งานการต่าง ๆ ที่ทำกัน หากเป็นเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ มักไม่มีคำถามเกี่ยวกับเรื่องของเจ้าภาพ
แต่หากเป็นงานใหญ่ ต้องไปเกี่ยวข้องกับผู้คน องค์กรมากแล้วจะมีคำถามว่า แล้วใครเป็นเจ้าภาพ
เจ้าภาพกลายเป็นความคาดหวังว่า หากมีเจ้าภาพแล้วจะดี ๆ ที่ทำให้งานใหญ่ หรือดูเหมือนใหญ่ได้ขับเคลื่อนไปได้ดี
มิติทางสังคมมีอะไรหลายอย่างที่สลับซับซ้อน คนที่ทำงานด้านสังคมจึงควรเข้าใจสังคม ไม่เอาแต่อารมณ์ หรือคิดติดยึดเกินไป จนทำงานร่วมกันใครไม่ได้ ความจริง สังคมมนุษย์เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้
อรุณสวัสดิ์ค่ะ Mr. tanu polbhun
ข้อความดี..ขอขอบคุณค่ะ
ผมเคยเห็น งานหน้าหมู่ ที่ชาวบ้านเขาทำ ๆ กัน ร่วมกันเป็นเจ้าภาพ ดูไม่ยุ่งยาก ไม่เรื่องมาก ทำอะไรเป็นชาวบ้าน เป็นธรรมดา มีการประนีประนอม เคารพให้เกียรติกัน ไปได้ดีครับ ขอบคุณครับครูอ้อย สำหรับคำทักทาย ให้ข้อคิดร่วม
ทุกคนมีภูเขาน้ำแข็งอยู่ในตัวตน
(จำคำของนักจิตวิทยาเขามา)หากเกิดการติดต่อสื่อสารกัน
พบปะกัน ภูเขาน้ำแข็งจะมากระทบกัน
ทั้งทางบวกและทางลบหนีไม่พ้นที่จะต้องมีผลของออกมา
หากเราทำงานด้วยกัน
หากมีใจบริสุทธิ์ โปร่งใส ทำด้วยใจรัก
และเสียสละ ถ่อมใจ ก็ย่อมจบลงด้วยดี
หากเต็มไปผลประโยชน์ แอบแฝง ซ่อนเร้น
เหลี่ยมจัด ไม่จริงใจ ก็เต็มไปด้วยความยุ่งยาก
ยุ่งเหยิง เครียด
ชาวบ้านส่วนใหญ่จะไม่มีจริตมากนัก
จึงลงขันกัน ช่วยกัน
โดยไม่เอาวิธีคิดแบบธุรกิจมาเป็นตัวตั้ง
หาก(ที่ห้า)คนที่เต็มไปด้วยอารมณ์อันไร้ขีดจำกัดนั้น ผมว่าปล่อยตากแห้งไว้ก็ดีเหมือนกันนะ
งานใหญ่ ผมใช้วิธี พูดน้อย ต่อยหนัก
คือ ทำในหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายตามตกลงในที่ประชุมให้ดี รวดเร็ว
ประชุมให้น้อยที่สุด
(ประชุมมาก แสดงว่าการจัดการ และคนด้อยประสิทธิภาพ นี่ก็จำเขามาอีก)