ในสมัยพุทธกาล ท่านอหิงสกะ ได้รับการเสี้ยมสอนให้ทำตนให้บรรลุโดยการฆ่าคนให้ได้ ๑๐๐๐ คน แต่ก็ได้เพียง ๙๙๙ คน และมาพบพระพุทธเจ้าเสียก่อน จึงไม่ได้ครบ ๑๐๐๐ คน
แต่โดยหลักการนั้นท่านก็ได้ฆ่า “ตัวเอง” เป็นคนสุดท้าย ถ้านับรวมก็ครบ ๑๐๐๐ คนพอดี ก่อนจะมีโอกาสได้บำเพ็ญเพียรจนบรรลุอรหันต์
เรื่องต้นร้ายปลายดีเช่นนี้ เกิดกับคนจำนวนหลายคน โดยเฉพาะผู้นำเครือข่ายปราชญ์ที่เผชิญเรื่องร้ายๆมาในชีวิตก่อนที่จะหันกลับมาเป็นคนดีให้กับตัวเอง
สาเหตุที่ทุกคนต้องเผชิญเรื่องร้ายๆ ในชีวิตก็มาจาก “การใช้ความรู้ที่เป็นพิษ” ต่อตนเอง และผู้อื่นนั่นเอง
เรื่องความรู้ที่เป็นพิษนี้ กำลังเป็นปัญหาใหญ่ในสังคมไทย และยังรวมไปถึงสังคมโลกที่กำลังใช้ระบบการล่าอาณานิคมเป็นหลักในพัฒนาทรัพยากรของตนเอง ที่ไม่สนใจว่าใครจะเสียหาย เพียงแต่ตนได้รับประโยชน์ก็พอ
วิธีคิดนี้ ได้แพร่กระจายไปทุกหย่อมหญ้า แทบทุกวงการ
โดยเฉพาะระบบธุรกิจที่ถือว่ากำไรสูงสุดเป็นตัวตั้ง ถ้าไม่ยั่งยืนก็ค่อยปรับทีหลัง
ในวงวิชาการนั้น บางทีเราก็เอาความรู้ที่ทำแล้วได้ประโยชน์ระยะสั้น แต่ผลในการทำลายในระยะยาวนั้นกลับไม่คิด ทำให้เกิดการนำความรู้ที่เป็นพิษไปใช้ทั่วไป
เช่น การทำเกษตรเคมี ที่ได้ผลระยะสั้น แต่ทำลายระบบนิเวศในระยะยาว ก็มีการสอนและสนับสนุนทุกภาคส่วนให้มีการปฏิบัติกันโดยทั่วไป
พอชาวบ้านพยายามจะแสดงระบบเกษตรทางเลือกให้เห็น กลับถูกนักวิชาการที่เสพติดความรู้เป็นพิษ แต่ไม่เคยทำการเกษตรอะไรเลย ตอบโต้ คัดค้าน โดยอาศัยหลักการความรู้ที่เป็นพิษนั่นแหละมาพูด
ชาวบ้านจะเอาอะไรไปคัดง้างท่าน มีแต่ทำเชิงประจักษ์ให้ตัวเองและกลุ่มเท่านั้นแหละ และพิสูจน์อย่างเงียบๆว่า “คนทำเท่านั้น จึงมีเหตุผลที่ต้องเชื่อ”
คนไม่ทำแต่ปากคาคัมภีร์ไม่มีทางทราบความเป็นจริงได้หรอกครับ เพราะตำราไม่จำเป็นต้องบอกความจริงในทุกเรื่อง และมีความจริงอีกหลายอย่างที่ไม่มีในตำรา
ดังนั้น ความรู้ที่เป็นพิษจึงเป็นหลักในการทำงานของคนกลุ่มนี้ เป็นทาสทางความคิดให้กับการล่าอาณานิคมโดยไม่รู้ตัวครับ
น่าสงสารจริงๆ
บางทีเราก็เอาความรู้ที่ทำแล้วได้ประโยชน์ระยะสั้น แต่ผลในการทำลายในระยะยาวนั้นกลับไม่คิด
ปากคาบคำภีร์นี้คืออะไรค่ะ
เก่ยวกับการบูรณาการหรือเปล่าค่ะ
ขอบคุณค่ะ อาจารย์ ดร.แสวง
ท่านอหิงสกะ บรรลุธรรมก่อนพรอานนท์ เสียอีก ข้อนี้ไม่ทราบว่าเท็จจริงเป็นอย่างไร?
จริงค่ะพ่อครู ที่พระอานนท์บรรลุอรหันต์หลังพระอหิงสกะเพราะพระอานนท์เป็นพระอุปัฏฐากคอยช่วยเหลือรับใช้ระพุทธเจ้าอยู่นานจึงไม่มีเวลาปฏิบัติธรรม
แต่ด้วยความเป็นเลิศในเรื่องการใฝ่รู้ใฝ่เรียน มีความจำดีและเพียรพยามอย่างที่สุด หลังพระพุทธเจ้าเสด็จนิพพานจึงสามารถบรรลุอรหันต์ได้ทันก่อนเข้าร่วมประชุมสังคยนาเพียงวันเดียว
ขอบคุณค่ะ
ให้ความเคารพในความคิดเห็นของคนที่ลงมือทำจริง
ใช่คะ ปัจจุบันมีแต่ปากคาบคัมภร์ รุ้แต่หลักการปฎิบัติไม่ได้
คงยากที่จะให้ท่านทั้งหลายเลิกพฤษติกรรมปากคาบคัมภีร์ ในเมื่อยังมีคัมภีร์ให้คาบอยู่ เพราะการที่มีคัมภีร์ติดอยู่ที่ปากก็บ่งบอกว่าบุคคลนั้นมีความน่าเชื่อถือ น่ายกย่อง
เราต้องมาจัดระบบความคิด และความรู้ จึงจะล้างพิได้ครับ
จัดอย่างไร อันนี้เป็นเรื่องที่แต่ละคนต้องเรียนรู้เอง คนอื่นบอก ไม่เชื่อ ไม่ขลังครับ
นักวิชาการที่ปากคาบคัมภีร์อย่างเดียว บางครั้งเราไม่รู้ว่าเขาเป็นสปอนเซอร์ให้ใครหรือเปล่า
สวัสดีครับ
อ่านแล้วได้แง่คิดหลายประการ