหลายคนบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้คงไม่ต่างไปจากเส้นทางแห่งการแสวงหาของเจ้าชายน้อยจากดาวเคราะห็บี ๖๑๒ เท่าใดนัก การรู้จักผู้คนจำนวนมากมายอาจทำให้ชีวิตดูเสมือนไม่ว่างเปล่า แต่ก็มิได้หมายความว่าเราจะรู้สึกปลอดภัยหรือไม่ว้าเหว่
การได้ “มีเพื่อน” และการได้ “เป็นเพื่อน” กับ “ใครที่ดี” แม้เพียงคนเดียวต่างหากเล่า คือ ความอบอุ่นและความมั่นคงในตัวตนที่สร้างผ่านสายสัมพันธ์ทางใจที่มีต่อกันและกัน
ดวงดาวช่างสวยจริงนะ
ทั้งนี้เพราะดอกไม้เพียงดอกเดียวซึ่งเรามองไม่เห็น...ชอบหนังสือเล่มนี้เหมือนกันคะ
สวัสดีทุกท่านค่ะ
ดีใจที่ได้ "รู้จัก" คนที่รัก "เจ้าชายน้อย" เหมือนกันค่ะ
จริง ๆ แล้วมีหนังสืออีกหลายเล่มที่เป็น "เล่มโปรด" ค่ะ มีเวลาอาจจะนำมาพูดคุยแลกเปลี่ยนกันใน blog ต่อไปนะคะ
อยากอ่านตั้งแต่ต้นจนจบเลยอ่ะค่ะ
มีให้อ่านโดยไม่ต้องหาซื้อหรือยืมหนังสือบ้างไหมค่ะ
ชอบค่ะสนุกดี