เทคนิคทำให้ชีวิตมีความสุขตลอดวัน


เทคนิคฝึกหายใจเพื่อสกัดสารเอนดอร์ฟินส์หรือสารแห่งความสุขภายในร่างกายของเราเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งพาอบายมุขใดๆ

เทคนิคทำให้ชีวิตมีความสุขตลอดวัน


           ทำอย่างไรคนเราจึงจะสามารถมี ความสุขได้ตลอดทั้งวันโดยไม่ต้องพึ่งพาสิ่งภายนอก พุทธศาสนามีวิธีการมากมายที่จะทำให้คนเราได้เข้าถึงความสุขแท้จริง ขอเสนอวิธีง่ายๆ ที่ใครๆ ก็ทำได้     เป็นเทคนิคฝึกหายใจเพื่อสกัดสารเอนดอร์ฟินส์หรือสารแห่งความสุขภายในร่างกายของเราเอง โดยไม่ต้องไปพึ่งพาอบายมุขใดๆ เป็นเคล็ดลับจาก พระไตรปิฎก

           เคล็ดลับจากพระไตรปิฎก          ในพระไตรปิฎกอันเป็นแหล่งรวบรวมคำสอนของพระพุทธเจ้า หากเราได้อ่านคำสอนเกี่ยวกับการฝึกสติด้วยลมหายใจ(อานาปานสติ) เราจะพบคำสอนที่กล่าวไว้ตอนหนึ่งว่าหากคนเราสามารถฝึกตนเองให้สามารถรู้สึกว่าลมหายใจของตนเองมีการเข้าออกภายในร่างกายได้อย่างชัดเจน และ สามารถทำลมหายใจ ของตนให้ละเอียดประณีต ลมหายใจอันละเอียดอ่อนนั้นก็จะทำให้ ร่างกายของเราหรือผู้ที่ฝึกเกิดความสุขอย่างประณีต รู้สึกโปร่งเบา สบายใจ เนื่องจากร่างกายหลั่งสาร เอนดอร์ฟินส์ ออกมา

            ทำอย่างไรเราจึงจะสามารถฝึกฝนตนเองจนสามารถรู้สึกถึงลมหายใจที่เข้าออกได้ชัดเจนราวกับรู้สึกว่ามีลูกสูบชักเข้าออกอยู่ในระบบหายใจของเรา
หายใจยาวก็รู้ว่าหายใจยาว หายใจสั้นก็รู้ว่าหายใจสั้น และสามารถทำลมหายใจให้ละเอียดประณีต หากเราทำได้ตามหลักข้างต้นเราก็จะพบกับความสุข คือ
รู้สึกร่างกายสบาย โปร่งเบา (กายสังขารระงับ) เป็นความสุขที่ไม่ต้องไปพึ่งพาสิ่งภายนอก และแน่นอน...หากเราทำได้ตลอดทั้งวัน ร่างกายของเราก็จะมีความ
สุขตลอดเวลา ต่อไปคือเทคนิคการฝึกหายใจที่สามารถทำให้เรารู้สึกถึงลมหายใจได้อย่างชัดเจน เราสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน ปฏิบัติได้ง่ายสบาย
ใจไม่ต้องมีพิธีรีตองแต่อย่างใด 

 ๑. ขั้นฝึกหายใจ


            ๑. ทุกเช้า ฝึกควบคุมลมหายใจเพื่อเตรียมพร้อมที่จะดำเนินชีวิตอย่างมีความสุข ตลอดวัน อย่างน้อยสัก ๑๐-๓๐ นาที
            ๒. จะฝึกท่านั่งหรือนอนก็ได้ ตามสบาย (ขอแนะนำให้ปฏิบัติท่านั่ง จะรู้สึก มั่นคงดีกว่า )
            ๓. ยิ้มน้อย ๆ อย่างมีความสุข
            ๔. ยกมือขวาขึ้นมารอที่ปลายจมูก
            ๕. หายใจเข้าลึก ๆ อย่างอ่อนโยน พร้อมกับเคลื่อนมือช้า ๆ จากปลายจมูกลงไปตามลำคอ ภาวนาในใจว่า "หายใจเข้า..เบา..บาง...ง "
                 ในขณะที่เคลื่อนมือลง ไปให้จินตนาการสมมุติว่ามือของเรากำลังนำพาลมหายใจอันละเอียดอ่อนตามมือไปเรื่อย ๆ เคลื่อนมือลงมาถึงหน้าอก และในที่สุดมือก็พาลมหายใจมาถึงที่สะดือ
            ๖. หายใจออกยาว ๆ อย่างผ่อนคลาย พร้อมกับเคลื่อนมือช้า ๆ จากสะดือขึ้นมา ภาวนาในใจว่า "หายใจออก สบาย ใจ " ในขณะที่เคลื่อนมือขึ้นมา ให้จินตนาการสมมุติว่ามือของเรากำลังนำพาลมหายใจอันละเอียดอ่อนตามขึ้นมาจากสะดือขึ้นมาถึงหน้าอกผ่าน ลำคอและในที่สุดก็พาลมหายใจออกมาที่ปลายจมูก จากนั้นให้จินตนาการว่าลมหายใจของเราแผ่กระจายลมหายใจไปทุกทิศทางอย่างไม่มีขอบเขต
            ๗. ให้เคลื่อนไหวมือพาลมหายใจเข้าออกอย่างนี้อย่างช้า ๆ (ข้อที่๔-๕) กลับไปมา พยายามทำความรู้สึกว่าลมหายใจของเราช่างมีความเบาบางละเอียดอ่อน

จริงๆ และให้ศึกษาว่าเมื่อเราทำลมหายใจให้ละเอียดประณีตแล้วจะมีผลต่อร่างกายอย่างไรบ้าง
            ๘ .หากเราปฏิบัติได้ถูกต้อง เราจะรู้สึกปีติปราโมทย์ ร่างกายสงบระงับ มีความสุขกาย สุขใจ รู้สึกผ่อนคลาย ทำให้มีความพร้อมที่จะ ดำเนินชีวิตประจำวันด้วยความมั่นใจ
            ๙ . หากเราได้รับประโยชน์จากการปฏิบัติ และ ต้องการจะขอบคุณใครสักคน ขอให้เรานึกถึงรอยยิ้มของพระพุทธองค์ เพราะเทคนิคเหล่านี้นำมาจากคำสอนของพระพุทธเจ้าในพระไตรปิฎก
          ๑๐.หากเราคิดจะตอบแทนคุณความดีของพระพุทธองค์ เราสามารถทำได้ ด้วยการช่วยกันศึกษาคำสอนของพระพุทธองค์โดยตรงจากพระไตรปิฎก แล้วนำไปปฏิบัติประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน เพียงเท่านี้ก็ถือว่าได้เป็นการตอบแทนคุณความดีที่พระพุทธองค์ทรงพอใจ (ปฏิบัติบูชา)

๒. ขั้นประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวัน


             ๑. ในขณะที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ ในชีวิตประจำวัน ให้เราพยายามตามลมหายใจเข้าออกอย่างช้า ๆ ให้รู้สึกถึงลมหายใจเข้าออก ของเราได้อย่างชัดเจนเหมือนกับว่ากำลังมีสิ่งหนึ่งแล่นเข้าออกในทางเดินหายใจตลอดเวลา ยามใดที่เรารู้สึกว่าตามลมหายใจได้ไม่ชัด ให้ใช้มือเคลื่อนไหวช่วยนำลมหายใจสักเล็กน้อย ร่างกายจะก็สามารถรู้สึกถึงลมหายใจเข้าออกได้ทันที
             ๒. ให้พยายามภาวนาในใจในขณะหายใจเข้าว่า "หายใจเข้าเบาบาง" และ ในขณะหายใจออกว่า"หายใจออกสบายใจ" หากเรา สามารถควบคุมลมหายใจได้ตลอดทั้งวันเช่นนี้ ลมหายใจอันละเอียดอ่อนจะปรุงแต่งให้ร่างกายของเราสงบระงับ ทำให้เราดำเนินชีวิตไปตลอดทั้งวันอย่างมีความสุข
              ๓. ยามใดที่ได้พบกับสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาเช่น ได้ยินได้พบเห็นสิ่งที่ไม่ชอบใจ ผิดหวัง เครียด กดดัน เบื่อหน่าย หรือมีสิ่งภายนอกมายั่วยุรบกวนจิตใจ เราจะรู้สึกตัวได้อย่างรวดเร็ว เพราะ ลมหายใจของเราจะสั้น และ หยาบลง ร่างกายจะรู้สึกไม่สบายทันทีในการแก้ปัญหา ให้เราหายใจให้ลึก และละเอียดเบาบางที่สุด    เราจะพบด้วยตนเองว่าการควบคุมลมหายใจจะ ช่วยให้เรา สามารถที่จะควบคุมอารมณ์ของตนเองให้เป็นปรกติได้อย่างง่ายดาย ไม่ทุกข์ใจง่าย ๆ เหมือนแต่ก่อน
              ๔.ในการเกี่ยวข้องกับโลกภายนอก เราต้องพบปะผู้คน และ ได้รับอิทธิพลจากสิ่งกระตุ้นเร้าต่าง ๆ มากมายรอบตัว   หากเราไม่สำรวมระวัง ความทุกข์จะเข้ามาได้โดยง่ายทางหู ตา จมูก ลิ้น กาย ใจ ดังนั้นเราจึงควรฝึกคิดมองโลกให้เป็นกุศล คือ มองอย่างฉลาด เกื้อกูลต่อสุขภาพจิต รู้จักคิด คิดเป็น ควบคู่ไปด้วย              

