ดิฉันถูกหมอดุ

11-4-50

 วันนี้ดิฉันต้องรีบนำพี่เขยซึ่งเป็นโรค nephrotic syndromeหรือโรคไตและเกิดอาการสงสัยเส้นเลือดอุดตันที่ขาข้างซ้ายไปทำการผ่าตัดเอาส่วนที่อุดตันออก        หลังจากมีการตรวจและปรึกษากันทั้งสามหมอของสถาบันก็มาสรุปว่าน่าจะเส้นเลือดอุดตัน         จะต้องรีบผ่าออกก่อนที่จะเกิดการขาดเลือดไปทั้งขา        ดิฉันปรึกษาหมอเสือที่เป็นเจ้าของไข้ในการส่งต่อทำให้สามารถติดต่ออาจารย์น.พ.โสภณที่ รพ.รามาธิบดีได้            เรารีบนำผู้ป่วยไปโดยที่ดิฉันไปด้วยเพราะกลัวญาติให้ข้อมูลผู้ป่วยช้า        ทำให้เสียเวลาและอาจจะไม่ได้รับความสะดวก        เราไปถึงห้องฉุกเฉินโดยมีจดหมายผ่านทางจากคำสั่งที่หมอเสือเขียนมาให้จากความกรุณาของอาจารย์โสภณทำให้สามารถเข้ามาอยู่ทีห้องฉุกเฉินได้      ดิฉันให้ข้อมูลนักเรียนแพทย์         แพทย์ประจำบ้านที่มาซักประวัติสามสี่ท่านด้วยความหิวข้าวกลางวันทุกคน      ระหว่างที่ดิฉันให้ข้อมูลดิฉันพยายามเล่าถึงเรื่องทั้งหมดที่คิดว่าจะเกี่ยวข้อง ให้คุณหมอทราบ        คุณหมอท่านแรกไม่ยอมฟังพร้อมบ่นเสียงเขียวว่า        เอาจะเฉพาะเรื่องปวดขา  เรื่องอื่นไม่ต้อง     ดิฉันแอบคิดในใจว่าฉันจะไปรู้ได้อย่างไรว่าจะให้เริ่มตรงใหนถึงจะเหมาะสมคะคุณหมอขา     ดิฉันเลยใช้วิธีให้หมอถามถึงจะเล่าค่ะ     

   ขอบคุณทีมพยาบาลที่ห้องฉุกเฉิน( ER)      ที่เข้ามาช่วยเต็มที่      และทีมแพทย์ประจำบ้านศัลยกรรม  อายุรกรรม  ER ที่ต้องอดทานอาหารกลางวันที่อร่อย        ต้องรีบมาช่วยผู้ป่วยที่เป็นญาติดิฉัน        และอาจารย์ที่ให้ความกรุณาค่ะ 

ดิฉันขอขอบคุณหมอเสือที่ติดต่ออาจารย์ที่โรงพยาบาลรามาธิบดีให้  หมอโอหมอกระดูกที่ตรวจเรื่องปวดหลังและปวดขา  และหมอตันภัยที่เป็นคนวินิจฉัยโรคเส้นเลือดอุดตันทำให้ดิฉันสามารถนำผู้ป่วยไปรับการรักษาได้ในเวลาที่จำกัดได้ค่ะ   

 ถ้าไม่ได้ ความสัมพันธ์ที่มีมาก่อนคงหาหมอยากเพราะเป็นโรคที่วินิจฉัยยาก ฉุกเฉินเร่งด่วนและแพทย์เฉพาะทางมีน้อยค่ะ       อาจารย์เป็นหมอเปลี่ยนไตและเป็นvascular surgery (แพทย์ที่ผ่าตัดเส้นเลือด) แล้วพี่เขยดิฉันคงมีโอกาสถูกตัดขาค่ะ

   ถึงถูกหมอน้อยดุก็ทนได้เพราะคุณหมอรีบมาดูคนไข้ทันทีค่ะ