๑๗๗. เส้นทางสุดท้าย.....


   พอไม่มีทางออก ก็เหมือนเป็นเส้นทางสุดท้ายที่จะต้องค่อยๆเดินอย่างระมัดระวัง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ประมาท พาตัวเองตกหลุมตกร่อง มันจะกลายเป็นการบาดเจ็บที่ทรมานใจ

          เมื่อเห็นเขาเกษียณอายุราชการ ความทะยานอยากก็พุ่งขึ้นมาจับขั้วหัวใจ อยากจะเดินจากไปเหมือนพวกเขาบ้าง จริงๆไม่ได้อิจฉา แต่ในส่วนลึกมันเรียกร้องมานานแล้ว

          การตัดสินใจที่ไม่เด็ดขาด ความกล้าหาญที่ไม่มากพอ ก็ต้องทนอยู่ต่อไป ในแบบที่ไม่ได้มองว่าโลกสวย แต่การที่ไม่มีทรัพย์สมบัติที่เป็นมรดกแต่อย่างใด ก็ต้องก้าวต่อไป เพื่อการหาเลี้ยงชีวิต

          อีก ๒ เดือนจะอายุ ๖๐ ปี สิ่งนี้ก็มีส่วนลดทอนแรงบันดาลใจ เหมือนว่าจะแก่เกินไปแล้ว ทั้งที่ใครต่อใครก็เรียกว่าลุงมาเนิ่นนาน ตอนนั้นรู้สึกว่ามันไม่ใช่ แต่ตอนนี้ชัดเจนมากเหลือเกิน

          นับจากวันนี้จนถึง ๓๐ กันยายน ๒๕๖๖ ตลอด ๑ ปีที่จะต้องอยู่ในระบบราชการ ทำงานการศึกษา ที่คุ้นชินและสุดแสนจะเบื่อหน่าย เวียนว่ายอยู่แต่เรื่องเดิมๆ 

          พอไม่มีทางออก ก็เหมือนเป็นเส้นทางสุดท้ายที่จะต้องค่อยๆเดินอย่างระมัดระวัง พยายามอย่างยิ่งที่จะไม่ประมาท พาตัวเองตกหลุมตกร่อง มันจะกลายเป็นการบาดเจ็บที่ทรมานใจ

          อย่ากระนั้นเลย ต้องตั้งเข็มทิศ ปรับจิตปรับใจ ปักธงแห่งอุดมการณ์ใหม่ให้ชัดเจน โดยการเลือกปฏิบัติให้มากที่สุด มองตัวเองเป็นสำคัญ ให้ความสำคัญกับตัวเอง คือต้องเห็นแก่ตัวแล้ว

          จากการเป็นผู้อำนวยการโรงเรียนที่ปฏิบัติหน้าที่หลากหลาย ใครก็ชื่นชมว่าเป็น “ผอ.คนเก่ง” ตอนนี้ไม่หลงเหลือความเก่งแล้ว ถ่ายทอดให้ครูไปหมดสิ้น ครูก็ต้องบริหารจัดการกันเองบ้าง

          โรงเรียนไม่ได้เป็นของ ผอ.คนเดียว...อย่างน้อยก็ซักซ้อมไว้ไม่ให้ยึดติด ไม่ต้องยึดมั่นถือมั่น นี่แหละ.. พื้นฐานเบื้องต้นของการปล่อยวางในเส้นทางที่สวยงาม....

          แต่ก็ใช่ว่าจะสันโดษ หรือโดดเดี่ยวเดียวดายเสียทีเดียว มันจะกลายเป็นกินแรงเพื่อนร่วมงาน หรือเอาเปรียบองค์กรภาครัฐ เป็นกาฝากเอารัดเอาเปรียบสังคม

          งานการเรียนการสอน หรืองานวิชาการที่เป็นเรื่องสำคัญและยากที่สุด ที่จะต้องไขว่คว้าหามาทำ เป็นเสมือนไม้เท้าค้ำยันให้ดูสง่างาม เวลาเดินเข้าสู่เส้นชัยวัยเกษียณ

          คือการทำให้นักเรียนชั้น ป.๑ – ป.๓ อ่านคล่องเขียนคล่องและลายมือสวย เพื่อส่งต่อไปยังชั้นประถมศึกษาตอนปลาย ให้ครูและนักเรียน แลกเปลี่ยนเรียนรู้กันได้อย่างมีความสุข

          อีกทั้งเป็นเรื่องของการสมนาคุณผู้ปกครอง ที่ช่วยเกื้อหนุนจุนเจือ มีน้ำใจไมตรีอันดียิ่ง ตลอด ๑๗ ปี ที่ใช้ชีวิตอยู่ในบ้านหลังเล็กนี้ จึงขอตอบแทนด้วยการสอนลูกหลานเขาให้เต็มที่

          นี่คือ..ภารกิจเดียว..ที่คิดได้ว่าต้องทำให้สำเร็จ ทำด้วยความจริงจังตั้งใจ ในแบบที่ไม่ต้องการอะไรมากมาย นอกจาก”เนื้อนาบุญ”ติดตัวไปเป็นกุศล เมื่อหลุดพ้นชีวิตราชการไปแล้ว

          ต่อจากวันนี้เป็นต้นไป เหมือนว่าจะต้องคิดใหม่ทำใหม่ เลือกทำงานตามกำลังความรู้ความสามารถและความถนัด ขณะเดียวกันการรักษาสุขภาพร่างกายและจิตใจ เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ละเลยไม่ได้แม้แต่น้อย จึงต้องให้คำมั่นสัญญาใจที่จะดูแลตัวเอง อย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนเลย

          ท้ายที่สุด คงไม่ลืมเลือนเรื่องของนันทนาการแห่งชีวิตประจำวัน ที่จะต้องสร้างสรรค์สิ่งดีงามให้เจริญตาเจริญใจ โดยไม่หวังผลกำไรที่ “โคกหนองนา” นี่คือภาพที่สวยงามจับต้องได้ ที่อยู่ในระหว่างทางของเส้นทางสุดท้ายที่เหลืออยู่ในช่วง ๑ ปีนี้

          นับว่าโชคดี ถึงแม้จะไม่มีทางเลือกให้เดินมากนัก แต่ก็ยังรักที่จะเดินในเส้นทางสั้นๆนี้..อย่างมีความสุข.....

ชยันต์ เพชรศรีจันทร์

๓๐  กันยายน  ๒๕๖๕

     

    

 

หมายเลขบันทึก: 708095เขียนเมื่อ 30 กันยายน 2022 21:21 น. ()แก้ไขเมื่อ 30 กันยายน 2022 21:33 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

อยู่ ๑ วัน พัฒนา ๑ วัน

อยู่ ๑๐ วัน พัฒนา ๑๐ วัน

ท่าน ผอ. ;)…

อนุญาตให้แสดงความเห็นได้เฉพาะสมาชิก
พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท