ภูเรือ - เชียงคาน หนาวสะท้านใจ (2) พระธาตุศรีสองรัก ศูนย์รวมใจผู้คนทั้งสองแผ่นดิน
แม่น้ำหมันเป็นสายน้ำเล็กๆที่มีต้นกำเนิดมาจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ไหลลงมาหล่อเลี้ยงผู้คนริมฝั่งแม่น้ำรวมถึงในอำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย และเป็นแหล่งทรัพยากรธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ทั้งสัตว์น้ำและพืชผักต่างๆ โดยเฉพาะหน่อไม้ที่ขึ้นอยู่บริเวณริมฝั่งน้ำ ชาวบ้านจึงมักตั้งถิ่นฐานบ้านเรือนและทำการเกษตรในเขตพื้นที่ราบระหว่างหุบเขา ส่วนพื้นที่ดอนจะทำนาไร่และปลูกพืชไร่ต่างๆ เช่น ข้าวโพด ถั่วพันธุ์ต่างๆ
พระธาตุศรีสองรัก ตั้งอยู่ริมฝั่งแม่น้ำหมัน อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย สร้างขึ้นในสมัยพระเจ้าไชยเชษฐาธิราช เมื่อ พ.ศ. 2130 สร้างเสร็จในปี พ .ศ.2106 พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นเพื่อเป็นสักขีพยานในการช่วยเหลือซึ่งกันและกัน ระหว่างกรุงศรีอยุธยา สมัยสมเด็จพระมหาจักรพรรดิ และกรุงศรีสัตนาคนหุต ปัจจุบันคือเวียงจันทน์ สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว
กษัตริย์ทั้งสองพระองค์ทรงครองราชสมบัติในขณะที่พม่าเรืองอำนาจและมีการรุกรานดินแดนต่างๆเพื่อขยายอำนาจ สมเด็จพระมหาจักรพรรดิและพระเจ้าไชยเชษฐาธิราชจึงตกลงรวมกำลังกันเพื่อต่อสู้กับพม่า จึงทรงกระทำสัตยาธิษฐานว่าจะไม่ล่วงล้ำดินแดนของกันและกัน และเพื่อเป็นที่ระลึกในการทำไมตรีต่อกัน จึงได้ร่วมกันสร้างพระธาตุศรีสองรักขึ้น ณ ริมฝั่งแม่น้ำหมันเพื่อเป็นสักขีพยาน
ด้วยเหตุนี้จึงเป็นที่มาของข้อปฏิบัติสำหรับผู้ที่จะมาสักการะพระธาตุศรีสองรัก ห้ามสวมใส่เสื้อผ้าสีแดง หรือถือสิ่งของที่มีสีแดงเข้าไปในบริเวณองค์พระธาตุ เพราะสีแดงอาจเปรียบได้กับเลือด ที่เป็นผลของการทำสงคราม ดังนั้น คนโบราณจึงมีการห้ามไม่ให้ผู้ที่สวมเสื้อผ้าสีแดงเข้าไปในบริเวณองค์พระธาตุ จนกลายเป็นธรรมเนียมปฏิบัติสืบมาจนถึงปัจจุบัน
นอกจากนี้ยังมีข้อห้ามผู้หญิงขึ้นไปบริเวณหน้าพระประธานในอุโบสถและในกำแพงแก้วรอบองค์พระธาตุ เนื่องจากร่างกายผู้หญิงไม่บริสุทธิ์ในแต่ละเดือน ห้ามสวมหมวก กางร่ม แต่งกายไม่สุภาพ เช่น สวมกางเกงขาสั้นเหนือหัวเข่า และห้ามสวมรองเท้าขึ้นไป ห้ามนำเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบขึ้นมาบริเวณองค์พระธาตุ เพราะเด็กอาจส่งเสียงดังหรือวิ่งเล่นซุกซนเข้าไปในที่ห้ามเข้า
พระธาตุศรีสองรักสร้างด้วยศิลปกรรมแบบล้านช้าง ก่ออิฐถือปูน องค์พระธาตุสูง 19.19 เมตร ฐานกว้างด้านละ 10.89 เมตร ฐานเป็นสี่เหลี่ยมจัตุรัสย่อมุมไม้สิบสอง องค์ระฆังเป็นทรงบัวเหลี่ยมคล้ายพระธาตุพนม พระธาตุหลวงเวียงจันทน์ พระธาตุศรีโคตรบอง แขวงคำม่วนและอีกมากมายแถบลุ่มแม่น้ำโขง พระธาตุศรีสองรักสร้างขึ้นถวายแบบอุเทสิกเจดีย์ หมายถึงเจดีย์ที่สร้างขึ้นโดยเจตนาอุทิศให้พระศาสนา โดยไม่กำหนดว่าต้องเก็บรักษาสิ่งใด แต่มีหลายคนเชื่อว่ากษัตริย์ทั้งสองพระองค์น่าจะนำสิ่งศักดิ์สิทธิ์ เช่น พระพุทธรูป พระธรรมคัมภีร์ บรรจุไว้ตามความเชื่อในพุทธศาสนา
งานสมโภชพระธาตุศรีสองรัก จัดขึ้นในวันเพ็ญวิสาขบูชา ของทุกปี ชาวอำเภอด่านซ้ายจะพร้อมใจกันนำต้นผึ้ง หรือ ต้นดอกเผิ่งในภาษาอีสานมาสักการะพระธาตุ ในแต่ละปีจะมีชาวด่านซ้ายและชาวเลยเดินทางมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก โดยมีความเชื่อว่าผู้ที่มาขอพรจากองค์พระธาตุแล้วบนด้วยต้นผึ้งมักจะได้รับพรสมความปรารถนา
ต้นผึ้ง ทำจากโครงไม้ไผ่เป็นทรงสามเหลี่ยม หรือ ทรงปราสาทขนาดกว้าง 2 ฟุต สูง 2 ฟุตเศษ กรุรอบด้วยลวดลายงานแทงหยวก จากนั้นประดับด้วย ดอกผึ้ง ซึ่งทำจากแผ่นเทียนกลมๆ บางๆ นำไปต้มและใช้ไม้ที่เป็นแม่แบบ นำไปจุ่มกับเทียนที่ละลาย จากนั้นนำไปแช่น้ำให้เย็นแล้วแกะออกจากแบบ นำไปตกแต่งเป็นต้นผึ้ง มีดอกบานไม่รู้โรย หรือขมิ้นหั่นเล็กๆ ติดตรงกลางแทนเกสรดอกไม้ เสร็จแล้วจึงนำมาบูชาถวายองค์พระธาตุ
แม้จะไม่ใช่ช่วงงานสมโภชพระธาตุศรีสองรักในวันขึ้น 15 ค่ำ เดือน 6 แต่ก็สามารถพบเห็นต้นผึ้งจำนวนมากมายถูกนำมาถวายไว้บริเวณฐานขององค์พระธาตุ ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความเลื่อมใสศรัทธาของชาวด่านซ้าย ชาวเลย และผู้คนที่เดินทางมาสักการะ "พระธาตุศรีสองรัก" ศูนย์รวมใจของผู้คนทั้งสองแผ่นดิน
ขอขอบคุณ
ไม่มีความเห็น