ลองนึกดูว่า เจ้าเจมส์(หมา)กับเจ้าปังคุง(ลิง) เพื่อนคู่ซี้ที่ ใส ซื่อ บริสุทธิ์ และเป็นธรรมชาติมากๆ (ขนาดกำลังแสดงออกกล้องนะนั่น!) ลองนึกดูซิ ไปทำภารกิจด้วยกันทีไร ต้องมีเถลไถลทุกที
(เถลไถล แปลว่า Linger on the way ครับผม)
บางครั้งก็ เจ้าเจมส์(หมา)บางครั้งก็ เจ้าปังคุง(ลิง)
เช่นครั้งหนึ่งไปทำภารกิจซื้อของฝากให้เจ้านาย ผ่านกลุ่มคนกำลังล้อมวงกินอาหารปิกนิก(picnic)กันอยู่ พ่อปังคุงก็ตรงดิ่งไปร่วมวง กินด้วยช่วยกันซะงั้น เสร็จแล้วก็คำนับแบบญี่ปุ่นเสร็จสรรพ เจมส์ก็ไม่แพ้กันผ่านร้านหมูย่างก็ฉุดกระชาก ลากถูเอาปังคุงแทบลอยตามไป ไปชะเง้อ(ชะเง้อ แปลว่า to crane (one’s neck) น้ำยายไหย!?!(จงใจเขียน ไม่ได้เขียนผิดหรอก จะได้เห็นภาพไง) ใกล้ชิดกับเตาเป็นที่อลเวง มีกิจกรรมน่ารัก มากมายๆ จากเจมส์และปังคุง อย่าลืมตามดูนะครับ มาต่อกันจากเมื่อวานนี้ ด้วย ทฤษฎีอุปมา(to compare with)อุปไมย(subject of comparison) คำอุปมา แปลว่า Metaphor : การใช้อุปมา อุปไมย มีมาแต่โบราณกาล เวลาเราพบปัญหา ตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ค่อยน่าอภิรมย์(น่าอภิรมย์ แปลว่า delightful or enjoyable or blissful ก็ได้ครับ) เราต้องรีบดึงเอาทฤษฎีนี้มาใช้นะครับ เพราะสมองจะวิ่งไปสั่งการว่าลองอุปมา อุปไมยเปรียบเทียบกับความหมายหรือลักษณะของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เหตุการณ์ใดๆดูซิ แล้วจะเข้าใจโลกและชีวิตมากขึ้น เช่นเวลา จะเสียใจมากไปแล้ว ต้องหยุด เดี๋ยวเสียสมดุล ก็เปรียบเทียบกับ การที่เรายืนอยู่บนโลกใบนี้ได้ ก็เพราะมีแรงดึงดูดเข้าสู่ศูนย์กลาง(แรงโน้มถ่วง)กับแรง N =Reactionจากพื้นโลก ที่สมดุลกันตลอดเวลา (ยังจำ Basic Physics กันได้นะ) ทำให้เราอยู่ติดพื้นโลกได้ เราก็จะเสียใจแต่พอควรแล้วก็ “ช่างมัน!” กลับมาเริ่มต้นกับสิ่งใหม่ๆได้ จะว่าไปนะ มิตรภาพก็ต้องเข้าใกล้และถอยห่างให้มีระยะพอดีๆนะครับ แล้วอย่าลืมดูเจมส์กะปังคุงต่อเลยนะ จะได้หายสนิท จบด้วยธรรมะของท่านพุทธทาส ครับ
“ไม่ต้องเสียใจ!
ความผิดพลาดเป็นสิ่งที่มนุษย์ธรรมดาต้องมี
แต่ก็แก้ไขได้ด้วยความฉลาดที่ความผิดพลาดสอนเรา
ทุกครั้งที่เราทำผิดนั่นเอง” จบแล้วครับ !!!
Sirikasem Sirilak April 23, 2007
เด็กๆที่บ้านก็ชอบดูค่ะ ช่วยสร้างเสียงหัวเราะในครอบครัวได้อย่างดี แถมย้งสอนเด็กๆได้ลิงย้งทำได้แล้วเราจะฝึกฝนทำอะไรไม่ได้หรือ?