การเดินทางลงพื้นที่ตรัง นครฯ พัทลุง เมื่อวันที่ 20-24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ก็เพื่อเตรียมข้อมูลสำหรับการนำสมาชิกสภาที่ปรึกษาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติลงเยี่ยมกลุ่มหรือพื้นที่ที่มีการปฏิบัติการตามแนวทางเศรษฐกิจพอเพียงในช่วงเดือนเมษายน หลังสงกรานต์ (ซึ่งก่อนหน้านี้สมาชิกสภาที่ปรึกษาฯ ได้ไปจังหวัดเชียงใหม่แล้ว และจะยังมีกำหนดการไปเยี่ยมพื้นที่ในภาคอื่นๆ ด้วย รวมทั้งในกรุงเทพมหานคร)
ตัวเราเองรับผิดชอบประสานงานเฉพาะพื้นที่ภาคใต้เพราะคุ้นเคยพื้นที่กว่าทีมงานคนอื่นๆ
ที่จังหวัดตรัง อ.อภิชัย พันธเสน หัวหน้าทีม ได้เลือกเรื่องการจัดการทรัพยากรชายฝั่งเขตลุ่มน้ำปะเหลียนซึ่งมีสมาคมหยาดฝนทำงานอยู่ ส่วนพื้นที่นครฯและพัทลุง ได้ขอความอนุเคราะห์มหาวิทยาล้ยวลัยลักษณ์โดยอาจารย์ภีม และคุณพัชณีของ พอช. ช่วยแนะนำพื้นที่
ร่วมสังเกตุการณ์ประชุมที่พัทลุง
เราลงพื้นที่จังหวัดพัทลุงเมื่อวันที่ 23 โชคดีที่มีการประชุมเครือข่ายชุมชนที่ศูนย์ประสานงานภาคีองค์กรเครือข่ายชุมชน ในตัวอำเภอเมือง เราจึงไปร่วมสังเกตุการณ์ที่นั่น และได้พบกับน้าแก้ว และพี่เล็ก (คุณอุทัย บุญดำ) ของเครือข่ายสินธุ์แพรทอง ต.ลำสินธุ์ อ.ศรีนครินทร์ ซึ่งคุณพัชณีแนะนำมา
น้าแก้วเล่าให้ฟังในที่ประชุมว่า จังหวัดพัทลุงมีเป้าหมายให้มีหมู่บ้านต้นแบบของการเป็นเศรษฐกิจพอเพียง 124 หมู่บ้าน (คิดเป็นร้อยละ 30) หมู่บ้านต้นแบบแต่ละหมู่บ้านจะมีครอบครัวพอเพียงอย่างน้อย 15% ของจำนวนครัวเรือนทั้งหมด ตำบลลำสินธุ์เป็นตำบลที่มีหมู่บ้านต้นแบบเศรษฐกิจพอเพียง
"ที่ผ่านมา ระบบจัดการเราเพราะเราไม่มีความรู้ในการจัดการระบบ" เป็นคำคมๆจากน้าแก้ว
เครือข่ายสินธุ์แพรทอง
พี่เล็กบอกว่า ครอบครัวตัวอย่างที่เป็นเศรษฐกิจพอเพียงของตำบลลำสินธุ์จะปลูกผักสวนครัวไว้กินเอง มีบัญชีรับจ่าย แต่ที่สำคัญที่สุดคือ จะต้องมีแผนปลดหนี้
“คงเป็นการยากที่จะสร้างชุมชนเข้มแข็ง ครอบครัวอบอุ่น ถ้าครอบครัวยังเป็นหนี้”
ข้อมูลรายรับรายจ่าย จะช่วยชี้ให้เห็นทุกข์(ในปัจจุบัน) เมื่อได้ข้อมูลแล้วก็ส่งกลับไปที่ครัวเรือน การแก้ปัญหาต้องแก้ที่ครัวเรือน
แต่ตามที่เขียนแล้วในบันทึกฉบับก่อนว่า เครือข่ายลำสินธุ์ทำงานโดยให้ความสำคัญกับประวัติศาสตร์ของพื้นที่ เพราะประวัติศาสตร์สามารถสร้างความภูมิใจ และสร้างจิตสำนึกได้ดี
ในบอร์ดของกลุ่ม เขียนไว้ตอนหนึ่งว่า
พื้นที่นี้ผ่านการทำงานมา 3 ระยะ
ระยะแรก ยุคประวัติศาสตร์ความร้อนแรงทางการเมือง 2508-2520
ระยะที่สอง ยุคก่อเกิดกลุ่มองค์กร 2527-2543
ระยะที่สาม ระยะแปลงแผนสู่การปฏิบัติ
พื้นที่ลำสินธุ์เคยเป็นพื้นที่ที่มีความขัดแย้งระหว่างภาครัฐกับประชาชนที่ทำให้เกิดเหตุการณ์ "ถังแดง" หลังนโยบาย 66/23 มีหน่วยสันตินิมิต หลังจากนั้นพัฒนาชุมชนก็เข้ามา เมื่อเกิดวิกฤติเศรษฐกิจในปี 2540 ชาวบ้านในหมู่ต่างๆได้มาประชุมร่วมกันเพื่อปรึกษาปัญหา ถือว่าเป็นการเกิดเป็นเครือข่ายตามธรรมชาติ
เครือข่ายสินธุ์แพรทองก่อตั้งเป็นทางการในปี 2544 (สินธุ์ = ลำสินธุ์, แพรทอง = น้ำตกแพรทอง)
“จังหวะและโอกาสสำคัญมาก บางครั้งยังไม่เกิดผลถ้าเงื่อนไขไม่สุกงอมพอ”
แรกเริ่ม มีกลุ่มออมทรัพย์ที่หมู่ 8 เมื่อปี พ.ศ. 2531 ปัจจุบันชาวบ้านประมาณร้อยละ 90 เป็นสมาชิกกลุ่มออมทรัพย์ เนื่องจากชาวบ้านไม่มีเอกสารสิทธิ์ในที่ดินที่จะค้ำประกันเงินกู้จากธนาคาร
จากกลุ่มออมทรัพย์ ขยายสู่กลุ่มการผลิตหลายกลุ่ม รร.เกษตรกร และอื่นๆ
(บันทึกนี้ยังมีต่อ ที่ต้องบันทึกละเอียดเพราะพื้นที่น่าสนใจมาก และต้องบันทึกเผื่อเพื่อนร่วมเดินทาง)
ขอบคุณอาจารย์ลูกหว้ากับ Aj Kae ค่ะ
ยังต้องเขียนอีกหลายตอนเพราะลงสามพื้นที่ คงไม่เบื่ออ่านเสียก่อนนะคะ