ใกล้ถึงตรุษจีนแล้ว ก็เลยเสนอคำว่า เจ๊ก จีน... ซึ่งคำว่า จีน ผู้เขียนเคยพบในคัมภีร์สมันตาปสาทิกา ซึ่งเป็นคัมภีร์อรรถกถาวินัย (ขี้เกียจค้นเล่มและหน้า แต่ยืนยันได้ว่ามีแน่นอน) ในคำว่า จีนวตฺถํ แปลว่า ผ้าเมืองจีน... นั่นคือคำว่า จีน ทับศัพท์ดังที่เราใช้อยู่ในภาษาไทย...
ส่วนคำว่า เจ๊ก ไม่แน่ใจว่าเคยมีหรือไม่ในคัมภีร์ แต่เคยอ่านบันทึกเทศนาปุจฉาวิสัชชนาของปราชญ์บาลีรุ่นเก่าตอนหนึ่ง ซึ่งผู้เขียนขอเลียนแบบมาแต่งนิทานเล่าต่อในทำนองว่า..
ปรวาทกาจารย์ คำว่า เจ๊ก มีความหมายหรือไม่ ลองอธิบายมาดู
สกวาทกาจารย์ คำว่า เจ๊ก มีความหมายลึกซึ้ง... เจ๊ก บาลีว่า เจโก ดังอรรถวิเคราะห์ว่า จินาตีติ เจโก ผู้ใดย่อมสะสม เหตุนั้น ผู้นั้นชื่อว่า เจ๊ก (ผู้สะสม)...เจ๊ก หรือ เจโก มาจากรากศัพท์ว่า จิ ในความสะสม..อธิบายว่าสะสมทรัพย์สมบัติจนร่ำรวย ดังนั้น เจ๊กจึงไม่จนเหมือนลาว....อ๋อ แล้วคำว่า ลาว มีความหมายแล้วอธิบายได้หรือไม่
ปรวาทกาจารย์ คำว่า ลาว ก็มีความหมายและอธิบายได้...ลาว มาจาก ลุ รากศัพท์ มีอรรถวิเคราะห์ว่า ลุนาตีติ ลาโว ผู้ใดย่อมตัด เหตุนั้น ผู้นั้น ชื่อว่า ลาว (ผู้ตัด) ดังนี้
สกวาทกาจารย์ ลาว แปลว่า ผู้ตัด...ตัดอะไรบอกหน่อยซิ
ปรวาทกาจารย์ ตัดเปียเจ๊ก
.....ฯลฯ....
อธิบายว่า ท่านนักเทศน์สองรูปนี้ รูปหนึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายจีน ส่วนอีกรูปหนึ่งเป็นชาวไทยเชื้อสายลาว จึงมาเล่นสำนวนกันบนธรรมมาสน์..
.....
ผู้เขียนอ่านบันทึกนี้ตอนแรกเริ่มเรียนบาลี ก็ยกย่องเชาว์ปัญญาของท่านนักเทศน์ทั้งสอง แต่ไม่คิดว่า คำว่า เจ๊ก จะมาจาก จิ รากศัพท์ซึ่งแปลว่า สะสม จริงๆ แต่เมื่อมาเจอคำว่า จีนวตฺถํ ซึ่งแปลว่า ผ้าเมืองจีน ในคัมภีร์ก็เกิดความไม่แน่ใจเหมือนกัน เพราะคำว่า จีน ถ้าจะตั้งวิเคราะห์ตามนัยเดียวกับ เจ๊ก ก็วิเคราะห์ได้เหมือนกัน ดังต่อไปนี้
จินาตีติ เจโก ผู้ใดย่อมสะสม เหตุนั้น ผู้นั้นชื่อว่า เจ๊ก
จินาตีติ จีโน ผู้ใดย่อมสะสม เหตุนั้น ผู้นั้นชื่อว่า จีน
ดังนั้น เจ๊ก และ จีน จึงแปลเหมือนกันเพราะมีรากศัพท์และความหมายเหมือนกัน ต่างกันแต่วิธีการปรุงศัพท์ กล่าวคือ
เจโก มาจาก จิ รากศัพท์ ลง ณฺวุ ปัจจัย (จิ + ณฺวุ) แปลงสระอิ ที่ จิ เป็นสระเอ (จิ - เจ) แล้วก็แปลง ณฺวุ เป็น อกะ (ณฺวุ - อกะ ) ผสมกันอีกครั้งก็ได้เป็น เจกะ (เจ + อกะ = เจกะ)
จีโน มาจาก จิ รากศัพท์ ลง ยุ ปัจจัย (จิ + ยุ) ทีฆะสระอี ที่ จิ เป็นสระอี (จิ - จี) แล้วก็แปลง ยุ เป็น อนะ (ยุ - อนะ) ผสมกันอีกครั้งก็ได้เป็น จีนะ (จี + อนะ = จีนะ)
ตามนัยนี้ ผู้มีเชื้อสายจีนหรืเป็นเจ๊ก ควรจะพูมใจเพราะได้รับการยกย่องว่าเป็นผู้หมั่นสะสมจนร่ำรวยขึ้นมาได้...
หมายเหตุ
ผู้เขียนก็มีเชื้อสายจีน เดิมแซ่ตัน (ตั้ง) หลุมศพบรรพบุรุษยังคงมีอยู่
ครั้งนี้ต้องขอเห็นแย้งกับพระอาจารย์แล้วละครับ
คำว่า เจ๊ก น่าจะมาจากภาษาจีนแต้จิ๋วว่า เจ็ก(อาเจ็ก) ซึ่งแปลว่า อาผู้ชาย(น้องชายพ่อ)
เช่นเดียวกับ
แป๊ะ มาจากคำว่า แปะ(อาแปะ) หรือ ลุง(พี่ชายพ่อ)
ซิ้ม มาจากคำว่า ซิ่ม(อาซิ่ม) หรือ อาสะใภ้(ภรรยาอาเจ็ก)
แต่คนไทยเราเรียกเสียงเพี้ยนไป และนำมาเรียกในเชิงดูถูก ทั้งๆที่ บ่มิไก๊(ไม่มีอะไร)
ส่วนคำว่า จีน ก็น่าจะเป็นคำมาจาก (ราชวงศ์) จิ๋น ซึ่งเป็นรากศัพท์ในภาษาอังกฤษ China
ผิดถูกอย่างไร ต้องขออภัยนะครับ
อาจารย์ ดร.แสวง
ยินดีครับ เป็นเรื่องใหม่ที่เพิ่งได้ยิน...
อันที่จริง จีน หรือ เจ๊ก ในความหมายว่า ผู้สะสม เป็นเพียง เชาว์ปัญญาของผู้รู้ทางบาลีสร้างขึ้นมา ทำนองว่า ลากคำเข้ามาไว้ในวัด ซึ่งเรื่องนี้ อาตมาเคยวิจารณ์ไว้บางแล้วใน ตาย .....
ดังนั้น ศูนย์กลาง กับ สะสม คงจะไม่เกี่ยวกัน...แต่ ถ้าจะอธิบายให้เกี่ยวกันก็ต้องใช้การอ้างเหตุผล...
....ธรรมดาว่า ธรรมชาติที่จะเป็น ศูนย์กลาง ได้นั้น เกิดขึ้น ๒ กรณี คือ จากสิ่งที่กระจัดกระจาย เรี่ยรายทั่วไป ก็ค่อยๆ รวมเข้ามายังจุดหนึ่ง ซึ่งจุดหนึ่งที่ว่านี้แหละ เรียกว่า ศูนย์กลาง นั่นคือ จะเป็นศูนย์กลางได้ก็ต้องสะสมสิ่งที่กระจัดกระจายเข้ามาไว้รวมกัน...นี้กรณีแรก
...กรณีที่สอง ถ้าไม่มี หนึ่ง คือเริ่มต้นแล้ว สิ่งต่างๆ ก็มีไม่ได้ ดังนั้น หนึ่งจึงกระจายหรือขยายออกไปสู่ความหลากหลาย... หนึ่ง ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นก็จะเป็นศูนย์กลางของสิ่งต่างๆ เพื่อให้ทุกสิ่งทุกอย่างกระจายและขยายออกไป... ดังนั้น หนึ่ง จึงเรียกว่า เป็นที่สะสมได้ เพราะสะสมสิ่งที่จะต้องกระจายหรือขยายออกไปเป็นเบื้องต้น...
อธิบายเล่นๆ นะครับ คิดเอง ไม่ได้มาจากตำราใด ทำนองที่เค้าว่าไว้ ความจริงต้องมีเหตุผล แต่เหตุผลมิใช่ความจริง (.......)
เจริญพร
555...พระอาจารย์...นี่กระมังที่เขาว่า...
ฝึกเพลงกระบี่...ต้องมีซือแป๋ที่ยอดเยี่ยม...
ผนึกกำลังใช้กระบวนท่าได้สวยงามหมดจด...
เพลงกระบี่สุดยอด...คนหลอมรวมกับกระบี่...
เพลงกระบี่ยอดเยี่ยม...ใช้กระบวนท่ากระบี่ต่อเนื่องดุจสายน้ำ...
เพลงกระบี่สูงสุด...ใช้ออก...รั้งไว้...ตามใจปรารถนา...
ยอดฝีมือกระบี่...ฝึกถึงขั้น...ไร้กระบี่....กระบี่อยู่ที่ใจ...
ยอดฝีมือที่แท้จริง...ไร้กระบี่...ไร้ใจ...
มีกระบวนท่า...สู่...ไร้กระบวนท่า...
55555
อ๋อ อย่างนี้นี่เอง ขอบพระคุณ อ.มากคับ ผมมีศัพท์ๆหนึ่ง คิดดูแล้วก็ขำดีเหมือนกันคับ ลองนำมาให้อ.พิจารณาดูคับว่าถูกหรือไม่
คำว่า"หมูๆ" หมายถึง ทำได้อย่างง่ายๆ น่าจะมาจากคำว่า สุกรํ นะคับ สุ + กร สำนวนไทยมาแผลงเป็น สุกรหมูไปเลย ผมไม่แน่ใจว่าใช่อย่างนี้หรือไม่ แต่คิดว่าน่าจะมาจากอย่างนี่นะคับ
อ้อ อีกคำถามหนึ่ง ผมเข้ามาในเว็บนี้หลายครั้งแล้ว อยากจะทราบว่าใครเป็นผู้เขียนเว็บนี้ขึ้นมาคับ ในนี้เห็นมีแต่ระดับอาจารย์กันทั้งนั้นเลย ไม่รู้จะถามใครก็เลยถามพระอาจารย์คับ แต่ขอชื่นชมเว็บนี้มีแต่สาระทั้งนั้น ขอยกนิ้วให้เป็นเว็บปัญญาชนเลยคับ
กราบคารวะมาด้วยความเคารพอย่างสูง