GotoKnow

2. #Navillera ดั่งผีเสื้อร่ายระบำ

นภัสราพร เด่นพงศ์พันธุ์
เขียนเมื่อ 19 เมษายน 2023 10:26 น. ()
แก้ไขเมื่อ 19 เมษายน 2023 11:55 น. ()

Navillera  ดั่งผีเสื้อร่ายระบำ  12 Ep ซี่รี่ย์เกาหลี  “มิตรภาพระหว่างวัย  ร่วมก้าวไปสู่ความฝันอย่างไม่ย่อท้อ”

แปลงเวลาที่ใช้ดูละครเป็นเรื่องเล่าเร้าพลังเพื่อสร้างแรงบันดาลใจในการใช้ชีวิต

เรื่องย่อ

 “อีแชรก” (ซงคัง) ชายหนุ่มอายุ 23 ปี หนุ่มที่มีพรสวรรค์ด้านบัลเล่ต์แต่ต้องต่อสู้กับอุปสรรคในชีวิตและความจำเป็นในการหาเงิน   มุ่งมั่นสานฝันในการเป็นนักบัลเลต์ แต่โชคชะตาไม่เข้าข้าง เมื่อเขาประสบปัญหาชีวิต จำต้องพับเก็บความฝันนั้นไว้

 

 และ “ชิมด็อกชุล” (พัคอินฮวาน)   ชายวัย 70 ปีที่อยากทำตามความฝันอันยาวนานในวัยแก่ด้วยการไปเรียนบัลเล่ต์ในขณะที่ภาวะความเจ็บป่วยด้วยโรคสมองเสื่อมอัลไซเมอร์กำลังคืบคลานเข้ารู้สมองของเขาอย่างคาดการณ์ไม่ได้

 

 เมื่อทั้งสองมาพบกัน  ชายต่างวัยทั้ง 2 คนได้ก่อร่างสร้างมิตรภาพที่ดีต่อกันผ่านความพยายามในการทำตามความฝันของตนเองในการเต้นบัลเลต์  ท่ามกลางอุปสรรคจากภาวะเศรษฐกิจ  การหาเลี้ยงชีพ  สภาวะของร่างกายที่เสื่อมถอยและรุกรานในการดำรงชีวิตที่ไม่สามารถคาดเดาหรือหลีกเลี่ยงได้  

 นำโดย 4 นักแสดงนำ พัคอินฮวาน, ซงคัง, นามุนฮี, ฮงซึงฮี และผู้กำกับ ฮันดงฮวา ที่ผลัดกันแนะนำให้ได้รู้จัก ซีรีส์แสนอบอุ่นหัวใจ สร้างจากเว็บตูนชื่อเดียวกันนี้

อาชีพในบทละคร  นักเต้นบัลเล่ต์  บุรุษไปรษณีย์   โค้ชกีฬา ( ฟุตบอล  โค้ชบัลเลต์) บริกรเสิร์ฟอาหาร  นักจัดรายการวิทยุและทีมงานดำเนินงานรายการวิทยุ

ข้อคิดสำหรับการใช้ชีวิต

บริบทของละคร

หลายคนไม่สามารถทำงานที่ตัวเองรักได้  แต่เมื่อต้องทำงานแล้ว  สิ่งที่จะเป็นประโยชน์สูงสุดคือ การหาข้อดีของงานที่ทำเพื่อให้ได้เห็นโอกาสที่จะรักในงานนั้นและคว้าโอกาสนั้นไว้อย่างแท้จริง

บรรยากาศของการใช้ชีวิตของคนทำงานในเมืองหลวง ที่ต้องแข่งขันกับค่าครองชีพ เวลาและการสร้างครอบครัว  ทำให้หลงลืมความฝันในวัยเด็ก   ทุกๆอาชีพ   มีคุณค่าและต้องมีทักษะการทำงานขั้นพื้นฐานก่อนจะก้าวไปสู่การทำงานแบบมืออาชีพที่มีความเชี่ยวชาญ  นักเต้นบัลเล่ต์  บุรุษไปรษณีย์   โค้ชกีฬา ( ฟุตบอล  โค้ชบัลเลต์) บริกรเสิร์ฟอาหาร   นักจัดรายการวิทยุและทีมงานดำเนินงานรายการวิทยุ  อุปสรรคในการทำงานเกิดได้ทุกวันและมีช่วงเวลาที่เหมาะสมที่จะสอดรับกับวิธีแก้ปัญหาที่มาถึงในเวลาถูกต้อง  ส่งผลให้การแก้ปัญหานันได้รับผลลัพท์ที่สมบูรณ์  สร้างความสุขแก่ทุกคนที่เกี่ยวข้อง

 

ความเจ็บป่วยของผู้สูงอายุที่เกิดจากความเสื่อมของร่างกายหลังจากที่ใช้งานมานานมากกว่า  70 ปี   หลังเกษียณอายุการทำงาน  ความรู้สึกเหงาจากการอยู่บ้าน   ไม่ได้เผชิญกับภาวะตื่นเต้นเมื่อต้องวิ่งเพื่อเข้าทำงานไม่สาย  การไม่ได้รับความชื่นชม เคารพ นบนอบจากเพื่อๆ  น้องๆในที่ทำงานอีกต่อไปเพราะมีคนที่มีความสามารถเข่นเดียวกันนั้นมาทำงานแทน   ประกอบกับการปรากฏอาการของโรคต่างๆเมื่อเข้าสู่วัยชราที่เริ่มเรียงหน้ากระดานหรือแทบจะแข่งกันแซงหน้ามาเคาะที่ประตูร่างกายทุกครั้งที่มีการตรวจสุขภาพ  ต้องเข้าๆออกๆโรงพยาบาลทุก 2 วันบ้าง  ทุก 3 วันบ้าง  ต้องเสียค่าใช้จ่ายมหาศาลเพื่อรักษาอาการป่วยที่มากมายเหล่านั้น  ทั้งหมดทั้งมวลเหล่านี้คือปัจจัยมากมายที่รุมเร้าให้ผู้สูงอายุป่วยด้วยความเครียด  สามารถนำไปสู่โรคซึมเศร้าได้มากยิ่งขึ้น   ในขณะที่โรคอัลไซเมอร์เกิดจากความเสื่อมของสมองที่ส่งผลให้ลดการสร้างสารสื่อประสาทรับความรู้สึกต่างๆ จนเกิดอาการที่กระทบกับการทรงตัว   การเกร็งของกล้ามเนื้อ   การเคลื่อนไหวของร่างกาย ความจำ  การเชื่อมโยงตนเองกับผู้คนและสิ่งแวดล้อม ความสามารถในการมีปฏิสัมพันธ์กับบุคคลรอบข้าง   เป็นต้น 

ข้อคิด

  1.  ชื่นชมการให้ความรู้และแนวปฏิบัติตัวสำหรับผู้ป่วยโรคสมองเสื่อม ด้วยการจดบันทึกทุกสิ่ง ทุกอย่างที่จำได้ลงในสมุดบันทึก   รวมถึงการถ่ายทอดอาการและการพฤติกรรมของผู้ป่วย ซึ่งเป็นประโยชน์แก่ผู้ชมที่สามารถนำไปบอกต่อแก่ญาติผู้ป่วย   รวมทั้งผู้ป่วยเองในระยะเริ่มต้นที่มีอาการของโรคที่ยังไม่เสถียร  ตลอดจนการให้ความรู้ของพัฒนาการของโรคที่ไม่เป็นลำดับขั้น  จึงเป็นข้อเตือนใจแก่ญาติที่จะต้องทราบสภาวะของโรคให้เร็วที่สุดเพื่อป้องกันอุบัติเหตุอันตรายร้ายแรงอื่นๆอาจจะจะเป็นสาเหตุให้ผู้ป่วยเสียชีวิตโดยไม่คาดคิดได้  
  2. การบาดเจ็บจากการฝึกฝนกีฬาเป็นธรรมชาติ  ทั้งเด็ก ผู้ใหญ่ และคนแก่  ต่างก็มีข้อจำกัดของร่างกาย  เพียงแต่ยอมรับ เข้าใจสภาพร่างกาย  ดูแล   เฝ้าระวัง ทะนุถนอม  และ ฝึกฝนอย่างเหมาะสมภายใต้คำแนะนำของ  “ครู”  หรือ   “โค้ช”  ผู้เคยผ่านประสบการณ์จริงมาก่อน อย่างเคร่งครัด 
  3. หากรอให้พร้อม วันนั้นก็จะมาไม่ถึง และเราคงไม่มีโอกาสได้ทำอะไรสักทีเพราะทุกๆวัน ความสมบูรณ์ไม่เคยมาถึง   ดังนั้น  การเริ่มตันฝึกฝนทันทีครั้งละนิดด้วยความเพียรและมีสติ จะทำให้เกิดการสะสมความชำนาญ   ดังนั้น  พรสวรรค์เป็นสิ่งสำคัญ  ในขณะเดียวกกัน “พรแสวงเป็นสิ่งจำเป็น”   หรือ ไม่สามารถ “ขาด” ได้นั่นเอง   ตัวละครเอกทั้งสอง  ได้ถ่ายทอด “Attribute” หรือ คุณลักษณะของบุคคล ในประเด็น   ความขยันหมั่นเพียร  ความมีวินัย ที่เป็นสมรรถนะ(Competency) ที่มักจะมีในบุคคลที่ประสบความสำเร็จเสมอ  
    (ผู้แสดงนำ ชงคัง   ทุ่มเทการฝึกฝนบัลเลต์ถึง 6 เดือนเพื่อให้เข้าถึงบทบาทของนักบัลเลต์อย่างน่าชื่นชม  ทั้งนี้ หากมีการอธิบายรายละเอียของท่าเต็นในหน้าจอเมื่อกล่าวถึงคำศัพท์เฉพาะของบัลเลต์จะทำให้ผู้ชมเข้าถึงบทบาทของตัวละครที่สมบูรณ์มากยิ่งขึ้น  ในชณะที่ พัคอินฮวาน ผู้แสดงนำชายสูงวัย   ฝีนร่างกายในวัย 70 ปีฝึกบัลเลต์ด้วยชุดความคิดเจริญเติบโต  หรือ   Growth   Mindset  ที่เปิดโอกาสให้เราได้เชื้อเชิญความเป็นไปได้ในความสำเร็จเข้ามาในการกระทำของเราในตลอดระยะทางของการฝึกฝน   ซึ่งชุดความคิดนี้เป็นทักษะที่สามารถฝึกฝนเพื่อรองรับสถานการณ์โลกที่มีการเปลี่ยนแปลงและผันผวนอย่างรุนแรงที่มีความซับซ้อนและไม่สามารถคาดเดาเหตุการณ์ได้   ซึ่งเป็นคุณลักษณะเด่นของคนทำงานที่จะประสบความสำเร็จในการทำงานในศตวรรษที่ ๒๑ และศตวรรษ ถัดๆไป                                                                                                  บทบาทในเรื่อง  ชายหนุ่ม สะท้อนการถูกบังคับอย่างเคร่งครัดให้เล่นฟุตบอลมานานกว่า  13 ปีแต่ไม่มีความสุขและชื่นชอบในการเล่นแต่อย่างใด  จนกระทั่งพ่อที่มีฐานะโค้ชมีคดีความในการทำร้ายลูกศิษย์ในทีมจนต้องติดคุก และเขาต้องสูญเสียแม่ในเวลาเดียวกัน   ชายหนุ่มนิยามว่าเป็นช่วงตกต่ำที่สุดของชีวิต ต้องเริ่มต้นทำงานหาเงินเลี้ยงตัวเองด้วยงาน  Partime และตามหาความฝันในการฝึกบัลเลต์กับครูที่มองเห็นพรสวรรค์ของเขาโดยไม่มีค่าใช้จ่าย  ณ จุดนี้ คือ การไม่จมปลักกับความเสียใจและติดยึดความสำเร็จหรือความพร้อมในอดีต  ลุกขึ้นเดินหน้าต่ออย่างมั่นใจในความสามารถและมีความพยายามอย่างต่อเนื่อง  การเคารพในความสามารถตัวเอง  เชื่อมั่นในความถูกต้อง และยืนหยัดในความเสมอภาคในสิทธิของตนเอง เชื่อมั่นในความฝันของตนเอง
  4. การให้ความศรัทธาและเชื่อมั่นในโค้ชหรือครู  เป็นการสร้างพลังใจที่ดีแก่ครู  ในขณะเดียวกันการให้ความรัก ความช่วยเหลือ   และนำประสบการณ์ในอดีตมาช่วยเหลือครู   จึงเป็นการรวมพลัง “Synergy”  ที่ 1+1 >2  เป็นการสื่อถึงการใช้จุดแข็งมาสร้างความได้เปรียบเพื่อแก้ปัญหาและบูรณาการด้วยการยึด “ความเมตตา” อย่างจริงใจ
  5. การทำหน้าที่ของตนเองในบทบาทของเพื่อนร่วมงาน  สมาชิกของครอบครัว  และประชาชนของสังคม  การอยู่ในวินัย และเคารพในความแตกต่างระหว่างบุคคล   การปฏิบัติต่อเพื่อนมนุษย์ใน “ฐานะมนุษย์”  ที่มีความเท่าเทียมกัน   เป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องแสดงออกและกล่าวคำขอโทษหรือเสียใจอย่างจริงใจเมื่อการกระทำใดๆที่เป็นการละเมิดสิทธิ์ของผู้อื่นแม้คู่กรณีจะเป็นเด็กหรือลูก หรือลูกศิษย์ก็ตาม
  6. การกล่าวคำขอบคุณผู้อื่น  หรือ กล่าวชื่นชมในสิ่งที่ผู้อื่นทำให้ คือการกระตุ้นให้เกิดการหลั่งสารแห่งความสุขโดพามีน ซึ่งเป็นช่วงขณะที่ผู้พูดมีความรัก ปิติ และเป็นสุข  ดังนั้น   การกล่าวขอบคุณตัวเองอย่างจริงใจทกวันเป็นการหลอกสมองให้หลั่งสารแห่งความสุข  เป็นหนึ่งในการฝึกสมองให้มีความเคยชินในการหลั่งสารเหล่านี้  การหาโอกาส ปรารภเหตุ เพื่อกล่าวขอบคุณจำเป็นต้องเริ่มต้นจากการสร้างความเมตตา  การให้ความรัก  ศรัทธาและการเชื่อมั่นในบุคคลนั้น   และหมายรวมถึงการได้ฝึกทักษะการมีปฏิสัมพันธ์กับผู้คนในสังคมด้วย.
  7. การรัก  ทุ่มเท ลุ่มหลง ในกีฬาหรือกิจกรรมที่รัก  คือ การมี Passion ที่จูงใจให้ไปสู่เป้าหมาย  โดยระหว่างการเดินทางไปสู่เป้าหมาย  เราสามารถทำสิ่งนั้นอย่างลื่นไหล ( Flow)   มีวินาทีแห่งความปิติสุข  นั่นคือ การมี “อิคิไก” ในตัวเอง  และระลึกเสมอว่า   “ความฝันไม่มีวันหมดอายุ  มีแรง   มีความฝัน มีโอกาสมีเวลา  จะทำอะไรก็รีบทำ
  8. ขอบคุณภาพจาก      https://entertainment.trueid.net/detail/4oXJNRePnZ8A
  9. https://moviedoohd.com/series/navillera-2021/
  10. https://www.korseries.com/synopsis-navillera-2021/
  11. https://thestandard.co/navillera/

 

สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการ


ความเห็น

ยังไม่มีความเห็น

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท
ภาษาปิยะธอน (Piyathon)
เขียนโค้ดไพทอนได้ด้วยภาษาไทย