kong
นาย ก้องเกียรติ เติมเกษมศานต์

เด็กออติสติกกับการทำฟัน


ในการทำฟันให้เด็กที่เป็นออติสติกต้องอาศัยความร่วมมือจากทั้งพ่อแม่ และความรู้ความเข้าใจของทันตแพทย์สำหรับเด็ก

เมื่อวานนี้เจอเด็กชายป้อง หลังจากไม่ได้เจอมาเกือบ 2 ปีเต็ม ๆ  น้องป้องเป็นออติสติก และเป็นคนไข้ประจำมาทำฟันตั้งแต่อายุ 3 ขวบ และมาให้ตรวจเรื่อย ๆ ทุก 6 เดือน ตอนนี้น้องป้องอายุ 10 ขวบแล้ว พูดไม่เป็นประโยค แต่พูดเป็นคำ ๆ ได้ ยังไม่ได้เข้าโรงเรียน ทุกครั้งที่ทำฟันน้องป้องมากับพ่อ แม่ไม่มาเพราะทำใจไม่ได้ที่ลูกร้อง น้องป้องมีพฤติกรรมที่ต่อต้านเสมอ ไม่ว่าจะเป็นการอุดฟัน หรือตรวจฟันเฉย ๆ ก็ตาม  น้องป้องมาได้ประมาณ 5 ครั้งก็ได้รับการรักษาทางทันตกรรมจนหมดปาก ไม่มีฟันผุอีก หลังจากนั้นก็ให้ผู้ปกครองดูแลเรื่องการทำความสะอาดช่องปากและฟันและให้มาตรวจทุก 6 เดือน ต่อมาน้องป้องพฤติกรรมดีขึ้นยอมให้ตรวจฟัน อาจเป็นเพราะน้องป้องรับรู้ว่าตัวเองฟันไม่เป็นอะไร หมอไม่ได้ทำฟันให้แค่ตรวจเอง 

ในระยะหลังน้องป้องหายไปนาน มาเมื่อวานนี้เนื่องจากฟันผุ พ่อพาน้องป้องมาหาอีกครั้ง แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนเก่า น้องป้องต่อต้านมาก และด้วยน้องป้องตัวโตขึ้น แข็งแรงมากขึ้น หมอและพ่อจับทำฟันไม่ไหว หมอต้องตกลงกับพ่อว่าน้องป้องยังมีอาการไม่มากฟันผุยังเล็ก ๆ ไม่ต้องรีบทำก็ได้ หมอจะขอปรับพฤติกรรมเด็กก่อน พ่อเข้าใน จากนั้นหมอก็ได้อธิบายว่าเด็กออติสติก ถึงแม้ว่าจะโตแล้ว แต่พฤติกรรมอาจยังเหมือนเด็ก ดังนั้นต้องดูแลเหมือนลูกยังเป็นเด็ก  เด็กยังแปรงฟันเองไม่ได้ ผู้ปกครองต้องแปรงให้ และการรับรู้ว่าต้องทำฟันและความกลัวต่อการทำฟันยังมีเหมือนเด็ก เพราะฉะนั้นต้องปรับพฤติกรรมเด็กโดยพูดคุยให้เข้าใจ หมอนัดอีกครั้งหลังจากนี้ 1 เดือน ระหว่างนี้ให้ผูปกครองแปรงฟันให้ดี และพูดอธิบายถึงการทำฟันที่ไม่ทำให้เด็กกลัวเช่นล้างฟัน และเอาดาวแปะ แทนการอุดฟันเป็นต้น ผู้ปกครองเข้าใจ และจะมาอีกครั้ง 1 เดือนข้างหน้า

จริง ๆ แล้วเด็กออติสติกเป็นเด็กที่สามารถเข้าใจสิ่งต่าง ๆ ได้ดีพอสมควร แต่ต้องอาศัยพ่อแม่เอาใจใส่  หมอเคยเจอการทำฟันให้เด็กพวกนี้ในโรงพยาบาลแห่งหนึ่ง โดยการจับเด็กมัดทำฟัน บางครั้งมัดไม่ไหวเพราะเด็กโต ผู้ช่วยผู้ชายจะขึ้นไปนั้งทับเด็กไว้ เมื่อทำฟันเสร็จเด็กแทบจะเดินไม่ไหว และสังเกตุว่าเมื่อมาให้ครั้งต่อไป พอเห็นหมอเท่านั้นแหละ เด็กวิ่งหนีไปรอบโรงพยาบาลจนตามจับไม่ทัน หมอคิดว่าผิดกับน้องป้องที่ยังเข้าใจ มานั่งที่เตียงทำฟันและฟังหมอพูด เพียงแต่การหายจากกันไปนานทำให้น้องป้องกลัวและไม่ไว้ใจเท่านั้นเอง........ น้องป้องเป็นเด็กที่น่าสงสาร แต่หมอสงสารพ่อและแม่น้องป้องมากกว่า ครับ

 

หมายเลขบันทึก: 88636เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2007 09:12 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (2)

นับเป็นโชคดีของน้องป้องที่มีครอบครัวเอาใจใส่ และได้เจอคุณหมอใจดีและเข้าใจน้องป้อง

ขอขอบพระคุณสำหรับข้อความนี้จากใจค่ะ  เนื่องจากความรู้เกี่ยวกับการรักษาฟันของเด็กออสติสติก  หาได้ยากมากๆค่ะ  ขอบคุณค่ะ

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท