มาดากัสการ์ เกาะมหาสมบัติแห่งแอฟริกา ผมพาท่านไปยังเกาะแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า มาดากัสการ์ เป็นเกาะที่ใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก ผู้คนมีเชื้อสายแอฟริกัน-อินโด-มาเลย์ และที่สำคัญ เกาะนี้มีทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ โดยเฉพาะอัญมณีที่ล้ำค่าในปริมาณที่มากมายมหาศาล สมควรที่เราจะเรียกว่า เกาะมหาสมบัติแห่งแอฟริกา มาดากัสการ์เป็นอีกประเทศหนึ่งที่ผมเห็นว่ามีศักยภาพในทางเศรษฐกิจ และธุรกิจ เป็นประเทศที่ไม่เหมือนประเทศในแอฟริกาทั่วไป เพราะมีเสน่ห์ที่ซ่อนเร้นมากมายให้ค้นหาทั้งในแง่ของผู้คนและผืนแผ่นดิน เป็นขุมทรัพย์ที่น่าจะเป็นอนาคตของนักธุรกิจไทยได้อย่างสบาย มาดากัสการ์ทำไมคนถึงมีหน้าตาเหมือนอินโด…….ทำไมถึงมีอัญมณีเยอะมาก เยอะเสียจนคนจันทบุรีหลายร้อยคนพากันเดินทางเข้าไปทำมาหากินเป็นล่ำเป็นสัน ที่เมืองอันตานานาริโว………ทำไมถึงเป็นเกาะมหาสมบัติแห่งแอฟริกา…………….คนจันทบุรีเข้าไปมาดากัสการ์ทำไมมากมายหลายร้อยคน…….ทำไมผมถึงแนะนำมาดากัสการ์ว่าเป็นอนาคตของนักธุรกิจไทย……
สนามบินกรุงอันตานานาริโว เป็นสนามบินเล็กๆ คล้ายสนามบินเมืองเชียงใหม่ของบ้านเรา ผู้คนมากมายที่สนามบินคอยต้อนรับ ทั้งต้อนและรับ ได้ทราบว่าที่สนามบินก็มีชาวบ้านมารุมขายอัญมณีกันเป็นว่าเล่น เหมือนกับที่บ้านเรามีเด็กขายโอเลี้ยงตามสถานีรถไฟฉะนั้น มาเห็นเองก็ดูจะเป็นความจริงเสียด้วย เกาะมาดากัสการ์แต่ดั่งเดิมนั้นเคยเป็นแผ่นดินส่วนหนึ่งของทวีปแอฟริกา แต่แตกแยกออกมาจากแผ่นดินใหญ่เมื่อประมาณ 165 ล้านปีที่แล้วเองและใช้เวลาอีกกว่า 45 ล้านปี จนมาอยู่ในจุดที่อยู่ในปัจจุบันในมหาสมุทรอินเดีย จากนั้น ว่ากันว่ามนุษย์คนแรกหรือพวกแรกที่มาอยู่ในเกาะนี้ได้แก่พวกอินเดีย แอฟริกันและอาหรับที่ล่องเรือมา จวบจนกระทั่งปี ค.ศ. 1500 โปรตุเกสได้มาพบเกาะมาดากัสการ์นี้ ข่าวการพบเกาะรู้ไปถึงประเทศยุโรปอื่นๆ ทำให้ประเทศมหาอำนาจทางเรือเช่นอังกฤษและฝรั่งเศสต่างพากันเข้ามาล่าอาณานิคมบนเกาะนี้ด้วยซึ่งก็มีการต่อสู้ระหว่างชนพื้นเมืองเรื่อยมาในปี ค.ศ. 1794 กษัตริย์ Andrianampoinimerina รวบรวมชนพื้นเมืองที่มีอยู่หลายเผ่า ตั้งเป็นอาณาจักรมาดากัสการ์ได้สำเร็จ ปกครองเกาะนี้มาจนถึงรุ่นลูก กษัตริย์ Radama ที่ 1 ในปี ค.