ผมได้อธิบายไปแล้วว่า ภูมิปัญญาไทยเกี่ยวกับการจัดการดินและที่ดินเพื่อความยั่งยืนนั้น เป็นภูมิปัญญาที่สุดยอดและละเอียดอ่อน ที่สร้างจินตนาการโดยให้มี “พระแม่ธรณี” เป็นสัญลักษณ์
<p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="justify">ภูมิปัญญานี้ สะท้อนถึงความจำเป็นของการที่ “พระแม่ธรณี” จะต้อง</p><ul>
</ul><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เพราะถ้า “พระแม่ธรณี” ไม่มีเพื่อน ไม่มีเครือข่าย </p><ul> <li class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt">ก็จะไม่สามารถอยู่ได้ </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt">ผลิตอาหารไม่ได้ </li> <li class="MsoNormal" style="margin: 0cm 0cm 0pt">ผลิตน้ำไม่ได้ </li> </ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เครือข่ายของ “พระแม่ธรณี” คือใคร ?</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">อันนี้ต้องพิจารณาจากรูปร่างของ “พระแม่ธรณี” ครับ</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สัญลักษณ์ของ “พระแม่ธรณี” นั้น คือ </p><ul>
</ul><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">จากสัญลักษณ์นี้ </p> <ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ดังนั้น เครือข่าย “พระแม่ธรณี” จึงต้องมี</p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ฉะนั้น โดยนัยของความหมายนี้ จึง</p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ดังนั้น ระบบดินและที่ดินในระบบเกษตรอินทรีย์ ตามภูมิปัญญาไทยก็คือ </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">พระแม่ธรณีที่สมบูรณ์นั้น </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เพราะฉะนั้น โดยเครือข่ายของ “พระแม่ธรณี” </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">สาเหตุการทำลายเครือข่ายพระแม่ธรณี ก็เริ่มมาจาก </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ในทางกลับกัน ถ้าเราสำนึกในบุญคุณของพระแม่ธรณี สำนึกในภูมิปัญญาไทย ที่สะท้อนภาพเป็นพระแม่ธรณีที่สมบูรณ์ </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ความคิดนี้จะสวนทางกับความคิดในการใช้ความรู้ที่เป็นพิษ </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ฉะนั้น การจัดการดินในระบบอินทรีย์ ก็คือ </p><ul>
</ul> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หลักการที่สำคัญที่สุดก็คือ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="center">เมื่อพระแม่ธรณีพึ่งตนเองได้</p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="center"> ก็จะทำให้เราพึ่งตนเองได้</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ฟังดูง่ายไหมครับ… การปฏิบัติก็ไม่ยากอะไร ครับ ขอให้เราเข้าใจหลักการนิดเดียว </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="center">ภายใน ๓-๕ ปีท่านก็จะทำได้</p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">หลาย ๆ ท่านก็นึกว่า การปรับเปลี่ยนเช่นนี้ </p><ul>
</ul><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">แต่ไม่ใช่ครับ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เพราะเมื่อเราใช้ความรู้ที่ถูกต้อง โดยปรับเปลี่ยนมาใช้พืชเบิกนำ </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เช่น </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">ต้นกล้วย หรือพืชโตเร็วอื่นๆ ที่สามารถเก็บผลผลิตได้เร็ว และเป็นระบบสำรองธาตุอาหารไปในลักษณะเดียวกัน ซึ่งมีอยู่มากมาย </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal" align="center">เพียงแต่เราต้องมาจัดการความรู้ว่า ระบบใดเหมาะกับพื้นที่ใด และเหมาะกับระบบครอบครัวแบบใด </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">เท่านั้นแหล่ะครับ </p> <p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal">การจัดการความรู้ของท่าน </p><p style="margin: 0cm 0cm 0pt" class="MsoNormal"></p><ul>
</ul> ขอให้โชคดีครับ…
เมื่อเรารักผืนดิน ผืนดินแห่งนี้ก็จะรักเราเช่นเดียวกัน บทความนี้ช่วยให้เข้าใจมากขึ้นเกี่ยวกับการสะท้อนภาพของ พระแม่ธรณี .. คนสมัยนี้กินข้าว เจริญเติบโตเป็นผู้เป็นคนมาได้โดยไม่รู้จักต้นตอของสิ่งที่หล่อเลี้ยงตนเองมา มนุษย์ทุกคนเป็นผลผลิตของธรรมชาติ เนื่องจากข้าพเจ้าเองก็เรียนรู้วิชาต่างๆจากห้องเรียนซึ่งมันก็.ไม่ได้ทำให้ข้าพเจ้ามีความสามารถ ในการดำรงชีวิต แบบธรรมชาติ ได้อย่างแท้จริง..
ขอเป็นกำลังใจให้กับผู้ที่ใช้ชีวิตอย่างนี้ค่ะ
"ความสมถะ ไม่ได้หมายถึงว่าคุณไม่ได้ครอบครองสิ่งใด แต่ไม่มีสิ่งใดที่จะมาครอบครองคุณได้ต่างหาก" (*อาลี ตอลิบ)
เรียนท่านอาจารย์แสวง
ออตมองไปอีกมุมหนึ่งนะครับแต่ไม่ขัดแย้ง เพียงแต่ตีความไปอีกกิ่งของต้นไม้
ภูมิปัญญาเกิดจากการเรียนรู้เพื่อที่จะอยู่รอด เมื่ออยู่รอด อยู่ได้ ก็ถ่ายทอดสืบต่อ ในแนวคิดผมรู้สึกเสียดายชุดความรู้เรื่องดินของชาวบ้านมาก
ความรู้ใหม่ไปสร้างหมอดินใหม่ในชุมชน
หมอดินใหม่จึงลืมรากแก้วของตัวเอง
น้องไข่ครับ
ผมก็ใช้ภาษาที่เขาใช้กันในสังคมนี้แหละครับ
ส่วนรายละเอียดคงต้องรบกวนไปค้นคว้าเพิ่มเติม เพราะถ้าผมเขียนยาว คนมีแนวโน้มจะรำคาญ ไม่อ่าน และข้ามไปครับ
เรื่องเก่าก็สืบค้นได้ครับ
ท่านเม็กดำครับ ผมก็จะหนุนช่วยท่านอีกทางหนึ่ง ตอนนี้คนที่แก้ไขยากที่สุดคือนักวิชาการหอคอยงาช้าง ที่เขาคิดว่าเขาแน่ แต่ไม่เคยทำอะไรจริงจัง
แบบที่ท่าน อรหันต์ KM เขียนเมื่องานนี่แหละครับ
ลองไปตามอ่านดูนะครับ
อ่านแล้วคะ ก็ดีนะคะได้รู้ในสิ่งที่เรายังไม่รู้
สวัสดีคะ
ชอบเรื่องนี้คะเพราะว่ามีจินตนาการสูง
อ่านแล้วรู้สึกดีมากเลยคะ บทความนี้น่าจะได้ตีพิมพ์ออกมาเป็นวารสาร เพื่อที่จะได้มีคนได้อ่านเยอะๆ อาจารย์โพสไว้ในเว็บก็ได้อ่านเฉพาะคนที่เข้าเว็บมาดู
หนูคิดว่าน่าจะตีพิมพ์เป็นหนังสือเพื่อให้เป็นข้อคิดแก่คนหลายๆคนดีกว่าคะ จะได้มาช่วยกันอนุรักษ์ทรัพยากรดินและทรัพยากรธรรมชาติอื่นๆไว้ด้วย
อ่านแล้วรู้สึกว่าคนไทยสมัยก่อนเก่งมากเลยค่ะที่มีความคิดล้ำลึกได้ขนาดนี้และก็ขอบคุณอาจารย์ค่ะที่นำความคิดเเบบใหม่มาให้ได้คิดกัน ถึงจะเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่งว่ามีจริงรึเปล่าแต่ก็ได้เข้าใจค่ะว่าประเพณีที่สืบต่อกันมานั้นเป็นประโยชน์จริงๆ เพราะบางคนคิดว่าเป็นเรื่องโบราณที่จะเคารพพระเเม่ธรณี น่าทึ่งค่ะ ว่าคิดได้ยังไง ยอดเยี่ยมค่ะ
จินตนาการดีเลิศค่ะจารย์
ชอบค่ะมองเห็นภาพดดยรวมดีอ่ะค่ะ