วันนี้ขอพาไปทำความเข้าใจหนังสือที่ตีพิมพ์เมื่อ เกือบสามร้อยปีก่อน ตั้งคำถามเรื่องความเข้าใจของมนุษย์ คือ An Enquiry Concerning Human Understanding (1748) เขียนโดย David Hume
เมื่อเกือบสามร้อยปีก่อน มนุษย์ในโลกตะวันตกก็ยังเชื่อในโชคลาง (เหมือนในบ้านเราสมัยนี้) ตกอยู่ใต้ผลประโยชน์ของวงการศาสนา เดวิด ฮูม นักปรัชญา เขียนหนังสือเล่มนี้เพื่อชี้ให้เห็นว่า คนเราต้องกล้าตั้งคำถามต่อความเข้าใจและความเชื่อของตนเอง โดยผมขอเสริมว่า ต้องรู้เท่าทันมายาคติที่ซ่อนอยู่ในสังคม ที่ซุ่มแสวงประโยชน์จากเราโดยเราไม่รู้ตัว ในเรื่องนี้ เวลาสามศตวรรษ สังคมโลกเปลี่ยนไปน้อยมาก เพียงแต่เปลี่ยนกลุ่มตัวละคร กลุ่มผลประโยชน์
นิสัยช่างสงสัย (skeptical) มีประโยชน์ ช่วยให้สงสัยว่า ทำไมหลักการหรือทฤษฎีที่ยึดถือต่อๆ กันมา จึงไม่ตรงกับประสบการณ์ของตน ผมชอบใจที่ ท่านบอกว่าความรู้ทั้งหมดมาจากประสบการณ์ ตรงกับความเชื่อในขณะนี้ของผมว่าคนเราสร้างความรู้ผ่านประสบการณ์ ด้วยการสังเกตแล้วสะท้อนคิด โดยคิดสู่การตกผลึกหลักการหรือทฤษฎี แล้วก็ยังสงสัยต่อว่าที่หลักการที่ตนตกผลึกนั้น จริงหรือไม่ จึงต้องเอาไปลองต่อ เวียนเป็นวงจรเช่นนี้ ในที่สุดเราก็จะค้นพบความรู้หรือทฤษฎีที่มาจากประสบการณ์ วงจรนี้เรียกว่า Kolb’s Experiential Learning Cycle เป็นวงจรที่นำสู่การคิดเหตุผลแบบอุปนัย
คำแนะนำสำคัญคือ จงกล้าคิดหลักการจากประสบการณ์ แต่จงถ่อมตนกับหลักการนั้น ด้วยการตั้งคำถามต่อความเข้าใจของตนเอง
วิจารณ์ พานิช
๒๒ ก.ค. ๖๖
ไม่มีความเห็น