ศ1817 ที่เริ่มเปิดรับอารยธรรมตะวันตกที่แผ่เข้ามาทางหมอสอนศาสนา จนทำให้ชนพื้นเมืองได้รับอิทธิพลทั้งทางศาสนา ภาษาและความเป็นอยู่อย่างมาก อย่างไรก็ดี เมื่อกษัตริย์ Radama สิ้นพระชนม์ ในปี ค.ศ 1828 ราชินี Ranavalona ขึ้นปกครองประเทศและได้ขับไล่หมอสอนศาสนาออกไปจากมาดากัสการ์จนหมดสิ้นในปี ค.ศ1883-1895 ฝรั่งเศสยึดมาดากัสการ์ได้ ยกเลิกระบบกษัตริย์และใช้ภาษาฝรั่งเศสเป็นภาษาราชการอย่างไรก็ตาม ภาษาพื้นเมืองที่นิยมใช้กันมากก็คือ creoleในปี ค.ศ1958 เมื่อชาลส์ เดอ โกลได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีของฝรั่งเศส และได้ให้อิสรภาพแก่มาดากัสการ์ โดยมีประธานาธิบดี Tsiranana เป็นประธานาธิบดีคนแรก ปกครองจนถึงปี ค.ศ1972 นาย Didier Ratsiraka ได้เป็นประธานาธิบดีคนต่อมาและได้รับเลือกอีกเป็นครั้งที่สองในปี ค.ศ1991 และได้รับเลือกอีกเป็นครั้งที่สามหลังจากที่นาย Albert Zafy ได้เข้ามาเป็นประธานาธิบดีในช่วงเวลาสั้นๆ ในปี ค.ศ 2001 มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งใหม่มีคู่ชิงคนสำคัญได้แก่ นาย Ravalomanana อดีตนายกเทศมนตรีกรุงอันตานานาริโว ผลการนับคะแนนมีปัญหาไม่สามารถตกลงกันได้จนเกิดความวุ่นวายภายในประเทศเป็นเวลาหลายเดือนในที่สุด ในเดือนกรกฎาคม 2545 นาย Ravalomanana ได้รับการยอมรับจากมหาอำนาจเช่นสหรัฐฯ และหลายประเทศในยุโรปทำให้สถานการณ์คลี่คลายและยุติลงโดยมีนาย Ravalomanana เป็นประธานาธิบดีคนล่าสุด
มาดากัสการ์เป็นประเทศที่ยากจนค่อนข้างจะที่สุดประเทศหนึ่ง รายได้เฉลี่ยต่อหัวต่อปีประมาณ 800เหรียญสหรัฐฯ เท่านั้น … แต่ทำไมผมถึงบอกว่าคนยากจนแต่แผ่นดินไม่จน เพราะว่าในแผ่นดินของมาดากัสการ์นั้นอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพยากรธรรมชาติเรียกว่าทั้งทรัพย์ในดินและบนดิน ยกตัวอย่างทรัพย์ในดินที่สำคัญที่สุดในขณะนี้คืออัญมณีซึ่งมีมากเหลือเกินโดยเฉพาะทางตอนใต้ของประเทศ ผลผลิตบนดินทางเกษตรที่สำคัญที่ส่งออกคือกาแฟ วานิลา กานพลู ไม้ สัตว์ทะเลมีเปลือก(กุ้ง หอย ปู) น้ำตาลทราย รวมทั้งผลิตภัณฑ์ปิโตรเลี่ยม นี่ยังไม่นับทรัพย์ในทะเลที่มีมากเหมือนกันอัญมณีที่ประเทศไทยต้องการจากมาดากัสการ์นั้นก็มีมาก โดยเฉพาะ topaz และ sapphires รวมทั้งพลอยหลากหลายชนิด