ลำเต้ย


องค์ประกอบทางวรรณกรรมของลำเต้ย ลำเต้ยแบ่งออกเป็นสี่ทำนองได้แก่เต้ยธรรมดา เต้ยหัวโนนตาล เต้ยโขงและเต้ยพม่า ลำเต้ยทั้งสี่ประเภทนี้สามารถจัดกลุ่มตามภาษาที่ใช้เป็นสองกลุ่ม คือ กลุ่มลำเต้ยที่ใช้ภาษาถิ่นอีสาน ได้แก่ เต้ยธรรมดา และเต้ยหัวโนนตาล กลุ่มลำเต้ยที่ใช้ภาษาไทยภาคกลาง ได้แก่ เต้ยโขง และเต้ยพม่า ลำเต้ยกลุ่มที่ใช้ภาษาถิ่นอีสานมีรูปแบบคำประพันธ์สามลักษณะ คือ รูปแบบกลอนเญิ้น รูปแบบกลอนเญิ้นไร้สัมผัส และ รูปแบบกาพย์ (กาบ) ส่วนสัมผัสในของกลอนลำเต้ยทั้งสองกลุ่มมีสองลักษณะ คือ สัมผัสสระและสัมผัส พยัญชนะ ลำเต้ยมีการใช้ภาษาสองลักษณะ คือ ภาษาถิ่นอีสานและภาษาไทยภาคกลาง ลำเต้ยมีเนื้อหาแบ่งเป็นเจ็ดกลุ่ม ได้แก่ การเกี้ยวพาราสีโดยตรง การล้อเลียนหมอลำฝ่ายตรงกันข้าม การเสียดสีสังคม การสอนชาย-หญิงการเชิญชวนไปท่องเที่ยวภาคอีสาน การอำลา, อวยพรและลำเต้ยเบ็ดเตล็ด ลำเต้ยทั้งเจ็ดกลุ่มนี้ สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของชาวอีสานในด้านขนบธรรมเนียมประเพณีค่านิยม ความเชื่อ การประกอบอาชีพ การทำมาหากิน และอาหารการกิน องค์ประกอบทางดนตรีของลำเต้ย ลำเต้ยมี 4 ทำนอง คือ ทำนองเต้ยธรรมดาทำนองเต้ยหัวโนนตาล ทำนองเต้ยโขง และทำนองเต้ยพม่า ด้านจังหวะลีลา (RHYTHM) เต้ยธรรมดาและเต้ยหัวโนนตาล รูปแบบกลอนเญิ้นเต็มทั้ง 2 วรรค จะมี 16 จังหวะเกิดจากจังหวะสั้นยาว, ระดับเสียงสูงต่ำของถ้อยคำและความพอใจของหมอลำ เต้ยพม่ามี 16 จังหวะ เต้ยโขงมี 10 จังหวะ ลักษณะการประสานทำนอง (TEXTURE) แบ่งเป็นสองระดับ คือลักษณะการประสานทำนองของเสียงแคนและลักษณะการประสานทำนองระหว่างเสียงลำกับเสียงแคน ซึ่งแคนอาจจะเป่าประสานเป็นทำนองเดียวกันกับทำนองลำหรือแคนอาจจะเป่าประสานต่างไปจากทำนองลำ คีตลักษณ์ (FORM) มีสามลักษณะ คือ คีตลักษณ์ที่ถือเอาเพศของหมอลำฝ่ายชายและหมอลำฝ่ายหญิงเป็นหลัก คีตลักษณ์ที่ถือเอาการผสมผสานระหว่างทำนองลำเป็นหลักและคีตลักษณ์ของกลอนลำแต่ละทำนอง กระแสเสียง (TONE COLOUR)ของลำเต้ยเกิดจากเสียงแคนและ เสียงลำ กระแสเสียงที่ไพเราะนั้น เสียงแคนและเสียงลำจะต้องประสานกันอย่างกลมกลืน ที่เรียกว่า กล่อมกัน

ลำเต้ย

 

ลำเต้ย

ดร.ถวิล  อรัญเวศ

     เต้ย (Toey)

    คำกริยา

ก.           ดียิ่ง, เข้าใจว่ามาจาก โต่ย ในคำจีน แปลว่าแข็ง, เก่งกาจ.

        องค์ประกอบทางวรรณกรรมของลำเต้ย ลำเต้ยแบ่งออกเป็นสี่ทำนองได้แก่เต้ยธรรมดา ฅ
เต้ยหัวโนนตาล เต้ยโขงและเต้ยพม่า

        ลำเต้ยทั้งสี่ประเภทนี้สามารถจัดกลุ่มตามภาษาที่ใช้เป็นสองกลุ่ม คือ

        กลุ่มลำเต้ยที่ใช้ภาษาถิ่นอีสาน ได้แก่ เต้ยธรรมดา และเต้ยหัวโนนตาล

 

        กลุ่มลำเต้ยที่ใช้ภาษาไทยภาคกลาง ได้แก่ เต้ยโขง และเต้ยพม่า

        ลำเต้ยกลุ่มที่ใช้ภาษาถิ่นอีสานมีรูปแบบคำประพันธ์สามลักษณะ คือ

        รูปแบบกลอนเญิ้น

        รูปแบบกลอนเญิ้นไร้สัมผัส และ

        รูปแบบกาพย์ (กาบ)

        ส่วนสัมผัสในของกลอนลำเต้ยทั้งสองกลุ่มมีสองลักษณะ คือ สัมผัสสระและสัมผัส

พยัญชนะ

       ลำเต้ยมีการใช้ภาษาสองลักษณะ คือ ภาษาถิ่นอีสานและภาษาไทยภาคกลาง

         ลำเต้ยมีเนื้อหาแบ่งเป็นเจ็ดกลุ่ม ได้แก่ การเกี้ยวพาราสีโดยตรง การล้อเลียนหมอลำฝ่ายตรงกันข้าม การเสียดสีสังคม การสอนชาย-หญิงการเชิญชวนไปท่องเที่ยวภาคอีสาน การอำลา, อวยพรและลำเต้ยเบ็ดเตล็ด

         ลำเต้ยทั้งเจ็ดกลุ่มนี้ สะท้อนให้เห็นสภาพความเป็นอยู่ของชาวอีสานในด้านขนบธรรมเนียมประเพณีค่านิยม ความเชื่อการประกอบอาชีพ การทำมาหากิน และอาหารการกิน

      องค์ประกอบทางดนตรีของลำเต้ย

ลำเต้ยมี 4 ทำนอง คือ ทำนองเต้ยธรรมดาทำนองเต้ยหัวโนนตาล ทำนองเต้ยโขง และทำนองเต้ยพม่า ด้านจังหวะลีลา (RHYTHM)

เต้ยธรรมดาและเต้ยหัวโนนตาล รูปแบบกลอนเญิ้นเต็มทั้ง 2 วรรค จะมี 16 จังหวะเกิดจากจังหวะสั้นยาว, ระดับเสียงสูงต่ำของถ้อยคำและความพอใจของหมอลำ เต้ยพม่ามี 16 จังหวะ

เต้ยโขงมี 10 จังหวะ ลักษณะการประสานทำนอง (TEXTURE) แบ่งเป็นสองระดับ คือลักษณะการประสานทำนองของเสียงแคนและลักษณะการประสานทำนองระหว่างเสียงลำกับเสียงแคน ซึ่งแคนอาจจะเป่าประสานเป็นทำนองเดียวกันกับทำนองลำหรือแคนอาจจะเป่าประสานต่างไปจากทำนองลำ คีตลักษณ์ (FORM) มีสามลักษณะ คือ คีตลักษณ์ที่ถือเอาเพศของหมอลำฝ่ายชายและหมอลำฝ่ายหญิงเป็นหลัก คีตลักษณ์ที่ถือเอาการผสมผสานระหว่างทำนองลำเป็นหลักและคีตลักษณ์ของกลอนลำแต่ละทำนอง กระแสเสียง (TONE COLOUR)ของลำเต้ยเกิดจากเสียงแคนและเสียงลำ กระแสเสียงที่ไพเราะนั้น เสียงแคนและเสียงลำจะต้องประสานกันอย่างกลมกลืน ที่เรียกว่า กล่อมกัน

      ตัวอย่างลำเต้ย  (กาฬสินธุ์)

https://youtu.be/9xTQ734C61g

 

 

โอ๋ยพี่หมอลำ

จั่งว่าลำ ทางสั้น

ละผู้หันลงมานั้นเจ้าทางล่อง

ลำล่องพี่นั้นยังบ่แล้ว

การเต้ยแม่นจ้นมา

จั่งว่าเหลียว เห็นหน้า

ละภาษาหน่วยตาล่ะพระเจ้ารูปเด่น

พระจันทร์วันเพ็ญหน่วยใสส่องแจ้ง

แงงแล้วเปิด บ่เป็น

เยี่ยวตาเหลียวเห็นคนโก้อ

  

อยากขอเมือโชว์บ้านอิแม่

เจ้าขึ้นรถยนต์นั้นแม่นแห่ป้าย

เมือบ้านแม่ย่าเฮา

เจ้าผู้แนว นำแก้ว

อยากขอนำแนวนั้นเมือ ให้พ่อ

ต๋อหลอ ใภ้สุ่มให้สั่งเจ้า

สั่งเจ้าโอ้ยสั่งเจ้าสั่งเจ้า

ผู้สาวเว้า เจ้าอย่าเสย

เมือเป็นเขย ทางบ้าน

ทางหนองไหลคำนั้นสิได้บ่

ไปเป็นเขยทางพ่อ แม่น้อง

ทางบ้าน ว่าจั่งได๋

  

ขอกอดเด้น่าคนไคนี่นา

ล่ะนาคนไคนี่น่า

หางตาเจ้าสักกะไม้ไล่

หางตาเจ้าสักกะไม้ไล่

ฉันอยากเป็นใภ้

พ่อแม่เจ้าเด้

คั่นผมเจ้าเพ กลางเอ๋ย

คั่นผมเจ้าเพ เจ้ากลางเอ่ย

กลางเอ่ย กลางเอ่ย เจ้ากลางเอ้ย............

  

จะให้ฉันง้อคุณหรือ

จะให้ฉันง้อคุณหรือ

ก็โลกเขาลือว่าคุณมีเมีย

จะให้ฉันนี้ คลอเคลีย

อยู่กับคุณ ทำไม

น้องฉันนี่เชื่อ ไม่ไหว

ก็แสนที่ใจชอบมาลวงล้อ

ในคำผะเหนา พะนอ

ฉันนี้ขอบอกว่าพอกันที

ฉันนี้ขอบอกล่ะว่าพอกันที  

ผู้หญิงหลงลมก็เพราะคารมผู้ชายนั้นหวาน  

ผู้หญิงหลงลมก็เพราะคารมผู้ชายนั้นหวาน
หลอกลวงที่หน้าบานบาน

  

หลอกลวงที่หน้าบานบาน  

โธ่หวานน้ำตาลก็ยังไม่เท่า

หวานหวานน้ำตาลก็ยัง ไม่เท่า

หลอกเอาหลอกเอาเจ้าพูดไม่จริง

หลอกเอาเจ้าพูดไม่จริง  

ตั๋วให้หญิงหลงหล่ม

ตกสนม วังยาง

เป็นแม่ฮ้าง หลายเทื่อ

ซาดที่แนวดอกเดื่อ

มันบ่หวานนั้นล่ะแม่นอยู่ต้น

คั่นอี่น้อง บ่เจ้าทน  

กกกุงละมันมีหลายก้าน

กกตาลมันมีหลายง่า

สัจจาอี่น้องได้ว่าแล้ว

ว่าแล้วโอ้ยว่าแล้ว ว่าแล้ว

สิมายม้างบ่เป็นนั้น  ล่ะนา

พี่ชายนา ล่ะน่าพี่ชายนา

โอ้ยขอให้ วาจาต้าน  

ล่ะโอ้ยขอให้วา ดอกจาต้าน..............

 

 

สัจจาหญิง (ชาย) ต่างกันอย่างไร

 

พี่ฮักน้องมาแต่ดนนาน

ตั้งแต่หนองหาน ยังบ่ทันหล่ม

มาส่างเว้า เอาน้ำตาลมาจ่ม

ตั้งแต่ธาตุพนม ยังบ่ทันก่อ

หวานแท้น้อ หวานแท้หนอ…

หัวใจน้องมีสี่ห้อง

ให้พี่เข้าครอง สู่ห้องสิเอาบ่

คันบ่เอาอย่าเว้าคือหมากส้มมอ

คันบ่เอาอย่าเว้าคือหมากส้มมอ

บ่แม่นเชื้อชาติอ้อย กินได้กะบ่หวาน

 

พี่ฮักน้องย่องบุญบ่เทียม

ว่าจนว่าเจียม เป็นบ่าวต่างบ้าน

พี่อย่าย่องน้องบ่สูงคือต้นตาล

น้องคอยถ่าดนนาน อย่าช้าหลายเด้อ

เด้ออ้ายเด้อ เด้ออ้ายเด้อ………

 

หนาวคล้อยน้องคอยพี่มา

ตามคำสัญญาคอยถ่าใต้ต้นเวอ 

คันบ่มักแม่นบ่ฮักกะส่างเด้อ

คันบ่มักแม่นบ่ฮักกะส่างเด้อ

เอ้อ หนุ่มรูปหล่อหล่อ ง้อน้องกะแฮ่งหลาย

น้องฮักพี่ตั้งแต่ดนนาน

ตั้งแต่ภูพาน ยังเป็นดินทราย

น้องฮักพี่นี้อีหลีหลายหลาย

ตั้งแต่เว้านิยาย ผาแดงนางไอ่

ผาแดงพี่ น้องนางไอ่

 

สัจจาหญิงเฮาเว้าพื้น

คือหินหนักหมื่นล่องน้ำกะบ่ไหล

อันสัจจาผู้ชายนี้เป็นจังใด๋

อันสัจจาผู้ชายนี้เป็นจังใด๋

ไผมาส่างสิฮู้ ใจพี่สิส่องเห็น

 

สัจจาหญิงเฮาเว้าพื้น

คือหินหนักหมื่นล่องน้ำกะบ่ไหล

อันสัจจาผู้ชายนี้เป็นจังใด๋

อันสัจจาผู้ชายนี้เป็นจังใด๋

ไผมาส่างสิฮู้ ใจพี่สิส่องเห็น

 

 

ฮักสาวติ๊กต็อก

https://youtu.be/0y_IAqa4d4M

 

 

ขอเป็นผัวน้อยได้บ่

ขอเป็นผัวน้อยได้บ่

มาสวยแท้น้อ แม่สาวติ๊กต็อก

ได้เห็นอยากใส่หมวกกันน็อก

กับสาวติ๊กต็อก สิได้บ่หล่า

โอ้ยวาสนาสิได้บ่นา

ได้มาเห็น เรือนร่าง

สาวเอ้ยนางมาเต้นติ๊กต็อก

อยากไปล็อก นอละแม้นตัวเจ้า

เอาเข่าแนละแม่นบอนนอน

ให้นางเต้น นางฟ้อน

ให้นางฮอน ให้สุขใจ

ตามสบาย เลยคำ

นางทำ โอ้ยดีแล้ว

จนผู้ชาย กัดแข่ว

จงจงแอวโอ้ยแข็งแล้วอ่อน

ชุดของนาง กะฮัดดีอ้อนต้อน

ให้มาท่อน มาท่อนอยู่บ่อนจังไหล

โอ้ยท่ายใหญ่ ๆ ท้ายใหญ่ ๆ

แฟนไหวนออุ่น

วางสีนูน ๆ ของไผเด ของไผ เด เด……..

  

โอเค แม่สาวติ๊กต็อก

เหมือนมวยถูกน็อก

เห็นสาวติ๊กต็อกเซลฟี่

วานนาสวรรค์ เธอนั้นหุ่นดีดี

วานนาสวรรค์ เธอนั้นหุ่นดีดี

ติ๊กต็อกเซลฟี่ สวยอีหลีสาวติ๊กต็อก

กะหนุ่มเอฟซี ขอบอก

สาวติ๊กต็อกน้องสวยเอาดี

กดไลค์มาว่าฮักนางเต็มที

โอยคนดี คนดีอย่าบล็อกไลค์

โอยชอบบ่หน่าย ชอบ บ่หน่าย

โอยมักหลายทันที

ขอเดอคนดีอย่าบล็อกอ้าย

ขอเดอคนดีอย่าบล็กอ้าย.................

 

 

 

 

คำสำคัญ (Tags): #ลำเต้ย
หมายเลขบันทึก: 711806เขียนเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2023 02:27 น. ()แก้ไขเมื่อ 28 กุมภาพันธ์ 2023 02:32 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (0)

ไม่มีความเห็น

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท