โคธชาดก


ว่าด้วย คบคนชั่วไม่มีความสุข

โคธชาดก 

พระไตรปิฎกเล่มที่ ๒๗ พระสุตตันตปิฎกเล่มที่ ๑๙ [ฉบับมหาจุฬาฯ]

ขุททกนิกาย ชาดก ภาค ๑

๑๕. กกัณฏกวรรค

หมวดว่าด้วยกิ้งก่า

๑. โคธชาดก (จากพระไตรปิฎก ลำดับเรื่องที่ ๑๔๑)

ว่าด้วยตระกูลเหี้ยประสบความพินาศ

             (พญาเหี้ยโพธิสัตว์เมื่อจะหนีไปทางปล่องลม จึงกล่าวว่า)

             [๑๔๑] บุคคลคบหาคนชั่วย่อมไม่ประสบความสุขเลย เหมือนตระกูลเหี้ยทำตนเองให้ประสบความวอดวายเพราะกิ้งก่า

โคธชาดกที่ ๑ จบ

--------------------

คำอธิบายเพิ่มเติมนำมาจากบางส่วนของอรรถกถา 

โคธชาดก

ว่าด้วย คบคนชั่วไม่มีความสุข

               พระศาสดาเมื่อประทับอยู่ ณ พระวิหารเวฬุวัน ทรงปรารภภิกษุผู้คบหาฝ่ายผิดรูปหนึ่ง ตรัสพระธรรมเทศนานี้ ดังนี้.
               เรื่องปัจจุบัน ก็เช่นเดียวกับเรื่องที่กล่าวแล้วใน มหิฬามุขชาดก นั้นแล.
               ในอดีตกาล ครั้งพระเจ้าพรหมทัตเสวยราชสมบัติอยู่ในพระนครพาราณสี พระโพธิสัตว์ถือปฏิสนธิในกำเนิดเหี้ย ครั้นเติบใหญ่แล้ว มีเหี้ยหลายร้อยเป็นบริวาร พำนักอยู่ในโพรงใหญ่ใกล้ฝั่งแม่น้ำ บุตรของพระโพธิสัตว์นั้น ชื่อว่าโคธปิลลิกะ ทำความสนิทสนมเป็นเพื่อนเกลอกันกับกิ้งก่า (ป่อมข่าง) ตัวหนึ่ง เย้าหยอกกันกับมัน ขึ้นทับมันไว้ด้วยคิดว่า เราจักกอดกิ้งก่า.
               ฝูงเหี้ยพากันบอกความสนิทสนม ระหว่างโคธปิลลิกะกับกิ้งก่านั้น ให้พญาเหี้ยทราบ พญาเหี้ยจึงเรียกบุตรมาหา กล่าวว่า ลูกเอ๋ย เจ้าทำความสนิทสนมกันในที่ไม่บังควรเลย ธรรมดากิ้งก่าทั้งหลาย มีกำเนิดต่ำ ไม่ควรทำความสนิทสนมกับมัน ถ้าเจ้าขืนทำความสนิทสนมกับมัน สกุลเหี้ยแม้ทั้งหมด จักต้องพินาศเพราะอาศัยมันแน่นอน ต่อแต่นี้ไป เจ้าอย่าได้ทำความสนิทสนมกับมันเลย.
               โคธปิลลิกะก็คงยังทำอยู่เช่นนั้น แม้ถึงพระโพธิสัตว์จะพูดอยู่บ่อยๆ ก็ไม่สามารถจะห้ามความสนิทสนมระหว่างเขากับมันได้ จึงดำริว่า อาศัยกิ้งก่าตัวหนึ่ง ภัยต้องบังเกิดแก่พวกเราเป็นแน่ ควรจัดเตรียมทางหนีไว้ ในเมื่อภัยนั้นบังเกิด แล้วให้ทำปล่องลมไว้ข้างหนึ่ง.
               ฝ่ายบุตรของพญาเหี้ยนั้นก็มีร่างกายใหญ่โตขึ้นโดยลำดับ ส่วนกิ้งก่าคงตัวเท่าเดิม โคธปิลลิกะคิดว่าจักสวมกอดกิ้งก่า (เวลาใด) ก็โถมทับอยู่เรื่อยๆ (เวลานั้น) เวลาที่โคธปิลลิกะโถมทับกิ้งก่า เป็นเหมือนเวลาที่ถูกยอดเขาทับฉะนั้น
               เมื่อกิ้งก่าได้รับความลำบาก จึงคิดว่า ถ้าเหี้ยตัวนี้กอดเราอย่างนี้สักสอง-สามวันติดต่อกัน เราเป็นตายแน่ เราจักร่วมมือกับพรานคนหนึ่ง ล้างตระกูลเหี้ยนี้เสียให้จงได้.
