ปกติแล้วหากจะถามว่า “เงินออม คืออะไร?” เราก็จะตั้งสมการว่า
เงินออม = เงินได้ – ค่าใช้จ่าย
ใช่ไหมคะ แต่สำหรับคนที่เก็บเงินไม่ค่อยจะอยู่ (อย่างดิฉัน)
ควรจะตั้งสมการขึ้นมาใหม่ค่ะว่า
ค่าใช้จ่าย = เงินได้ – เงินออม
จากสมการที่หนังสือเล่มนี้แนะนำ ทำให้ดิฉันก็เพิ่งบางอ้อว่า
เฮ้ย! เราก็ใช้วิธีนี้อยู่เหมือนกันหนิหน่า นั่นคือ ดิฉันจะตั้งเป้าหมาย
ในการเก็บเงินแต่ละเดือนไว้ค่ะ ว่าจะเก็บเดือนละเท่าไหร่
พอถึงเวลาเงินเดือนออกเงินถุงเงินถัง (อย่างตอนนี้ อิอิ)
แทนที่เราจะกินอยู่อย่างพระราชาพระราชินีกันในสัปดาห์แรก
แล้วเหี่ยวแห้งกินแต่มาม่าในภายหลัง
ดิฉันก็จะรีบหักเงินส่วนที่ตั้งเป้าหมายว่าจะเก็บนี้ออกจากบัญชีใช้จ่าย
ไปใส่ในบัญชีเงินเก็บโดยทันที เหมือนดังเช่นสมการนี้
เงินส่วนที่เหลือในบัญชีก็คือค่าใช้จ่ายที่ทำให้เราควบคุมเงินได้ง่ายขึ้น
ไม่กดเงินไปใช้สุรุ่ยสุร่ายจนหมดโดยประมาทคิดว่าเงินยังมีอีกเยอะ
เกิดกิเลศบังตาลืมนึกถึงเรื่องเงินออมไปค่ะ
เห็นด้วยครับ มีบันทึกคล้ายๆ กันอยู่สองกัน ลองคลิกไปดูนะครับ เผื่อจะได้เป็นแนวร่วมกันในเรื่องนี้
ควรต้องช่วยกันสอนเด็กๆ ลูกหลาน ให้ออมเงินเพื่อวันข้างหน้าของเค้าเอง ละครับ
ผมเองก็เคยเขียนเรื่องแบบนี้เหมือนกันครับ ระบบการเงิน ในครอบครัว
แอบมา ลปรร ครับ
ขอบคุณคุณสุรเชษฐ และคุณตาหยู มากค่ะ
ตอนมีเงินอยู่ในมือมันมีกิเลส "อยากได้"
เข้ามาดึงชายเสื้อเราพาไปนั่นไปนี่
ผมเองก็เป็นครับโดยเฉพาะ "หนังสือ"
ซื้อมาเนี่ยบางเล่มอ่านไม่ทันจบเลย
Version ใหม่มาอีกแล้ว =_="
ไม่น่าซื้อมาเล้ย จนแล้วจนรอดก็ซื้ออีกครับ
ซื้อมากุดเขาตัวเอง ไม่ให้มันโผล่
ตอนนี้คิดว่าเอาเงินไว้ห่างๆมือดีกว่าครับ
เก็บไว้ใน bank ซะเลย
ขอบคุณค่ะ คุณขวัญชัย
แหม อาจารย์หนูเปรียบซะเห็นภาพเลยค่ะ เนี่ย
ชอบ ๆ จังค่ะ
และปกติก็มักเป็นแบบสมการหลังด้วยสิค่ะ เฮ่อ 555