ซึ่งไทยใช้วัตถุดิบเหล่านี้เพื่อเพิ่มมูลค่าอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับ เป็นที่รู้กันว่าผู้ค้าพลอยจันทบุรีของไทย ขุดพลอยในจังหวัดจนหมดเกลี้ยง ครั้นจะไปขุดที่ประเทศข้างเคียงซึ่งก็พอมี เช่นกัมพูชา หรือพม่า ก็เอาแน่ไม่ได้ ด้วยปัญหาชายแดน และปัญหาภายในประเทศของเขาเอง ทำให้ชาวจันทบุรีต้องคิดแล้วว่าจะหาอัญมณีจากที่ใดที่จะทำให้อุตสาหกรรมอัญมณีเครื่องประดับอยู่รอดต่อไป คำตอบอยู่ที่มาดากัสการ์ ผู้เชี่ยวชาญอัญมณีจันทบุรีบอกผมว่า พลอย topaz และพลอยแดงที่มาดากัสการ์นั้นคุณภาพดีมาก และมีแหล่งพลอยที่อุดมสมบูรณ์ ขุดอีกหลายสิบปีก็ไม่หมด และด้วยเหตุนี้ ผู้ค้าพลอยไทยจึงไปแสวงโชคที่อันตานานาริโวเป็นจำนวนหลายร้อยคนเป็นเวลานับสิบปีมาแล้ว
ความสำคัญของมาดากัสการ์ในเรื่องแหล่งอัญมณีนั้นมีมาก มากแค่ไหนก็ลองคิดดูว่ามูลค่าของอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับที่ไทยส่งออกไปขายทั่วโลกที่มีถึง 7 หมื่นล้านบาทต่อปี วัตถุดิบส่วนใหญ่ซึ่งได้แก่พลอยนั้น มาจากมาดากัสการ์นี่เองถามว่าถ้าไม่มีวัตถุดิบจากมาดากัสการ์จะเป็นเช่นไร หลายคนไม่อยากคิด เพราะอาจจะกระทบอุตสาหกรรมอัญมณี กระทบต่อบุคลากรและแรงงานที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมนี้นับหมื่นนับแสนคน กระทบการท่องเที่ยวและโรงแรม เนื่องจากชาวต่างชาติไม่น้อยที่เดินทางมาประเทศไทยโดยต้องการมาซื้อหาเครื่องประดับซึ่งไทยเป็นศูนย์กลางแห่งหนึ่งของโลก ได้มีการคาดประมาณกันว่า วัตถุดิบที่ใช้ป้อนอุตสาหกรรมอัญมณีและเครื่องประดับของไทยนั้น ร้อยละ 70-80 มาจากมาดากัสการ์โดยมีมูลค่าการนำเข้าขั้นต่ำประมาณ 10,000 ล้านบาทต่อปี การนำเข้าอัญมณีเช่นพลอยจากต่างประเทศเข้าประเทศไทยนี้ ไม่มีการห้ามหรือจำกัด โดยเฉพาะหากเป็นการนำเข้ามาเป็นสินค้าตัวอย่าง ดังนั้นเราอาจประมาณการว่าการนำเข้าพลอยจากมาดากัสการ์น่าจะปริมาณมากกว่าที่หลายคนคาดคิดหลายเท่า
มาดากัสการ์นั้นเป็นแหล่งประมงที่อุดมสมบูรณ์อีกแห่งหนึ่งในแอฟริกา โดยมีชายฝั่งทะเลยาวรวมกันถึง 4828 กิโลเมตร ซึ่งเรือประมงไทยเริ่มเข้าไปจับปลาแล้ว นอกจากนี้ ด้วยประชากรกว่า 16 ล้านคน ทำให้เป็นตลาดผู้บริโภคที่ใหญ่ ซึ่งเท่าที่ผมได้ไปเห็นมาคนมาลากาซี่มีความต้องการสินค้าพื้นฐานและอุปโภคบริโภคทุกขนิดซึ่งไทยมีครบครันในราคาที่แข่งขันกับบางประเทศ เช่นจีนได้อย่างสบายนอกจากนั้นในเรื่องก่อสร้างก็มีลู่ทางที่จะพัฒนาอีกมากในอนาคตอันใกล้ ที่เห็นชัดๆ ก็คือกรุงอันตานานาริโวยังขาดสิ่งต่างๆ อีกมาก ผมลองถามซาลีมาว่าเท่าที่เธออยู่ในมาดากัสการ์มานาน อยากให้อันตานานาริโวมีอะไรบ้าง เธอบอกว่า อยากให้มีถนนที่ดีและกว้างกว่านี้ มีโรงแรมห้าดาวดีๆ มีโรงพยาบาลที่ใหญ่มีคุณภาพ มีโรงเรียนที่เป็นมาตรฐานสากล มีร้านอาหารไทย ….ฯลฯ สิ่งที่ซาลีมาบอกผมนั้นจดอย่างไรก็ไม่หมดเพราะต้องการแทบทุกอย่าง นักธุรกิจไทยไม่ต้องขนาดใหญ่เอาแค่กลางๆ หรือเล็กๆ ก็สามารถไปสร้างสิ่งเหล่านี้ให้เกิดได้ในมาดากัสการ์ โดยอาจจะเอาสินค้าแลกกับพลอยของมาดากัสการ์ในลักษณะ Account Trade การค้าแบบหักบัญชีระหว่างกัน ผมว่าเป็นสิ่งที่น่าตื่นเต้นที่จะบอกว่า ยังมีตลาดธุรกิจหลายชนิดรออยู่อีกมากที่มาดากัสการ์ สำหรับนักธุรกิจ นักค้าขายไทย ปัญหาอยู่ตรงที่ว่าเมื่อคุณรู้อย่างนี้แล้ว คุณจะตัดสินใจอย่างไรและจะกล้าไปหรือเปล่า
เรื่องนี้คงจบไม่สมบูรณ์หากไม่พูดถึงรัฐบาลใหม่ของมาดากัสการ์ซึ่งได้ทำให้เกิดความหวังครั้งใหม่แก่เกาะแห่งนี้และอาจจะเป็นโอกาสใหม่ของคนไทยและนักธุรกิจไทยด้วยก็ได้ประธานาธิบดีคนใหม่ล่าสุด นาย Ravalomanana เป็นนักธุรกิจรุ่นใหม่ที่ประสบความสำเร็จในชีวิต ต่อสู้จากธุรกิจเล็กๆ ขายโยเกิร์ต(นมเปรี้ยว) จนสร้างเนื่อสร้างตัวได้เป็นผู้คุมธุรกิจนมดื่มและอาหารเสริมที่ใหญ่ที่สุดในมาดากัสการ์ รวมทั้งกิจการอื่นๆ อีกหลายอย่างดูจากประวัติของประธานาธิบดีคนนี้ซึ่งมีอายุเพียง 52 ปีแล้วต้องยอมรับว่าเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไฟแรงและน่าจะสอดคล้องกับกระแสโลกที่ต้องการผู้นำและผู้บริหารที่มีวิสัยทัศน์โดยเฉพาะในเรื่องการบริหารการจัดการแบบใหม่หลังจากที่สหรัฐฯและอีกหลายประเทศในยุโรปรวมทั้งสหภาพยุโรปรับรองรัฐบาลใหม่ในเดือนกรกฏาคม 2545 ก็มีการประชุมกลุ่มเพื่อนของมาดากัสการ์ที่กรุงปารีส ฝรั่งเศส (ซึ่งเป็นประเทศที่ให้ความช่วยเหลือมาดากัสการ์มากที่สุด) โครงการความช่วยเหลือได้ถูกกำหนดอย่างเร่งด่วนภายใน 2 ปี โดยมีงบประมาณสนับสนุนมากมายนับพันล้านเหรียญสหรัฐฯผมมีโอกาสได้พบประธานาธิบดีคนใหม่นี้ในวันหนึ่งของเดือนกันยายน 2545 ซึ่งถือว่าพิเศษและโชคดีมาก เพราะตามปรกติประธานาธิบดีคนนี้ไม่ค่อยมีเวลาว่างเพราะเพิ่งขึ้นดำรงตำแหน่งใหม่และไม่ค่อยจะอนุญาตให้ใครเข้าพบได้ง่ายๆ เป็นคนที่มีความเป็นชาตินิยมสูงและจะไม่พูดภาษาต่างประเทศเวลาออกงานต่างๆ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นที่ว่าพิเศษสุดก็คือในช่วงที่ผมไปเยือนมาดากัสการ์วันนั้น เอกอัครราชทูตไทยได้เข้ายื่นพระราชสาสน์ตราตั้งกับประธานาธิบดีในช่วงเช้าของวันนั้นพอดีและนับเป็นทูตต่างประเทศคนแรกที่ได้ยื่นสาสน์ตราตั้งกับประธานาธิบดีคนนี้และรัฐบาลชุดนี้ หลังจากยื่นสาสน์แล้วในช่วงบ่ายประธานาธิบดีได้อนุญาตให้คณะผู้แทนไทยซึ่งมีจำนวนถึง 26 คนเข้าพบทั้งหมดเป็นกรณีพิเศษถึง 30 กว่านาทีประธานาธิบดีได้ให้เกียรติและเป็นกันเองกับคณะผู้แทนไทยมาก ท่านได้แสดงความปรารถนาดีและพร้อมที่ร่วมกันส่งเสริมความสัมพันธ์กับไทยในทุกด้านรวมทั้งเชิญชวนให้นักธุรกิจไทยไปลงทุนในมาดากัสการ์ โดยเฉพาะด้านอัญมณีและประมงและหวังเป็นอย่างยิ่งว่าไทยจะให้ความช่วยเหลือในการพัฒนาประเทศมาดากัสการ์บ้าง ประโยคสำคัญที่ท่านประธานาธิบดีได้กล่าวต่อคณะผู้แทนไทยคือการร่วมมือระหว่างกันทั้งสองฝ่ายเพื่อที่จะสร้างผลประโยชน์ร่วมกันและถือเป็นศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ระหว่างไทย-มาดากัสการ์ทีเดียวนักธุรกิจไทยสามารถที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการฟื้นฟูมาดากัสการ์ได้อย่างไม่ยาก สิ่งที่ผมเห็นว่าสำคัญก็คือทัศนคติที่ดี ในยามที่ประเทศใดประเทศหนึ่งประสบความทุกข์ยาก ในฐานะมิตรประเทศและในฐานะที่ไทยเรามีผลประโยชน์อยู่อย่างชัดเจน และเราสามารถช่วยได้ ผมว่านั่นแหละโอกาสของเรา โอกาสที่จะได้สร้างน้ำใจ ไมตรีจิตในฐานะประเทศผู้ให้บ้าง บทบาทของไทยในขั้นแรกที่ชัดเจนก็คือการให้ความช่วยเหลือโดยเฉพาะด้านมนุษยธรรมแก่มาดากัสการ์ ผมดีใจที่คณะนักธุรกิจเอกชนที่ไปในครั้งนั้นได้แสดงน้ำใจบริจาคเวชภัณท์และรถพยาบาลแก่มาดากัสการ์มูลค่าเกือบสองล้านบาทซึ่งประธานาธิบดีมาดากัสการ์ก็ได้ขอบคุณต่อการบริจาคในครั้งนี้ นอกจากนั้นนักธุรกิจไทยก็ยังสามารถที่จะช่วยเหลือโดยอาสาเป็นที่ปรึกษาในการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานให้ประเทศมาดากัสการ์ได้ซึ่งก็จะทำให้มาดากัสการ์สามารถยืนได้ด้วยตัวเองและเข้าสู่สังคมฐานความรู้ในยุคนี้ ผมเชื่อว่าด้วยความสามารถของนักวิชาการและ นักธุรกิจไทยที่มีประสบการณ์สูงจะเป็นที่ปรึกษาที่ดีสำหรับมาดากัสการ์ได้ ผมเชื่อด้วยว่าลึกๆ แล้วคนไทยมีเอกลักษณ์ของการเป็นคนที่มีน้ำใจ มีเมตตาปราณีอยู่แล้ว ซึ่งไม่ต่างจากคนมาลากาซี่ จึงขอให้เริ่มจากทัศนคติที่ดีเช่นนี้ ก็น่าจะทำให้การร่วมมือระหว่างทั้งสองประเทศเป็นไปอย่างยั่งยืน
ไปกันเถิดครับ มาดากัสการ์ ไปเริ่มศักราชใหม่ของความสัมพันธ์ซึ่งได้เริ่มมาอย่างดีแล้วในยุคนี้ แม้คุณจะไม่ใช่พ่อค้าพลอยจันทบุรี หรือไม่ใช่ชาวประมงที่ไปจับปลาอยู่ในขณะนี้ ถ้าคุณเป็นนักธุรกิจไทยไม่ว่าจะเล็กและใหญ่ หรือชาวไร่ ชาวนา ชาวสวน นักวิชาการ อาสาสมัคร แรงงานฝีมือ……. ลองหาโอกาสไปมาดากัสการ์ ไปร่วมกันสร้างความสัมพันธ์ระหว่างนักธุรกิจและระหว่างประชาชนให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น
ปล.ไทยไปเปิดสำนักงานในมาดากัสการ์หลายปีแล้วและกำลังจะเปิดเป็นสถานกงสุลใหญ่ไทยในมาดากัสการเร็วๆ นี้
……………………………
คุณ engineertelครับ
ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดเห็น
ในปัจจุบันไทยเรามีสถานเอกอัครราชทูต/สถานกงสุลไทยใน 7 ประเทศครับ คือ โมร็อคโค อียิปต์ เซเนกัล เคนยา แอฟริกาใต้ ไนจีเรียและมาดากัสการ์
มาดากัสการ์เป็นประเทศเกาะที่น่าไปเที่ยวมากที่สุดครับ หากมีโอกาส อย่าพลาดนะครับ
ด้วยความปรารถนาดี
เรียนคุณ TAFS ครับ
ขอบคุณครับสำหรับข้อคิดเห็น ผมจะพยายามทำหน้าที่นักการทูตกับคนในประเทศครับ เพราะในทุกวันนี้ ไม่ว่าเราจะอยู่ที่ใดในประเทศไทย ความเป็นสากลเข้ามาสัมผัสคนไทยอย่างใกล้ชิด ทุกซอกทุกมุม จึงคิดว่าการทูตเป็นเรื่องที่ต้องเปิดกว้างสู่ประชาชนทุกระดับครับ
ด้วยความปรารถนาดี
เรียนคุณ NUTIM
ขอบคุณครับและรอฟังเรื่องเล่านะครับ หากคุณได้ไปเยือนในวันข้างหน้า ทราบว่าในปัจจุบันสายการบินมาดากัสการ์บินตรงจากกรุงเทพฯ -อันตานานาริโวสัปดาห์ละ 3 วัน........ขอให้โชคดีนะครับ
กราบนมัสการพระคุณเจ้า
ในมาดากัสการ์มีคนไทยไปทำธุรกิจเรื่องพลอยนับพันคน และมีคนจีนไปตั้งรกรากที่นั่เป็นจำนวนมาก ศาสนาพุทธจึงเป็นสิ่งหนึ่งที่สามารถไปเผยแพร่และเป็นประโยชน์กับคนมาลากาซีได้อย่างแน่นอน
ผมนึก(และเชื่อมั่น)อยู่เสมอว่า ในอนาคต การที่ไทยจะเป็นมหาอำนาจทางด้านวัฒนธรรมของโลกนั้น ส่วนสำคัญคงจะมาจากการส่งออกศาสนาไปยังนานาประเทศ ซึ่งที่ผ่านมาก็ถือว่าพระธรรมทูตไทยได้ไปทำหน้าที่ได้อย่างดีมากในหลายประเทศแล้วครับ สำหรับมาดากัสการ์ ผมสนับสนุนให้มีพระธรรมทูตไปจาริกและเผยแพร่ธรรมะที่มาดากัสการ์ครับ
กราบนมัสาร
ได้มีโอกาสอ่านมาดากัสการ์ของอาจารย์แล้ว มีความรู้กว้างขึ้นอีกมากมาย ถ้ามีโอกาสคงได้ไปเที่ยวเพื่อเป็นการเพิ่มประสบการ์ชีวิตบ้างค่ะ ได้เรียนรู้ว่า บนโลกนี้มีประเทศน่าสนใจ น่าศึกษาเพื่อเป็นลู่ทางธุรกิจทั้งขนาดย่อมและขนาดใหญ่ ขอบคุณมากค่ะ
เรียนคุณยลลดาครับ
ขอบคุณครับ วันหน้าจะเอาภาพที่ถ่ายไว้มาให้ชมกันครับ
เสียดายที่นักธุรกิจไทยโดยเฉพาะใหญ่และขนาดกลางส่วนใหญ่ไม่ชอบผจญภัยไปทำธุรกิจในต่างแดนไกลๆ โดยเฉพาะในทวีปที่ยังมีโอกาสสูงเช่นแอฟริกา จึงมีแต่จีน มาเลยเซีย อินโดนีเซียไปปักหลักอยู่.......คงสักวันหนึ่งครับ......ผมหวังในใจ
ด้วยความปรารถนาดี
เรียนคุณ อ.ลูกหว้าครับ
ขอบคุณครับ นักการทูตก็ต้องการกำลังใจเช่นกันครับและดีใจที่เป็นประโยชน์กับผู้อื่น
ด้วยความปรารถนาดี
ท่านคะอยากได้ภาพถ่ายของชุดประจำชาติและอาหารประจำชาติค่ะ พอจะมีไหมคะ
ขอบคุณสำหรับข้อมูลที่มีประโยชน์นะคะ
คุณ chicky...
วิธีการหนึ่งที่ผมเองก็ใช้เป็นประจำคือหาใน Google โดยเลือกหาภาพ โดยต้องใส่คำที่ตรงกับสิ่งที่เราต้องการให้มากที่สุด จะได้ภาพที่สามารถนำไปใช้ได้มากมายครับ
โชคดีครับ
ก่อนหน้านี้หนูลองดูแล้วค่ะท่าน แต่ภาพที่ได้ไม่ถูกต้องค่ะ ก็กะว่าจะลองหาจากผู้ที่เคยไปเที่ยวแล้วเก็บภาพไว้ สงสัยจะหายากจริงๆค่ะ
ขอบคุณมากนะคะ :D
chicky...
งั้นติดต่อนี่เลยครับ สถานทูตไทยในมาดากัสการ์
r | |
Address: | ParkBatiment D1 1st floor Village des Jeux Ankorondrano u2013 Antananarivo 101 |
Phone: | (261 20) 2255626 |
Fax: | (261 20) 222-3839 |
Website: | www.thaiembassy.org/antananarivo |
Email: | [email protected] |
Office hours: | Monday-Friday 8:30 a.m. to 5:30 p.m |
สวัสดีท่าน พลเดช ครับ
แวะมาอ่านเรื่องราวสถานทูตไทยในมาดากัสการ์ครับ...
ขอบคุณครับ อาจารย์พลเดช ที่เนะนำเกี่ยวกับ มาดากัสการ์ เ็ป็นประเทศที่สวยงามมาก ผมเองโชคดีที่มีโอกาศได้ไปเยืนหลายครั้ง และ อยากแนะนำให้ผู้ที่ชอบผจญภัยไปเยือน มาดากัสการ์ สักครั้ง ครับ