เทคโนโลยีกับวถีใหม่ของการดำรงชีวิต (technology and new normal living)


วันจันทร์ที่แล้วผมได้ออกรายการสดในรายการ ‘นพพรชวนคุย’ ในช่อง Facebook Live Ubon TV' เกี่ยวกับผลกระทบของเทคโนโลยีต่อการใช้ชีวิตของคนเราในปัจจุบัน ซึ่งผมก็เปิดเรื่องโดยยืนยันความเชื่อของผมว่า ‘เทคโนโลยีไม่เคยทำร้ายใคร แต่ปัญหาที่เกิดขึ้นอยู่ที่วิธีการใช้เทคโนโลยีของคนเรามากกว่า'

หลายวันก่อนหน้าโน้นผมได้เขียนเกี่ยวกับเรื่องนี้ไว้ว่าเราควรขอบคุณนักคิดและนักประดิษย์ทั้งหลายที่ทำให้เรามีเทคโนโลยีต่างๆ ขึ้นมา ซึ่งเทคโนโลยีเหล่านั้น ผู้ประดิษฐ์ก็มุ่งที่จะทำให้ชีวิตและความเป็นอยู่ของคนเราดีขึ้น แต่ขณะเดียวกันในมุมกลับก็มีคนชี้ว่า ‘สิ่งใดมีประโยชน์ก็มีโทษมหันต์’ ซึ่งถ้าเราดูผิวเผิญก็ดูเหมือนจะจริงตามนั้น แต่ความจริงแล้วสิ่งที่มีประโยชน์ก็ควรเป็นประโยชน์ แล้วมันจะเป็นโทษได้อย่างไร 

ผมใช้เวลาขบคิดโจทย์นี้มาไม่น้อยทีเดียวจนวันหนึ่งก็ได้ข้อสรุปว่า ‘เทคโนโลยีที่เป็นประโยชน์ ก็ย่อมเป็นประโยชน์ แต่คนเราต่างหาใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นไม่เป็น หรือไม่ก็มีคนที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นทำร้ายตัวเอง หรือคนอื่นต่างหาก ก็เลยโทษเทคโนโลยี’ ดังนั้นผมก็ยังยืนยันคำเดิมว่า ‘เทคโนโลยีไม่เคยทำร้ายใคร’ แต่คนเราต่างหากที่ใช้เทคโนโลยีเหล่านั้นทำร้ายตนเอง หรือผู้อื่น 

โจทย์ที่พูดคุยกันในรายการนพพรชวนคุยวันนั้นเราได้ชวนคุยและชี้ว่าทุกวันนี้ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีมีอะไรบ้าง เช่น ปัญญาประดิษฐ์ แบ็ตเตอร์รี่แบบต่างๆ โดยเฉพาะที่นำมาใช้ในรถยนต์ไฟฟ้า บล๊อกเชน อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง และสภาวะเสมือนจริง เป็นต้น 

และการพูดคุยกันวันนีั้น ก็ยกตัวอย่างเทคโนโยลีการสื่อสารและโปรแกรมใช้งาน (application) ทั้งหลายที่่ส่งผลสำคัญต่อการใช้ชีวิตและสังคมในปัจจุบัน ไม่ว่าจะเป็นไลน์ เฟชบู๊ค ติ็กตอก และอื่นๆ ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่เชื่อมโลกทั้งโลกนี้เข้าด้วยกัน แต่ขณะเดียวกันก็แยกความสัมพันธ์ของคนในโลกที่เป็นจริงออกจากกัน เช่น เรารับรู้ทุกเรื่องทั่วโลก และพูด  กับหลายคนทั่วโลก แต่ก็ไม่ได้ใส่ใจกับตนเอง และคนรอบข้าง ขณะเดียวกันก็มีภัยที่เกิดขึ้นผ่านโปรแกรมใช้งานเหล่านี้ในหลายมิติ ซึ่งแทนที่เราจะโทษตัวเอง หรือคนที่สร้างปัญหาเหล่าน้้น แต่เรากับโทษเทคโนโลยีอย่างไม่เป็นธรรม

ข้อสรุปของการพูดคุยกันวันนั้นก็คือ (1) เราควรใช้เทคโนโลยีเป็นเครื่องมือในการใช้ชีวิตของเรา ไม่ใช่ให้เทคโนโลยีเป็นนายเรา (2) เมื่อมีผู้ใช้เทคโนโลยีเพื่อสร้างปัญหา หรือทำร้ายคนอื่น เราก็ควรหาทางจัดการกับผู้สร้างปัญหา ไม่ใช่โทษเทคโนโลยี และ (3) เราควรใช้เทคโนโลยีที่มีอยู่เพื่อประโยชน์สูงสุดในการใช้ชีวิตของเรา และการอยู่ร่วมกันของเพื่อมนุษย์ 

ทำสิ่งเหล่านี้ด้วยความขอบคุณเทคโนโลยี และนักคิดนักประดิษฐ์เทคโนโลยีเหล่านั้น มากกว่าจะโทษเทคโนโลย และเลยไปถึงตำหนิผู้ที่สร้างเทคโนโลยีด้วยนั้น 

ซึ่งไม่เป็นธรรมครับ 

ขอบคุณครับ 

สมาน อัศวภูมิ

17 ธันวาคม 2566

 

หมายเลขบันทึก: 716816เขียนเมื่อ 17 ธันวาคม 2023 06:13 น. ()แก้ไขเมื่อ 17 ธันวาคม 2023 06:32 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

We the people (collectively) see things differently (or give ‘value’ of ‘bad’ and ‘good’ according to ‘our value’). We see and use technologies (more accurately ‘gadgets’ or ‘gizmos’) for ‘our’ individual (maximal) benefit. We use law, religion, education, family [members], etc. for our maximal benefits as you say ‘they are neither bad or good but just ‘ways of the world’. Technologies is [being used for benefits] destroying the world - toxic pollution, climate change, cancer,…

Are you saying “We want to live in this world – then put up with that. “?

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท