สรุปข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับเทพเจ้าอียิปต์
|
ในดินแดนอียิปต์โบราณหรือไอยคุปต์ (Ancient Egypt) ชาวอียิปต์นับถือและบูชาเทพเจ้าและเทพีมากกว่าพันองค์ ที่ต่างก็เป็นตัวแทนของสิ่งที่แตกต่างกันออกไป และมีบทบาทต่อการดำเนินชีวิตของผู้คน อียิปต์โบราณถือว่ามีตำนานเทพเจ้าที่ซับซ้อนที่สุดแห่งหนึ่งในหมู่อารยธรรมโลกสมัยโบราณ โดยมีความเกี่ยวข้องกับการสร้างโลกและชีวิตหลังความตาย เทพเจ้าอียิปต์ส่วนใหญ่มีลักษณะเป็นมนุษย์ แต่บางองค์มีศีรษะหรือร่างกายเป็นสัตว์อื่น ๆ
ตำนานเทพเจ้าอียิปต์โบราณมีความเชื่อว่าเทพเจ้าอวตารมายังโลกมนุษย์ ซึ่งคล้ายกับความเชื่อแบบฮินดูของชาวอินเดีย อย่างไรก็ตาม ลักษณะเฉพาะของเทพเจ้าหรือเทพีแต่ละองค์นั้นไม่สามารถระบุได้แน่นอน เนื่องจากความสำคัญของเทพเจ้ามีการเปลี่ยนแปลงเมื่อเวลาผ่านไปสอดคล้องกับการพัฒนาของสังคมอียิปต์
การบูชาเทพเจ้าและเทพีถือเป็นส่วนสำคัญในชีวิตของชาวอียิปต์โบราณ เพื่อขอให้มีชีวิตที่ดีและรุ่งเรือง โดยที่ยังรวมไปถึงชีวิตหลังความตายด้วย แรงศรัทธาของชาวอียิปต์โบราณต่อเทพเจ้าอียิปต์นั้น ส่งผลให้มีการสร้างวิหารเพื่อการบูชาเทพและเทพีต่าง ๆ รวมถึงพิธีการและความเชื่อ เช่น การรักษาร่างของผู้ที่เสียชีวิตไว้ในรูปที่หลายคนรู้จักกันว่า "มัมมี่" พร้อมกับเก็บสิ่งของและสมบัติของผู้ที่เสียชีวิตไว้สำหรับใช้ในโลกหน้า
เทพเจ้ารา คือ สุริยเทพ และถือเป็นเทพสูงสุดแห่งอียิปต์ โดยเป็นหนึ่งในเทพเจ้าที่มีความเกี่ยวข้องกับพระอาทิตย์ ในรูปเทพเจ้ารามักจะมีลักษณะเด่นคือร่างกายมนุษย์และศีรษะเป็นเหยี่ยว พร้อมทั้งมีสัญลักษณ์รูปดวงอาทิตย์ซึ่งมีงูเห่าพันรอบอยู่เหนือศีรษะ
ตำนานเล่าว่าเทพเจ้าราล่องเรือบนฟากฟ้าทุกวัน ก่อนที่จะผ่านไปยังโลกหลังความตายหรือ The Underworld ช่วงกลางคืน ก่อนที่จะกลับมาในโลกอีกครั้งเมื่อพระอาทิตย์ขึ้น ดังนั้น เทพเจ้าราจึงเป็นตัวแทนของการฟื้นคืนชีพ เปรียบดั่งพระอาทิตย์ที่ขึ้นทุกเช้า
ชาวไอยคุปต์เชื่อว่าฟาโรห์หรือกษัตริย์ผู้ครองอาณาจักรอียิปต์โบราณนั้นเป็นโอรสของเทพเจ้ารา ดังนั้น เทพเจ้าราจึงถือว่ามีความสำคัญเป็นอย่างยิ่ง
เทพเจ้าอามุน คือ เทพเจ้าแห่งอากาศ ดวงอาทิตย์ และท้องฟ้า รวมทั้งยังได้ขึ้นชื่อว่าเป็นราชาแห่งปวงเทพของอียิปต์โบราณ เป็นผู้สร้างทุกสิ่งอย่างในจักรวาล ลักษณะของเทพเจ้าอามุนในรูปวาดมีความแตกต่างกันออกไป แต่ส่วนใหญ่จะมีศีรษะเป็นมนุษย์ สวมกระโปรงแบบฟาโรห์ และสวมหมวกมงกุฎขนนกคู่ แต่บางครั้งมีศีรษะเป็นแกะ
ต่อมาชาวอียิปต์ได้นำมารวมกับเทพเจ้ารา เป็นเทพเจ้าอามุน-รา (Amun-Ra) และถือเป็นเทพเจ้าสูงสุดของตำนานอียิปต์โบราณ รวมทั้งยังได้รับการยกย่องจากชาวกรีกให้เทียบเท่าเทพเจ้าซุสเลยทีเดียว
เทพเจ้าอนูบิส คือ เทพเกี่ยวกับการจัดการดูแลผู้ที่เสียชีวิต และการเก็บรักษาศพ (Embalming) ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ ในรูปวาดมักจะมีร่างกายเป็นมนุษย์ ขณะที่ศีรษะเป็นหมาในสีดำ โดยเชื่อว่าความสัมพันธ์ระหว่างหมาในกับความตายและงานศพนั้นมาจากการที่ชาวอียิปต์มักจะสังเกตเห็นหมาในบริเวณสุสาน
ชาวอียิปต์โบราณที่ทำหน้าที่ทำมัมมี่นั้นนิยมแต่งตัวหรือใส่หน้ากากเทพเจ้าอนูบิสระหว่างขั้นตอนการทำมัมมี่ นอกจากนี้ยังพบบทสวดถวายเทพเจ้าอนูบิสในที่ฝังศพของชาวอียิปต์โบราณส่วนใหญ่อีกด้วย
เทพเจ้าโอซิริส คือ เทพแห่งโลกหลังความตาย และเป็นผู้ตัดสินชะตาของมนุษย์หลังจากที่เสียชีวิต ตำนานเล่าว่าเทพเจ้าโอซิริสเป็นกษัตริย์ปกครองอียิปต์ที่ถูกสังหารโดยเทพเจ้าเซธผู้เป็นน้องชาย จากนั้นเทพีไอซิส พระชายาของเทพเจ้าโอซิริสได้นำร่างของพระสวามีมาประกอบรวมกันอีกครั้ง ทำให้ทั้งสองพระองค์มีบุตร ซึ่งก็คือเทพเจ้าฮอรัส ที่กอบกู้อาณาจักรคืนจากเทพเจ้าเซธได้ในที่สุด
ลักษณะของเทพเจ้าโอซิริสมักจะเห็นเป็นกษัตริย์ที่อยู่ในรูปมัมมี่ มองเห็นมือและหน้าที่มีผิวสีเขียว มีเครา ถือคทาหัวขอและแส้ นอกจากจะเป็นผู้พิพากษาในโลกหลังความตายแล้ว เทพเจ้าโอซิริสยังเป็นเทพเจ้าแห่งกษัตริย์ที่ฟื้นคืนชีพและความอุดมสมบูรณ์อีกด้วย
เทพีนูต คือ เทพีแห่งท้องฟ้า ขณะที่เทพเจ้าเกบเป็นเทพแห่งผืนดินและความอุดมสมบูรณ์ ทั้งคู่เป็นพี่น้องกัน พร้อมทั้งยังเป็นพระมารดาและพระบิดาของไอซิสและโอซิริส
ตำนานกล่าวว่าเทพีนุตกลืนเทพเจ้าราเข้าไปเมื่อสิ้นสุดวัน และให้กำเนิดสุริยเทพออกมาอีกครั้งในตอนเช้าของวันรุ่งขึ้น นอกจากนี้ยังมีความเชื่อกันว่าแผ่นดินไหวเกิดจากเสียงหัวเราะของเทพเจ้าเกบ
เทพีเซคเมต คือ เทพีแห่งสงครามและผู้ทำลายล้างศัตรูของสุริยเทพหรือเทพเจ้ารา ส่วนใหญ่จะมีลักษณะเป็นสิงโต หรือผู้หญิงที่มีศีรษะเป็นสิงโต บนศีรษะมีรูปพระอาทิตย์และรูปงู
คำว่า "Sekhmet" หมายถึง ผู้ที่มีพลังอำนาจ บางตำนานกล่าวว่าเทพีเซคเมตคือลูกสาวของเทพเจ้าราอีกด้วย
เทพเจ้าฮอรัส คือ เทพเจ้าแห่งท้องฟ้า มีความเกี่ยวข้องกับสงครามและการล่า เป็นบุตรของโอซิริสและไอซิส เทพเจ้าฮอรัสเป็นที่นับถือทั่วอียิปต์จากเรื่องเล่าในตำนานที่ได้แก้แค้นแทนพระบิดา ด้วยการต่อสู้กับเทพเจ้าเซธผู้มีศักดิ์เป็นอา ก่อนที่จะขึ้นเป็นกษัตริย์ของอียิปต์ในที่สุด โดยตำนานยังกล่าวว่าฮอรัสได้สูญเสียดวงตาระหว่างการต่อสู้ แต่เทพเจ้าธอธได้ช่วยรักษาให้ ทำให้สัญลักษณ์ตาของฮอรัส (Eye of Horus) กลายเป็นสัญลักษณ์ของการปกป้องคุ้มครอง สุขภาพ และการฟื้นคืน
ลักษณะของเทพเจ้าฮอรัสมักจะมีร่างกายเป็นมนุษย์ ศีรษะเป็นเหยี่ยว ดวงตาข้างซ้ายคือพระอาทิตย์ ดวงตาข้างขวาคือดวงจันทร์ ชาวอียิปต์โบราณยังมีความเชื่อว่าฟาโรห์คือเทพเจ้าฮอรัสที่มาเกิดบนโลกมนุษย์
เทพเจ้าธอธ คือ เทพแห่งความรอบรู้ เทพแห่งงานเขียน ได้รับการยกย่องเป็นเทพเจ้าแห่งนักปราชญ์ สัญลักษณ์ของธอธคือตัวที่เป็นมนุษย์ ขณะที่ศีรษะเป็นนกไอบิสหรือนกช้อนหอยที่มีปากยาว บางครั้งก็มีลักษณะเป็นลิงบาบูน
ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อว่าธอธเป็นผู้คิดค้นภาษาและอักษรไฮเออโรกลีฟ (Hieroglyph) รวมทั้งยังมีความรู้เกี่ยวกับเวทมนตร์และความลับที่แม้แต่เทพเจ้าองค์อื่น ๆ ก็ไม่สามารถรู้ได้
เทพีไอซิส คือ เทพีผู้ปกป้องฟาโรห์หรือกษัตริย์ของอียิปต์โบราณ เทพีแห่งมารดา เด็ก และการเยียวยารักษา ไอซิสมีความสำคัญเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ จนกลายเป็นเทพีที่มีความสำคัญที่สุดในหมู่เทพอียิปต์โบราณ
ชื่อของเทพีไอซิส (Isis) มาจากคำภาษาอียิปต์ว่า Eset หรือที่นั่ง ("the seat") ซึ่งสื่อถึงความมั่นคงและบัลลังก์ของอียิปต์ เนื่องจากถือว่าเทพีไอซิสเป็นมารดาของฟาโรห์ทุกพระองค์ ลักษณะของเทพีไอซิสนั้นรูปร่างเป็นสตรี สวมหมวกเป็นรูปดวงอาทิตย์ วงกลม หรือรูปเก้าอี้บัลลังก์บนศีรษะ
ไอซิสเป็นธิดาของเทพีนูตและเทพเจ้าเกบ เทพีแห่งท้องฟ้าและเทพแห่งผืนดิน เป็นภรรยาของโอซิริส และมารดาของฮอรัส มีการเปรียบเทียบเทพีไอซิสกับอะโฟรไดท์ (Aphrodite) ของกรีก
เทพีฮาเธอร์ คือ เทพีแห่งความรัก ความงาม ความสุข และเสียงเพลง ลักษณะมีร่างกายและศีรษะเป็นมนุษย์ สวมหมวกรูปดวงอาทิตย์ที่มีเขาวัวคู่ล้อมรอบ มีความเชื่อว่าเทพีฮาเธอร์คือภรรยาของเทพเจ้าฮอรัส และเป็นผู้ดูแลดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตขณะก้าวผ่านไปยังโลกหลังความตาย
เทพีมาอัท คือ เทพีแห่งความจริง ความยุติธรรม และความสามัคคี ในภาพเทพีมาอัทมักจะนั่งหรือยืน พร้อมกับมีขนนกกระจอกเทศประดับศีรษะ รวมทั้งอาจมีปีกด้วย
ตามความเชื่อของชาวอียิปต์โบราณ จักรวาลมีระเบียบแบบแผน และเทพีมาอัทคือผู้รักษาสมดุลนี้เอาไว้ ช่วยให้ชาวอียิปต์โบราณมีความเชื่อมั่นอย่างแรงกล้าต่อคุณธรรมและความยุติธรรม
เทพเจ้าเซธ คือ เทพแห่งทะเลทราย ท้องฟ้า พายุ ความวุ่นวาย และสงคราม เดิมทีชาวอียิปต์โบราณบูชาเซธเนื่องจากเชื่อว่าสามารถช่วยญาติมิตรที่เสียชีวิตไปแล้วได้ แต่หลังจากที่เซธสังหารโอซิริส พี่ชายของตัวเอง ผู้คนก็เลิกศรัทธาเนื่องจากโอซิริสเป็นเทพเจ้าอันเป็นที่เคารพรักของสังคมไอยคุปต์
เทพเจ้าเซธมีลักษณะผสม เช่น ร่างกายของสุนัข ตาเฉียง หูที่มีปลายเหลี่ยม รูปของเซธจึงมักมีลักษณะแตกต่างกันออกไป เทพเจ้าเซธเป็นพระบิดาของเทพเจ้าอนูบิสที่มีศีรษะเป็นหมาในสีดำ
ขอบคุณที่มา:
ไม่มีความเห็น