อ่านบันทึกแสดงความคิดเห็นของพี่
นันทา ติงสมบัติยุทธ์ ที่ได้แจ้งในบันทึกนี้
http://gotoknow.org/blog/yutkpp/92336ให้ทราบว่าขณะนี้ส่วนกลางกำลังจะทำกิจกรรมอะไร พี่นันทาแจ้งว่า
- วันที่ 30 เมย. นี้ ส่วนกลางจะจัดเวทีสร้างความรู้ความเข้าใจการนำ KM ไปใช้ในกระบวนงานส่งเสริมการเกษตร ให้แก่ผู้บริหารทั้งในส่วนกลางและภูมิภาค (เกษตรจังหวัด /เขต) ทั่วประเทศ
- ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นส่วนหนึ่ง ที่ส่วนกลางจัดขึ้น เพื่อจะช่วยเสริมหนุนให้แก่ผู้ปฎิบัติงาน KM ของจังหวัดได้ทำงานได้อย่างราบรื่นขึ้น
ผมมีข้อคิดเห็นและขอนำมาบันทึกต่อนะครับ ว่าผมเห็นด้วยอย่างยิ่งที่ส่วนกลางจะจัดกิจกรรมเพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่CKO เพราะอะไรหรือครับ..... ก็เพราะว่า....? พร้อมทั้งมีข้อคิดเห็นของคนเล็กคนน้อยที่ปฏิบัติงานจะมา ลปรร. ดังนี้ครับ
- การจัดการความรู้ในหน่วยงานภาครัฐ CKO เป็นจุดคานงัดที่สำคัญมาก จะทำให้รุ่งก็ได้ หรือจะทำให้ร่วงโรยก็ได้เช่นกัน
- มีความรู้ และความเข้าใจ และมีความคิดเห็นที่ถูกต้องของ CKO ต่อการจัดการความรู้ มีส่วนสำคัญที่จะก้าวไปสู่กระบวนการเรียนรู้และพัฒนา KM ใสนหน่วยงานที่สำคัญมาก
- CKO ต้องรู้ก่อนว่าจะทำ KM ไปเพื่ออะไร และ KM คืออะไร อย่าคิดว่ามันเป็นกระแส หรือว่ากำลังทำตามกระแส ทำเพราะ กพร.จะประเมินเท่านั้น
- ต้องมีความรู้และมีความเชื่อมั่นในเบื้องต้นก่อนว่า KM เป็นเครื่องมือที่จะมาสนับสนุน/พัฒนาการทำงานของหน่วยงานเราได้
- CKO ต้องเริ่มทำ KM โดยเริ่มจากของดีที่มีอยู่แล้วในหน่วยงาน
- ไม่คิดแยกส่วน สร้างกิจกรรม KM ขึ้นมาใหม่ โดยแยกออกมาจากงานประจำ/งานปกติ
- คงจะต้องหาเวลาศึกษา ไม่ว่าจะวิธีการใดๆ ก็ตาม เพื่อสร้างความเข้าใจ และเรียนรู้ KM ให้มากๆ ไม่เช่นนั้นจะเห็น KM เป็นเพียงโครงการ ที่ส่วนกลางสั่งให้ทำ ก็ทำไปอย่างนั้นแหละ ก็จะไม่พบเจอหรอได้รับอานิสงฆ์ของการทำ KM เลย (แต่จะผ่านการประเมินเท่านั้น...)
- ต้องสร้าง และเอื้อให้เกิดการ ลปรร.ในงานประจำ และเปิดโอกาสให้เกิดชุมชนแนวปฏิบัติในเรื่องต่างๆ ซึ่งจะส่งผลต่อการพัฒนางานแบบนอกกรอบออกไปได้เป็นอย่างดี เพราะชุมชนแนวปฏิบัตินั้นๆ จะคิดและพัฒนางานได้ด้วยชุมชนนั้นๆ เองได้
- CKO ไม่ควรฟันธงลงไปว่าจะต้องทำกิจกรรมที่เกี่ยวกับ KM อย่างนั้นอย่างนี้เพียงเท่านั้น ต้องเคารพในศักดิ์ศรีและความเท่าเทีนมในความคิด และเปิดโอกาสให้ทุกคนได้คิด และพัฒนา สร้างกิจกรรม/ลปรร. เพื่อพัฒนางานที่เขาทำอยู่ด้วยความเท่าเทียม
- ไม่ติดเพียงรูปแบบ หรือเครื่องมือชิ้นใดชิ้นหนึ่งตายตัว แม้ว่าหน่วยงานอื่นทำแล้วสำเร็จก็ตาม เพราะระวัง...นั่นคือหลุมดำ ต้องมองงาน/หน่วยงานของตนเองเป็นหลัก แล้วปรับกิจกรรมให้เหมาะสม (ความรู้ขึ้นอยู่กับบริบท)
- ต้องไม่ยึดมั่นว่าผู้บริหารคือผู้มีความรู้มากที่สุด มีอำนาจมากที่สุด การทำ KM ต้องได้รับความร่วมมือจากทุกคนในหน่วยงาน การสั่งการตามแท่งอำนาจเพียงวิธีการเดียว ไม่สามารถสร้าง KM ในใจ/ KM จริงๆ ได้เสมอไป สิ่งที่เห็นอาจเป็นเพียงของปลอมๆ (KM เทียม)
- ต้องสร้างเวที และสนับสนุนให้เกิดการ ลปรร. เกิดกิจกรรมที่คนทำงานได้มา ลปรร./เสนอความก้าวหน้าทั้งในกระบวนส่งเสริมฯ (เจ้าหน้าที่) และเวทีของคุณกิจตัวจริง (เกษตรกร) เพื่อสร้างแรงจูงใจ และขวัญกำลังใจแก่ทุกส่วนที่เกี่ยวข้อง (ไม่จำเป็นเฉพาะที่มีอยู่แล้วในระบบการทำงาน อาจคิดใหม่เพิ่มเติมได้)
- ฯลฯ
มีอีกมากครับ ตอนนี้คิดได้แค่นี้ เชิญท่านผู้อ่านเพิ่มเติมได้นะครับ
บันทึกมาเพื่อการ ลปรร. ครับ
วีรยุทธ สมป่าสัก