               ครั้นวันหนึ่งในฤดูแล้ง เมื่อฝนตกแล้ว ฝูงแมลงเม่าพากันบินออกจากจอมปลวก ฝูงเหี้ยพากันออกจากที่นั้นๆ กินฝูงแมลงเม่า พรานเหี้ยผู้หนึ่งถือจอบไปป่ากับฝูงหมา เพื่อขุดโพรงเหี้ย กิ้งก่าเห็นเขาแล้ว คิดว่า วันนี้ความหวังของเราสำเร็จแน่ ดังนี้แล้วเข้าไปหาเขา หมอบอยู่ในที่ไม่ห่าง ถามว่า ท่านผู้เจริญ ท่านเที่ยวไปในป่าทำไม? พรานตอบว่า เที่ยวหาฝูงเหี้ย. กิ้งก่ากล่าวว่า ฉันรู้จักที่อาศัยของเหี้ยหลายร้อยตัว ท่านจงหาไฟและฟางมาเถิด แล้วนำเขาไปที่นั้น ชี้แจงว่า ท่านจงใส่ไฟตรงนี้แล้วจุดไฟ ทำให้เป็นควัน วางหมาล้อมไว้ ตนเองออกไปคอยตีฝูงเหี้ยให้ตายแล้วเอากองไว้.
               ครั้นบอกอย่างนี้แล้ว ก็คิดว่า วันนี้เป็นได้เห็นหลังศัตรูละ แล้วนอนผงกหัวอยู่ ณ ที่แห่งหนึ่ง.
               แม้นายพรานก็จัดการสุมไฟฟาง ควันเข้าไปในโพรง ฝูงเหี้ยพากันสำลักควัน ถูกมรณภัยคุกคาม ต่างรีบออกพากันหนีรนราน พรานก็จ้องตีตัวที่ออกมาๆ ให้ตาย ที่รอดพ้นมือพรานไปได้ ก็ถูกฝูงหมากัด ความพินาศอย่างใหญ่หลวงเกิดแก่ฝูงเหี้ย.
               พระโพธิสัตว์รู้ว่า เพราะอาศัยกิ้งก่าภัยจึงบังเกิดขึ้น ตัวนี้แล้ว กล่าวว่า ขึ้นชื่อว่า การคลุกคลีกับคนชั่วไม่พึงกระทำ ขึ้นชื่อว่า ประโยชน์ย่อมไม่มีเพราะอาศัยคนชั่ว ด้วยอำนาจของกิ้งก่าชั่วตัวเดียว ความพินาศจึงเกิดแก่ฝูงเหี้ยมีประมาณเท่านี้.
               เมื่อจะหนีไปทางช่องลม กล่าวคาถานี้ความว่า :-
               "ผู้คบคนชั่ว ย่อมไม่ได้ความสุขโดยส่วนเดียว เขาย่อมทำตนให้ถึงความพินาศ เหมือนอย่างตระกูลเหี้ยให้ตนถึงความวอดวายเพราะกิ้งก่า ฉะนั้น" ดังนี้.
               ในคาถานั้น มีความสังเขปดังนี้
               บุคคลผู้ซ่องเสพกับคนชั่ว ย่อมไม่บรรลุ คือไม่ประสบ ไม่ได้รับความสุขที่ยั่งยืน คือความสุขที่ชื่อว่า สุขชั่วนิรันดร เหมือนอย่างอะไร? เหมือนตระกูลเหี้ยไม่ได้ความสุข เพราะกิ้งก่าฉันใด คนที่ซ่องเสพกับคนชั่ว ย่อมไม่ได้ความสุขฉันนั้น มีแต่จะพาตนให้ถึงความวอดวายกับคนชั่ว ย่อมพาตนและคนอื่นๆ ที่อยู่กับตน ให้ถึงความพินาศไปถ่ายเดียวเท่านั้น.
               พระศาสดาทรงนำพระธรรมเทศนานี้มาแล้ว ทรงประชุมชาดกว่า
               กิ้งก่าในครั้งนั้น ได้มาเป็น เทวทัต
               บุตรพระโพธิสัตว์ชื่อโคธปิลลิกะผู้ไม่เชื่อโอวาท ได้มาเป็นภิกษุผู้คบหาฝ่ายผิด
               ส่วนพญาเหี้ยได้มาเป็น เราตถาคต ฉะนี้แล.


               จบ อรรถกถาโคธชาดกที่ ๑               
               -----------------------------------------------------   

 

หมายเลขบันทึก: 717430เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2024 04:46 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2024 04:46 น. ()สัญญาอนุญาต: ไม่สงวนสิทธิ์ใดๆจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท