ในวันที่ 16 มีค. ดิฉันได้เข้ารับฟัง ที่ meeting room 4 ประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ Health Promotion เรื่อง “ความแตกฉานด้านสุขภาพ” (Health Literacy )ซึ่งวิทยากรนำทีมโดย ผศ. ดร.ชะนวนทอง ธนสุกาญจน์ (เป็นหญิงเก่ง ขวัญใจของดิฉันอีกท่านหนึ่ง) ขอนำมาเล่าคร่าวๆ ดังนี้ค่ะ
ความแตกฉานด้านสุขภาพ (Health Literacy ) เป็นผลลัพธ์ของการส่งเสริมสุขภาพ และเป็นปัจจัยที่สำคัญยิ่งในการให้อำนาจแก่ประชาชนให้ได้เรียนรู้อย่างเข้าถึงระดับที่สามารถใช้ข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งแบ่งเป็น 3 ระดับ
ระดับ 1 เป็นระดับพื้นฐาน เช่น การให้ข้อมูลในรูปแผ่นพับ การให้สุขศึกษาแบบดั้งเดิม
ระดับ2 เป็นระดับการปฏิสัมพันธ์ ซึ่งเน้นการพัฒนาทักษะส่วนบุคคล ทักษะทางสังคม และผลลัพธ์ด้านพฤติกรรม
ระดับ 3 เป็นระดับวิพากษ์ ซึ่งจะสะท้อนพฤติกรรมด้านพุทธิปัญญา( Cognitive) เชื่อมประโยชน์ประชาชน สังคม ไปพร้อมกับประโยชน์บุคคล
ซึ่งในระดับโรงพยาบาลควรมีถึงระดับที่2 เป็นอย่างน้อย
เราอาจประเมินผลลัพธ์ความไม่แตกฉานด้านสุขภาพของผู้ป่วยแบบง่ายๆ ได้ เช่น
*มาพบแพทย์เมื่อมีอาการหนักมากแล้ว
*บอกไม่ได้ว่ากังวลใจเรื่องอะไร
*ขาดนัดหลายครั้ง
*ไม่มาตามนัด
*ใช้ยาไม่ถูกต้อง
มีการนำเสนอตัวอย่างผลการทำวิจัยเพื่อสร้างเครื่องมือวัดความแตกฉานทางปัญญาอย่างเป็นระบบ ของนศ.ป.โท 3 ท่าน ใน 3 แผนก ได้แก่ สูติกรรม ผู้ป่วยมะเร็ง และผู้ป่วยอายุรกรรม ซึ่งทำให้ทราบและเข้าใจว่าการใช้แบบสอบถามและแบบฟอร์มที่เป็นระบบจะช่วยประเมินความเข้าใจ เป็นการประเมินผลการเรียนรู้ในขณะที่ให้บริการผู้ป่วย เช่น การจัดกลุ่มเรียนรู้ การให้สุขศึกษาที่ OPD
แต่ถ้าไม่มีแบบประเมินก็อาจใช้เทคนิคง่ายๆ เช่น
1.ถามชื่อยาที่ผู้ป่วยกินอยู่อย่างน้อย 2 ชนิด และให้ระบุความแตกต่าง หรือวัตถุประสงค์ของยาที่กินแต่ละประเภท
2.ให้ผู้ป่วยดูรูปหรือเหตุการณ์อย่างใดอย่างหนึ่งและให้เล่าว่าภาพนั้นพูดว่าอย่างไร หรือเขียนอธิบายว่าอย่างไร
3ให้ผู้ป่วยเขียนข้อความที่เกี่ยวข้องกับกระบวนการการรักษา
สิ่งที่ได้เรียนรู้
-จะส่งเสริมให้ผู้ป่วยตกผลึกในข้อมูลที่ได้รับ เพื่อตัดสินใจด้านสุขภาพตนเองได้อย่างไร
-เกิดคำถามว่าแผ่นพับมากมายในโรงพยาบาล มีผู้ป่วยรู้เรื่องแค่ไหน
-แบบประเมินระดับ Health Literacy น่าจะเป็นเครื่องมือพัฒนาเพื่อผลิตสื่อ สำหรับผู้เกี่ยวข้องได้อย่างดี
กำลังสนใจเรื่องนี้อยู่เหมือนกันค่ะ อยากทำเป็น dissertation ด้วย แต่ยังไม่รู้จะเริ่มยังไง เพราะในเมืองไทยดูเหมือนเป็นเรื่องที่ใหม่มาก และยังไม่ค่อยมีข้อมูล คิดอีกทีหนึ่งก็ท้าทายดีนะคะ ^ ^