   ขั้นตอนการปฏิบัติทั้งหมดที่แนะนำมานี้เป็นเพียงส่วนเล็กน้อยในพระพุทธศาสนาเท่านั้น ยังมีสิ่งที่เราต้องเรียนรู้ด้านอื่นๆ อีกมากเพื่อให้มีพัฒนาการที่ครบรอบด้าน ได้แก่ การใช้ชีวิตอย่างปรกติ มีพฤติกรรมทางสังคมที่ดี (ศีล) การฝึกฝนจิตใจให้มีสุขภาพจิตดี มีสมรรถภาพจิตดี สมควรแก่การงาน (สมาธิ) ฝึกคิดเป็น คิดถูกต้อง คิดเป็นกุศล ฝึกมองเห็นสภาวะที่เป็นจริงตามธรรมชาติ(ปัญญา)

ดังนั้นเราจึงควรศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมต่อไป ไม่ควรหยุดนิ่ง  
คำสำคัญ (Tags): #จริยธรรม
หมายเลขบันทึก: 88601เขียนเมื่อ 5 เมษายน 2007 01:40 น. ()แก้ไขเมื่อ 11 กุมภาพันธ์ 2012 18:04 น. ()สัญญาอนุญาต: จำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (6)
     การฝึกสมาธิไม่ว่าจะเป็นวิธีใด จะเป็นหนทางนำไปสู่ความรู้ที่ถูกต้อง ดีนะเขียดที่นำเสนอสิ่งดีๆให้กับพวกเราทุกคน
ขอบคุณ นู๋เขียด มากๆ ที่ไปค้นหาสิ่งๆดีมาให้ ขณะที่อ่านพี่โต้งก็ได้นั่งฝึกไปด้วยทำยากหน่อยแต่จะพยายามนะจ้ะ วันนี้ตื่นเช้าเลยมานั่งฝึกลมหายใจตั้งแต่ข้อ 1-10 ดีนะทำให้ลืมเรื่องราวต่างๆได้เยอะเลย (เสร็จแล้ว จิบกาแฟ.... อิอิอิ เป็นไรเปล่าหว่า...)
  •  Child Basket
  •  ขอบคุณอาจารย์นิพัธมาก..ก..ค่ะ
  • วันหน้า..วันหลัง..อย่าลืมหยิบหนังสือดีๆมาให้นู๋เขียดอ่านบ้างละกันค่ะ...Hi...Hi..Hi






 Easter Tug 

  • สำหรับพี่โต้ง...สวยอยู่แล้ว...ยิ้มน้อยๆบนใบหน้า...หายใจยาวๆอีกนิด...คิดดูน่ะ...จะบอกให้
  • missworld ก้อ missworld เถอะ55555
นู๋รัตน์ลองฝึกทำดูแล้วรู้สึกดีจริงๆด้วยแฮะ นู๋รัตน์ใช้วิธีหายใจเข้าออกอย่างช้าๆค่ะ  ตอนนี้ขอใช้วิธีนี้ก่อนละกัน  เอาไว้ตอนหน้าค่อยว่ากันถึงวิธีอื่นๆนะพี่เขียดนะ
ฮั่นแน่...ฝึกแล้วดีใช่ป๊ะ..ค่อยๆทำไป...แล้วจะดีขึ้นเรื่อยๆ
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท