คำพูดน่าคิด
เป็น "พระ"จากการปฏิบัติ ไม่ใช่จากการเรียน
ให้ทุนเรียนดี แล้วคนไม่ดีเอาไปไว้ไหน
พระรุ่นใหม่ขาดเมตตา พระหลวงตา เลี้ยงเด็กๆไว้เต็มวัด
จะเรียนคอมพิเตอร์ให้ไปเรียนกับพระ เรียนธรรมะให้ไปเรียนกับโยม
ไม่มีความเห็น
เรามักจะพูดว่า ไม่มีเวลา ไม่ว่าง ต่อสิ่งที่มีคุณค่าต่อชีวิต แต่เรามักจะมีเวลาให้กับเรื่องไร้สาระ
เห็นด้วยค่ะ เหมือน ณ ขณะนี้เลย :)
ช่วงเช้าหกโมง จะฟังธรรมจากท่านชยสาโรซึ่ง loadมาจากโรงเรียนทอสี แต่ละเรื่องที่เลือกฟังเป็นประเด็นโดนๆ เตือนสติ ได้พิจารณา เป็นการพิสูจน์ความเป็นอกาลิโก โอปนยิโก และปัจจัตตังจริงๆ
ไม่มีความเห็น
ช่วงหลังๆนี้ ยังไม่ยอมอยู่กับตัวเองจริงๆจังๆ ยังหนีตัวเองเหมือนเดิม มีเหตุผลตลอด ขาดวินัย ตามใจกิเลส
ได้พึ่งเสียงธรรมจากท่านชยสาโร ช่วงเช้าเป็นพลังใจก่อนเริ่มภาระกิจประจำวัน ยังไม่ยอมยืนเองยังติดการพึ่งพระ และอาจารย์
ไม่มีความเห็น
"เกิดใหม่ ในร่างเดิม"เพิ่งได้พิจารณาทบทวนคำกล่าวนี้อย่างจริงๆจังๆอีกครั้ง ซึ่งจำได้ว่าพระอาจารย์พูดประโยคนี้ช่วงปีแรกที่มาอยู่วัด สังคมและสิ่งแวดล้อมก็ใหม่หมด แต่ปัญหาก็คือความทรงจำเกี่ยวกับอดีต อัตตาตัวตนมันหนัก เมื่อวางไม่ได้ก็ยากต่อการก้าวเดิน
ไม่มีความเห็น
อยู่วัดมีเรื่องน่าสนใจน่าเล่าสู่กันฟังมาก แต่ใจที่อยากเล่ามันไม่เที่ยง อยู่แป๊ปๆก็หายไป อยู่ๆก็เปิดบล๊อคใหม่เพิ่ม "ภูมิธรรม"
ไม่มีความเห็น
ช่วงหลังๆนี้เบื่อรูปแบบจัง คุมกาย วาจาได้ แต่มันมาออกทางใจซะเยอะ ทั้งฟุ้งซ่าน อคติ อื่นๆอีมากมาย กำลังสนใจสัมมาสังกัปปใน มรรค8 เพราะพระอาจารย์ชอบเตือนอยู่เรื่อยว่าให้คิดแต่สิ่งดีๆ
ไม่มีความเห็น
“อยู่วัดได้ก็ถือว่ามีบุญ” ประโยคให้กำลังใจจากพระอาจารย์ในวาระครบ 3 ปีการมาอยู่ปฏิบัติธรรมที่นี่
ไม่มีความเห็น
เวลาที่เบื่อหรือท้อทีไร ใช้มรณานุสติทำให้มีกำลังใจกับการอยู่กับปัจจุบัน
ไม่มีความเห็น
ห่างหายไปนานมาก เพราะหัดที่จะอยู่กับตัวเองให้มาก พยายามพูดให้น้อยลง(แต่ในใจมันดื้อยิ่งพูดมาก) ได้มาเรียนรู้เรื่องโลกธรรมอย่างจริงๆจังๆก็ตอนมาอยู่วัดนี่แหละ
ไม่มีความเห็น
ช่วง 2-3 เดือนมานี้ไม่ได้ฟังธรรมจากซีดีเหมือนเคย แต่จะมาติดตามดูรายการพุทธวจน (ท่านคึกฤทธิ์)และญานทัสสนะ(อ.ธวัช) ทางเคเบิลทีวีแทน ก็คลายปริศนาในใจไปหลายเรื่อง เช่น เกมกลกรรม,เสขิยวัตร 75,วิบากกรรม อื่นๆอีกมากมาย
ไม่มีความเห็น
ช่วง 2 ปีกว่าๆมานี้เป็นช่วงของการเรียนรู้โลกอย่าแท้จริง เป็นวัน และเวลาที่มีคุณค่ามากๆ ขอบคุณผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องทุกๆคนที่มีส่วนส่งเสริมการเรียนรู้โลกในขันธ์ 5 ซึ่งก็อยู่ในตัวเรานี่เอง ศึกษาปฏิบัติเอง รู้เอง หลายครั้งเกิดผลุดโพลง ปิ้งแว๊ป รู้เฉพาะตนจริงๆ เวลาเกิดสภาวะนั้น รู้สึกถึงอิสระโล่งอย่างบอกไม่ถูกจริงๆ
ไม่มีความเห็น
เทวดา มาร พรหม ก็มีอยู่ในตัวเรานี่แหละ มาใช้ชีวิตแบบปลีกวิเวกอยู่ที่วัดนี้เข้าปีที่ 3 แล้ว ตอนนี้เห็น 2 บุคลิกในตัวเองชัดขึ้น มันสลับไป มาบางครั้งชั่วข้ามวันบางครั้งไม่ถึงชั่วโมง เมื่อเช้ามารหลบฉากไป ใจแว๊ปไปถึงบุคคลที่เป็นตัวกระตุ้นให้มาร(ตัวกู)แสดงตัว ตัวกูถูกท้าทาย ตัวกูก็เลยคิดไปสารพัดเลยเมื่อคืนนี้ นึกว่าจะหลับไม่ได้ แต่ก็หลับได้ปกติ
ไม่มีความเห็น
เมื่อวานให้"นิว"สมัคร facebookให้ก็ยังไม่ค่อยเป็น กำลังหัดเล่น
ไม่มีความเห็น
ช่วง10-20ธันวานี้ พระอ.เข้าค่ายปฏิบัติธรรมถวายในหลวงเราเลยใช้โอกาสนี้กับมาเยี่ยมพ่อแม่ที่โคราช แม่เล่าให้ฟังว่าเจ้าอาวาสที่วัดใกล้บ้านสึกไปแต่งงานแล้ว พร้อมทั้งว่าผู้หญิงคนนั้นว่าเป็นมารศาสนา ทำให้พระดีๆต้องสึกออกไป
เขาพูดกันว่าสตรีเป็นศัตรูแห่งเพศพรหมจรรย์
ฉันเองก็เป็นสตรี ฉันเองก็ประพฤติพรหมจรรย์ ต้องมีสติเข้าใจว่าคนส่วนใหญ่มักจะมองผู้หญิงแบบนั้น เมื่อเลือกทางเดินแล้วก็ต้องไม่กลัวคำวิพากษ์วิจารณ์ ไม่กลัวเปลืองตัว กล้าสู้กับอัตตา เพราะตัวตนสึกหรอก็ยิ่งดี
ไม่มีความเห็น
ประสบการณ์จริงเมื่อมาใช้ชีวิตสันโดษที่วัด มีเรื่องราวน่าบันทึกมากมาย คิดไม่ถึงเลยว่าชีวิตจะเผชิญสิ่งที่ท้าทายขนาดนี้ เป็นเรื่องที่คนไม่ได้สัมผัสจริงๆจะไม่เข้าใจ เป็นเหตุหนึ่งที่ลปรร.ให้คนนอกวัดเข้าใจได้ยาก
เมื่อ 2 วันก่อนออกจากห้องน้ำนิ้วเท้าเกี่ยวขากางเกงตัวเองล้มเข่ากระแทกเจ็บ หลังจากลุกขึ้นยืนได้ใจแว๊ปขึ้นมาเลยว่าเป็นปริศนาธรรมสอนตัวเอง เล่าให้พระอ.ฟังท่านบอกนั่นแหละไม่มีใครทำให้เราเจ็บ เราทำตัวเอง
ไม่มีความเห็น
ช่วงนี้เริ่มอ่านหนังสือเพื่อเตรียมสอบธรรมศึกษาโท ซึ่งจะมีขึ้นช่วงออกพรรษา
มีประโยคคำพูดของพระอ.ซึ่งสะกิดใจ เกี่ยวกับการดูทีวี จึงพยายามดูให้เกิดประโยชน์และเป็นตัวช่วยในการศึกษาตนเองให้มากขึ้น
ยังติดการฟังธรรม ช่วงนี้ย้อนกลับมาฟังของพระไพศาล , พระอ.ปราโมทย์ และท่านชยสาโร หลังจากฟังของอ.สุภีร์ ต่อเนื่องซ้ำๆมาหลายเดือน
เริ่มเข้าที่กับการใช้ชีวิตสันโดษ ไม่อาลัยหรือถวิลหาสังคมเดิมๆที่ผ่านมา ลดการสังคมกับคนในโลกภายนอกลง จะมีเพียงสนทนาธรรมกับพี่เล็ก และน้องบ้างบางครั้ง และโทรหาพ่อแม่บ้าง
ไม่มีความเห็น
ลองนึกทบทวนเท่าที่จำได้ดูนะ
หลังจากไปคุยกับแม่ชี 2 คนที่วัดโคกพระเมื่อ 2 สัปดาห์ก่อนรู้สึกเหมือนถูกสอบอารมณ์ กลับมาทบทวนตัวเอง สนทนากับพระอาจารย์ท่านบอกว่าเรายังไม่ใช่นักบวช(คิดว่าตัวเองเป็นนักบวช) เพียงแต่มาฝึกเพื่อเตรียมตัวเป็นนักบวช
-รู้สึกเข้าใจคนที่อยู่วัด ไม่ว่าจะเป็นพระ แม่ชี อื่นๆ
-รู้สึกเข้าใจคนมาวัด ทั้งประจำและไม่ประจำ
ไม่มีความเห็น
ขณะนี้รู้สึกว่าเป็นคนใหม่ทุกวัน เปลี่ยนไป ไม่เหมือนเดิม สุข ทุกข์ไม่ซ้ำแบบ คิดว่าน่าจะกลับมาเขียนบันทึกบ้าง
ตอนนี้กลับมาดูทีวี หลังจากไม่ดูมากเกือบ 2 เดือน
หาเรื่องไปห้างโลตัสทุกอาทิตย์จากที่เคยไปเดือนละ1-2ครั้ง
เลิกเดินจงกลมตอนตี3
กำลังพิจารณาประโยคที่ผุดกลางใจที่ว่า "ไม่พัก ไม่เพียร"
ไม่มีความเห็น
ตั้งแต่เข้าพรรษาจนกระทั่งถึงวันนี้ยังไม่ได้ออกจากวัดไปค้างคืนที่ไหน ชีวิตประจำวันยังคงเจอทุกข์มากกว่าสุข แต่ทุกข์แต่ละครั้งก็จะอยู่ไม่นาน ทั้งสุขและทุกข์ล้วนชั่วคราว
ไม่มีความเห็น
ทบทวนกิจกรรมในช่วงเดือนเม.ย ที่ผ่านมา
เมื่อช่วงสงกรานต์ "นุช"พร้อมครอบครัว แม่ ลูก 4 คนมาปฏิบัติธรรมค้างคืนที่วัดเนื่องจากลูกสาวคนโตอายุ 17 ปีบอกว่าอยากปฏิบัติธรรม ได้พูดคุยแลกเปลี่ยนความคิดเห็นเรื่อง "การปฏิบัติธรรมในชีวิตประจำวัน" เกี่ยวกับ ศีล สมาธิ ปัญญาแบบง่ายๆ ร่วมทำวัตรสวดมนต์เช้าเย็น นั่งสมาธิ จัดอาหารถวายพระ จัดดอกไม้บูชาพระ เป็นกิจกรรมง่ายๆที่ร่วมกันทำในครอบครัว
ไม่มีความเห็น
บันทึกย้อนหลังเพื่อทบทวนการปฏิบัติ
10-19 กุมภา 52 ที่ผ่านมาไปเข้าปริวาสกรรมที่วัดประดับ อ.ค่ายบางระจัน สิงห์บุรี กับพระอ.และน้องนก พระอ.บอกว่าพามาดูงาน และจะได้ล้างบาปไปด้วย ที่นั่นมีพระเข้าปริวาส 150รูป อุบาสกและอุบาสิกาเกือบ 200 คน ทั้งพระและฆราวาสทำวัตรเช้า(4.30น.)และเย็น(17.00น)ร่วมกันที่ลานธรรม นอกนั้นกิจกรรมแยกกัน ฝ่ายฆราวาสมีสวดมนต์แปลช่วง 8 โมงเช้า และปฏิบัติเดินจงกลมนั่งสมาธิรวมช่วง 13.00 - 15.00น. ที่นี่ใช้แนวยุบหนอพองหนอและเดิน 6 จังหวะสายพม่า ช่วง 9 โมงเช้าใส่บาตรเข้าสุก
เราและนกนำเต้นท์ไป 2 อันแยกกันเพราะตั้งใจ และต้องการเป็นส่วนตัวในการปฏิบัติ ได้ปฏิบัติและสอบอารมณ์กับพระอ.ทุกวัน ที่นี่อดีตเป็นสนามรบเก่าของเหล่าบรรพบุรุษ เราก็ได้รบกับข้าศึกคือกิเลสซึ่งทุกวันจะมียุทธวิธีโจมตีไม่ซ้ำแบบ เมื่อผ่านได้ ประเมินผลด้วยตัวเอง(วันหลังๆถึงปัจจุบัน)พบว่าตัวกูของกูลดลงไปเยอะ ยึดน้อยลงเข้าใจแล้วว่าทำไมต้องมีครูบาอาจารย์
ที่แปลกใจคือว่าเท่าที่สังเกตเห็นโดยบังเอิญพบว่า พระ>50 % มีสักยันต์ที่ตัว เท่าที่ได้ถามความเห็นพระอ.แล้วน่าเป็นห่วงวงการสงฆ์ ทำให้นึกถึงยุคอโศกมหาราช ที่มีผู้เข้ามาอิงอาศัยพุทธศาสนาเพื่อลาภ สักการะ จนต้องสังคายนา
ไม่มีความเห็น