ช่วงปี 2566 เราเดินสายแลกเปลี่ยน เรื่อง R2R มาแทบทุกเวที จนเวทีสุดท้ายของปี ไปพูดที่ รพ เลย 24.11.2566
ดร.จงกลณี เรืองอัมพร ขอให้พูดกระเทาะแก่นแท้ R2R ให้เข้าใจว่า R2R เป็นวิจัยชั้น 1 ไม่ใช่วิจัยชั้นสอง ต้องผ่านการขอจริยรรม
ข้อตกลงในการกระเทาะแก่นแท้ R2R
- เราเลยต้องผูกเรื่องใหม่ ทำอย่างไรให้คนอ่านเข้าใจได้ง่าย
- น้องลองค่อยๆอ่านตามและลองทำตามขั้นตอนที่พี่แก้วกลั่นออกมาให้น้องๆพยาบาลเรียนรู้ทีละขั้นตอนนะคะ
- เริมตันเราอย่าเพิ่งบอกว่าเราจะทำเรื่องนั้น เรื่องนี้ เราจะเวียนศีรษะก่อนได้งานวิจัยที่มีคุณภาพ
- 5555
…..
เริ่มต้นต้องมาทำความเข้าใจคำว่า R2R
- R2R เป็นการพัฒนางานประจำให้เป็นวิจัย ที่ผ่านการศึกษาค้นคว้าอย่างมีระเบียบ เพื่อแสวงหาคำตอบจากคำถามวิจัยที่กำหนดไว้
- R2R มีเงื่อนไขอยู่ 4 ประการ คือ 1) โจทย์วิจัยมาจากงานประจำที่ทำอยู่ 2) ผลลัพธ์หรือกลุ่มเป้าหมาย คือ ผู้ป่วยที่เรารับผิดชอบดูแลมาระยะเวลาพอสมควร 3) ดำเนินการวิจัย โดยผู้ปฏิบัติในหน่วยงานนั้น และ 4) ผลวิจัยนำกลับไปใช้ประโยชน์ในกลุ่มเป้าหมายของเราทั้งในหน่วยงานและสามารถขยายผลในวงกว้าง
- การทำ R2R ให้สามารถนำไปใช้ประโยชน์ได้ ต้องได้มาจากคำถามวิจัยที่ดี และระเบียบวิจัยที่ดีและเหมาะสม
ดังนั้นสิ่งแรกที่ต้องค้นหา คือ คำถามวิจัยที่ดี
- เราต้องเข้าใจเป้าหมายในการพัฒนางานประจำให้เป็นวิจัยก่อนว่า เราจะนำไปใช้ประโยชน์อะไร หากเราจะนำกลับไปใช้ที่หน่วยงานตนเอง กลุ่มผู้ป่วยของเรา
- คำถามที่จะต้องหาคำตอบ ก็ต้องสัมพันธ์กับหน้าที่หลักของพยาบาล 7 aspects ได้แก่ 1)การประเมิน 2)การจัดการอาการ 3)การดูแลด้านความปลอดภัย 4)การดูแลเพื่อป้องกันอาการข้างเคียง 5)การดูแลต่อเนื่อง 6)การดูแลตนเอง และ7)บริการให้พึงพอใจ
-
คำถามที่ดี เราจะค้นหาได้จาก 1) ผู้ป่วยหรือผู้ใช้บริการของเรา 2) จากการแลกเปลี่ยนเรียนรู้กับเพื่อนร่วมงานหรือการ pre post conference 3) Research agenda ระดับชาติหรือนานาชาติ
- คำถามที่จะทำควรเริ่มมาจาก คำถามในคลินิก อาจจะพัฒนาองค์ความรู้ใหม่หรือนำผลวิจัยมาพัฒนาแนวปฏิบัติทางการพยาบาลเพื่อนำไปใช้กับผู้ป่วยในคลินิกได้เลย
คำถามวิจัยที่ดี มาจากคนที่ช่างสงสัยก่อน
เริ่มเหลาคำถามจาก PICOT จาก 5 เอ๊ะ
-
เอ๊ะแรก คือ P=Patient/Problem เมื่อได้กลุ่มเป้าหมายแล้ว
-
เอ๊ะที่สอง เราต้องหาข้อมูลที่เกี่ยวข้องว่า สถิติผู้ป่วยที่มีระดับชาติ ระดับภาค ระดับ รพ และในหอผู้ป่วยที่เราอยู่มีจำนวนเท่าไหร่ แผนการรักษาคืออะไร การพยาบาลในปัจจุบันทำอะไรบ้าง เก็บผลลัพธ์ผลการดูแล หรือ Nursing outcome, clinical outcome หรือตัวชี้วัด มีอะไรบ้าง หากเราจะพัฒนางาน เราจะใช้กรอบแนวคิดหรือทฤษฎีทางการพยาบาลอะไรที่เหมาะสม
-
เอ๊ะที่สาม เรากลับมาทบทวนสถานการณ์ในคลินิกหรือสถานการณ์การดูแลกลุ่มผู้ป่วยของเราว่า มาตรฐานการดูแลในปัจจุบันทำอย่างไร ทั้งเชิงโครงสร้าง กระบวนการและผลลัพธ์
-
เอ๊ะที่สี่ ทบทวนงานอีกครั้งว่า หน่วยงานแก้ปัญหาที่พบอย่างไร หน่วยงานอื่นที่ดูแลผู้ป่วยแบบเราทำอย่างไร แล้วไปหางานวิจัยที่เกี่ยวข้องว่า มีวิธีแก้ปัญหาที่เราพบกี่วิธี ผลลัพธ์ดีไหม หากเทียบกับสิ่งที่เราทำอยู่แต่ผลลัพธ์ยังไม่ได้ตามเป้าหมาย เรียกว่า ช่องว่างที่เราจะนำมาศึกษา หรือ gap research เราต้องกลับมาเลือกวิธีแก้ปัญหาให้เหมาะสมกับบริบทของเรา
-
เอ๊ะที่ 5 ตั้งคำถามอีกครั้ง เพื่อเหลาคำถาม ผ่าน PICOT
How to shape Research Question? ขั้นตอนนี้สำคัญ
เมื่อเอ๊ะครบ 5 ประเด็นแล้ว มาเหลาคำถามอีกรอบโดย
- เลือกปัญหาสำคัญ จากปัญหาที่มีทั้งหมดที่พบกับกลุ่มผู้ป่วยที่รับผิดชอบ P=problem and Patient
- เลือกวิธีการแก้ปัญหาที่น่าสนใจ ใหม่ และสร้างสรรค์ I=intervention
- เทียบกับวิธีการเดิมที่เคยทำ C= comparision
- เลือกวิธีประเมินหรือผลลัพธ์ที่สำคัญ วัดได้ชัดเจน O=outcome(process, nursing outcome)
- ช่วงเวลาที่ประเมินต้องระบุชัดเจน T=time
จากคำถามสู่โครงร่างการวิจัย
เมื่อแน่ใจว่าจะทำวิจัยประเด็นใด แล้วเราต้องเริ่มจาก
- ขนาดปัญหา และผลลัพธ์ที่ประเมินได้
- หาสาเหตุของปัญหา กลับไปค้นหางานวิจัยที่เกี่ยวข้อง เพื่อประเมินดูว่า สิ่งที่ทำอยู่เดิมทำอย่างไร ผลลัพธ์ถึงยังไม่ได้ตามเป้าหมาย หากทำแบบใหม่ ผลลัพธ์จะดีขึ้นหรือไม่ เป็นการหา research gap
- สรุปปัญหาอีกครั้ง เพื่อตั้งคำถามตาม PICOT
- ตั้งวัตถุประสงค์
- ออกแบบการวิจัย
- วัดผลลัพธ์ กระบวนการดีขึ้นไหมและยกระดับผลลัพธ์ได้หรือไม่
ออกแบบการวิจัยที่มีคุณภาพ
งานวิจัยที่ดีมาจากคำถามที่ดีและระเบียบวิจัยที่ดี ดำเนินการดี รายงานดีและนำไปใช้ประโยชน์ได้จริง
- งานวิจัยที่ดี กลุ่มวิจัยทดลอง เก็บข้อมูลไปข้างหน้า มีกลุ่มควบคุม
- หากมีงานวิจัยจำนวนมากเราสามารถนำผลวิจัยมาพัฒนาแนวทางปฏิบัติและติดตามผลลัพธ์ก็เป็นทางเลือกหนึ่ง
………………….
แก้ว บันทึก
28.11.2566