“ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์”
“ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์” (อังกฤษ: Floyd Mayweather, Jr.) ยอดนักมวยสากลชาวอเมริกันผู้เป็นเจ้าตำแหน่งแชมเปียนโลก 5 รุ่น และมีสถิติที่ยังไม่เคยแพ้หรือเสมอแก่ใคร เป็นอดีตแชมป์โลก สภามวยโลก (WBC), สมาคมมวยโลก (WBA) รวมถึงของนิตยสารเดอะริง และซูเปอร์แชมป์สมาคมมวยโลก (WBA)
*ประวัติ
ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ มีชื่อเต็มว่า ฟลอยด์ จอย เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ (Floyd Joy Mayweather, Jr.)
-เกิดเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2520 ที่เมืองแกรนด์ราปิด รัฐมิชิแกน โดยมีชื่อเดิมแต่แรกเกิดว่า ฟลอยด์ จอย ซินแคลร์ (Floyd Joy Sinclair) -ซึ่งนับได้ว่าถือกำเนิดในครอบครัวนักมวย เพราะทั้งบิดา คือ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ ซีเนียร์ และ โรเจอร์ เมย์เวทเธอร์ ผู้ซึ่งเป็นลุง เป็นนักมวยเก่ามาก่อน โดยเฉพาะโรเจอร์นั้น เคยเป็นอดีตแชมป์โลกในรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวทและรุ่นซูเปอร์ไลท์เวทในยุคทศวรรษที่ 80 และเคยชกกับ ฆูลิโอ เซซาร์ ชาเบซ ยอดตำนานมวยแห่งเม็กซิโกมาแล้วด้วย
-เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เริ่มต้นจากการชกมวยจากมวยสากลสมัครเล่น โดยมี โรเจอร์ ผู้เป็นลุงเป็นเทรนเนอร์ ซึ่งชกได้ดี ประสบความสำเร็จอย่างมาก จนกระทั่งได้ติดทีมชาติสหรัฐอเมริกาในการแข่งขันโอลิมปิกฤดูร้อน ปี 1996 ที่เมืองแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย โดยชกรุ่นเฟเธอร์เวท โดยสามารถผ่านคู่ชกชาติต่าง ๆ จนกระทั่งถึงรอบรองชนะเลิศที่พบกับ เซราฟิม โทโดรอฟ นักมวยชาวบัลแกเรีย ปรากฏว่าเมย์เวทเธอร์นั้นเป็นฝ่ายแพ้แก่โทโดรอฟไป 8-10 หมัด ทำให้ได้แค่เหรียญทองแดง (ต่อมาในรอบชิงชนะเลิศ โทโดรอฟ คือคู่ชิงของ สมรักษ์ คำสิงห์ นักมวยชาวไทย และเป็นฝ่ายแพ้แก่สมรักษ์)
*ซึ่งเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ไม่ยอมรับผลการตัดสิน และประท้วงด้วยการแสดงออกด้วยก้มหน้าตลอดเวลาในพิธีมอบเหรียญรางวัล
ยอดนักมวยสากล[แก้]
(ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ในการชกกับ ฆวน มานูเอล มาร์เกซ ในวันที่ 19 กันยายน พ.ศ. 2552 ที่เอ็มจีเอ็มแกรนด์ ลาสเวกัส)
-จากนั้น เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ก็หันมาชกมวยสากลอาชีพ โดยมีโรเจอร์เป็นเทรนเนอร์ ซึ่งเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ มีสถิติชนะรวดถึง 17 ครั้ง เป็นการชนะน็อกและทีเคโอถึง 13 ครั้ง ก่อนที่จะชึ้นชิงแชมป์โลกครั้งแรกของ WBC ในรุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท กับ เจนาโร เฮอร์นันเดซ นักมวยชาวอเมริกันเชื้อสายเม็กซิกัน ผลการชกปรากฏว่าเป็นเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ที่เป็นฝ่ายเอาชนะอาร์ทีดีเฮอร์นันเดซ ซึ่งเป็นนักมวยอดีตแชมป์โลกในรุ่นเดียวกันนี้ และเป็นนักมวยประสบการณ์สูงกว่าไปได้ในยกที่ 8 จากนั้นเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ก็ป้องกันตำแหน่งไว้ได้อีกหลายครั้ง
เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยังคงขยับรุ่นขึ้นไปชกในรุ่นซูเปอร์ไลท์เวท, เวลเตอร์เวท และซูเปอร์เวลเตอร์เวท ซึ่งก็สามารถคว้าแชมป์โลกมาได้ทุกรุ่น จนกลายเป็นแชมป์โลกถึง 5 รุ่นด้วยกัน ทั้งสถาบันใหญ่และสถาบันย่อย โดยพบกับนักมวยที่มีชื่อเสียงระดับโลกหลายคน อาทิ ออสการ์ เดอ ลา โฮยา, ริคกี ฮัตตัน, แซบ จูดาห์, ฆวน มานูเอล มาร์เกซ, อาร์ตูโร กัตติ, ดีเอโก คอร์ราเรซ, มีเกล กอตโต, ซาอุล อัลบาเรซ, มาร์โกส ไมดานา,แมนนี ปาเกียว, -ซึ่งสามารถเอาชนะได้ทุกคน ไม่ว่าจะเป็นการชนะคะแนนหรือชนะน็อก ซึ่งเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ นั้นมีรูปแบบการชกที่ว่องไว การออกหมัดทำได้อย่างคมกริบและเฉียบขาด อีกทั้งเป็นนักมวยที่มีการชกแบบป้องกันตัวได้ดีอย่างมากด้วย จนได้รับฉายาว่า "พริตตีบอย" (Pretty Boy)
-ปัจจุบัน ได้รับการยกย่องจากนิตยสารเดอะริง ว่า เป็นนักมวยที่ดีสุดอันดับหนึ่งของโลกเมื่อเทียบกันปอนด์ต่อปอนด์ในยุคปัจจุบัน และได้รับการยกย่องให้เป็นนักมวยยอดเยี่ยมแห่งปีหลายต่อหลายครั้งจากสื่อหลายสำนัก
-นอกจากนี้แล้วในปี พ.ศ. 2551 ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยังเคยเข้าร่วมแข่งขันมวยปล้ำกับ บิ๊กโชว์ ยอดนักมวยปล้ำร่างยักษ์ในสังกัดดับเบิลยูดับเบิลยูอี (WWE) ด้วย ถึงแม้ว่าจะเป็นการแสดงก็ตาม
*ปัจจุบัน
-ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ มีประกาศว่าจะแขวนนวมหลายต่อหลายครั้ง โดยเคยหยุดชกไปนานถึง 2 ปีเต็ม แต่ท้ายที่สุดก็วกกลับมาชกมวยอีกครั้งจนได้ โดยสามารถเอาชนะคะแนน เชน มอสลีย์ นักมวยชาวอเมริกันด้วยกันไปได้ และในเดือนกันยายน พ.ศ. 2554 เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ก็เอาชนะทีเคโอยกที่ 4 วิคเตอร์ ออร์ติซ ไปได้ หลังจากชกเข้า 2 หมัดที่กรามในจังหวะที่ออร์ติชไม่ทันได้ระวังตัว หลังจากออร์ติชใช้ศีรษะโขกเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ จนกรรมการต้องจับทั้งคู่แยก และตัดคะแนนออร์ติช และออร์ติชไม่ทันได้ระวังตัว ทำให้ได้กลับมาได้แชมป์โลกของสภามวยโลก ในรุ่นซูเปอร์ไลท์เวทไปอีกครั้ง ซึ่งการชกในครั้งนี้เป็นการชกครั้งแรกของเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ หลังจากหยุดไปนาน 16 เดือนด้วยกัน ซึ่งเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ อ้างว่าโมโหที่ถูกกระทำผิดกติกาก่อน
-ในเดือนกันยายน พ.ศ. 2553 เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ตกเป็นข่าวอื้อฉาวว่าทำร้ายร่างกายอดีตแฟนสาว ท้ายที่สุดถูกศาลนครลาสเวกัสพิพากษาให้เข้าเรือนจำเป็นระยะเวลา 3 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนพฤษภาคม พ.ศ. 2555 - กันยายน ปีเดียวกัน
-นอกจากนี้แล้ว เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยังได้รับการจัดอันดับให้เป็นนักกีฬาที่ได้รับค่าตัวสูงสุดในปี พ.ศ. 2553 โดยทำรายได้ไปทั้งสิ้น 85 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 2,550 พันล้านบาท) ทั้ง ๆ ที่ชกเคลื่อนไหวไปแค่ 2 ครั้งเท่านั้น
(โดยทำรายได้เหนือกว่าไทเกอร์ วูดส์ นักกอล์ฟอาชีพลชาวอเมริกัน)
-ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ได้รับการทาบทามให้ชกกับ แมนนี ปาเกียว นักมวยซูเปอร์สตาร์อีกคนของวงการมวยโลกชาวฟิลิปปินส์ ซึ่งทั้งคู่ปรากฏข่าวคราวว่าจะได้ชกกันอยู่หลายครั้ง แต่ท้ายที่สุดก็ต้องคลาดแคล้วกันไปในที่สุด
-แต่ในที่สุด ทั้งคู่ก็ได้เซ็นสัญญาชกกันเป็นที่เรียบร้อย โดยกำหนดขึ้นในวันที่ 2 พฤษภาคม พ.ศ. 2558 ที่เอ็มจีเอ็มการ์เดนอารีนา ในนครลาสเวกัส สหรัฐอเมริกา โดยคาดว่าค่าตัวของทั้ง 2 น่าจะไม่น้อยกว่า 250 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 8,000 ล้านบาท) สำหรับ เมย์เวทเทอร์ จูเนียร์ จะได้รับส่วนแบ่งร้อยละ 60 ขณะที่ ปาเกียว จะยอมรับส่วนแบ่งที่น้อยกว่า คือ ร้อยละ 40 รวมทั้งยังมีรายได้สิทธิประโยชน์ด้านอื่นตามมาอีก เช่น ค่าลิขสิทธิ์การถ่ายทอดผ่านดาวเทียม
ผลการชก ปรากฏว่า ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เป็นฝ่ายดักชกอยู่วงนอก ขณะที่ปาเกียวเป็นฝ่ายเดินออกหมัดเข้าหา และสามารถไล่เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ พิงเชือกแล้วรัวหมัดได้ในยกที่ 6 และยกที่ 8 เมื่อครบ 12 ยก เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์เป็นฝ่ายเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ 118-110, 116-112 และ 116-112 โดยเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ยอมรับว่า แมนนี ปาเกียว เป็นคู่ชกที่แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่พบมา และได้ประกาศสละแชมป์ทั้งหมดที่ตนครองอยู่ในวันถัดมา เนื่องจากตั้งใจว่าจะชกอีกเพียงครั้งเดียวในเดือนกันยายนปีเดียวกัน ก็จะแขวนนวมไปในที่สุด แต่ก็พร้อมที่จะให้ปาเกียวแก้มืออีกครั้ง
- ต่อมา ทาง WBO ก็ได้ประกาศริบเข็มขัดแชมป์โลกรุ่นเวลเตอร์เวทของ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เนื่องจากไม่ยอมจ่ายค่าธรรมเนียมจัดการชกในครั้งนี้จำนวน 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 6,800,000 บาท
ต่อมา เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ประกาศว่าจะชกมวยเป็นครั้งสุดท้ายในวันที่ 12 กันยายน ปีเดียวกัน กับ อังเดร เบอร์โต นักมวยชาวอเมริกันเชื้อสายเฮติ ซึ่งหากสามารถเอาชนะในครั้งนี้ได้ ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ จะทำสถิติชนะรวดเทียบเท่า รอคกี มาร์ซีอาโน อดีตนักมวยผิวขาวชาวอเมริกันผู้เป็นตำนานในรุ่นเฮฟวี่เวทในอดีต คือ ชนะรวด 49 ครั้ง ซึ่งเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ก็สามารถเอาชนะคะแนนไปได้อย่างเป็นเอกฉันท์ และหลังการชกเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ก็ได้ยืนยันบนเวทีอีกครั้งว่านี่เป็นการชกครั้งสุดท้ายแล้วของตน
-โดยตลอดระยะเวลา 19 ปี ที่ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ชกนั้น ทำเงินรายได้รวมทั้งหมดกว่า 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 24,500 ล้านบาท) นับเป็นนักกีฬาที่ทำรายได้มากที่สุดของโลก มากกว่านักกีฬาระดับซูเปอร์สตาร์ในประเภทอื่นหลายคน เช่น ลิโอเนล เมสซิ หรือคริสเตียโน โรนัลโด
*เสียงวิพากษ์วิจารณ์
อย่างไรก็ตาม ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ เป็นนักมวยที่ได้รับการวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนักว่า เป็นนักมวยที่มีรูปแบบการชกที่น่าเบื่อ เนื่องจากเป็นมวยตั้งรับมากเกินไป จนหาไฟต์ที่ชกครบ 12 ยกแล้วเป็นที่ประทับใจของผู้ชมเมื่อเทียบกับยอดนักมวยของโลกหลายคนในอดีต อีกทั้งยังมีนิสัยชอบอวดความร่ำรวยของตัวเองจนน่าหมั่นไส้อีกด้วย
*เกียรติประวัติ
*มวยสากลสมัครเล่น
*มวยสากลอาชีพ
-แชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์เฟเธอร์เวท
ชิง , 3 ตุลาคม 2541 ชนะอาร์ทีดี เจนาโร เฮอร์นันเดซ ( สหรัฐ) ยก 8 ที่ โรงแรมเวสท์เกต ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 1 , 19 ธันวาคม 2541 ชนะทีเคโอ แองเจล แมนเฟรดี ( สหรัฐ) ยก 2 ที่ มิโคสุกิรีสอร์ท ไมแอมี รัฐฟลอริดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 2 , 17 กุมภาพันธ์ 2542 ชนะคะแนน การ์โลส ริโอส ( อาร์เจนตินา) ที่ แวน - แอนเดล อารีนา แกรนด์ราปิด รัฐมิชิแกน สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 3 , 22 พฤษภาคม 2542 ชนะทีเคโอ จัสติน จูโก ( ยูกันดา) ยก 9 ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 4 , 11 กันยายน 2542 ชนะอาร์ทีดี การ์โลส เฆเรนา ( ปวยร์โตรีโก) ยก 7 ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 5 , 18 มีนาคม 2543 ชนะคะแนน เกร์โฆริโอ บาร์กัส ( เม็กซิโก) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 6 , 20 มกราคม 2544 ชนะทีเคโอ ดิเอโก คอร์ราเลส ( สหรัฐ) ยก 10 ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 7 , 26 พฤษภาคม 2544 ชนะคะแนน คาร์ลอส เฮอร์นันเดซ ( สหรัฐ) ที่ แวน - แอนเดล อารีนา แกรนด์ราปิด รัฐมิชิแกน สหรัฐ สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 8 , 10 พฤศจิกายน 2544 ชนะอาร์ทีดี เฆซุส ชาเบซ ( เม็กซิโก) ยก 9 ที่ บิล เกรแฮม ซีวิกออดิทอร์เรียม ซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
-แชมป์โลก WBC และเดอะริง รุ่นไลท์เวท
ชิง , 7 ธันวาคม 2545 ชนะคะแนน โฆเซ ลุยส์ กัสติโย ( เม็กซิโก) ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 1 , 19 เมษายน 2546 ชนะคะแนน บิกตอริอาโน โซซา ( สาธารณรัฐโดมินิกัน) ที่ เซลแลนด์ อารีนา เฟรสโน รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 2 , 1 พฤศจิกายน 2546 ชนะทีเคโอ ฟิลิป นดู ( แอฟริกาใต้) ยก 7 ที่ แวน - แอนเดล อารีนา แกรนด์ราปิด รัฐมิชิแกน สหรัฐ
-แชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์ไลท์เวท
ชิง , 25 มิถุนายน 2548 ชนะอาร์ทีดี อาร์ตูโร กัตติ ( แคนาดา) ยก 6 ที่ บอร์ดวอล์กฮอล แอตแลนติกซิตี รัฐนิวเจอร์ซีย์ สหรัฐ
-แชมป์โลก IBF และ IBO รุ่นเวลเตอร์เวท
ชิง , 8 เมษายน 2549 ชนะคะแนน เชน มอสลีย์ ( สหรัฐ) ที่ โธมัสแอนด์แม็กอารีนา ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ (แชมป์ IBO ได้มาจากการชิงตำแหน่งที่ว่าง ต่อมาเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ สละแชมป์ IBF)
-ป้องกันครั้งที่ 1 และชิงแชมป์โลก WBC IBA และเดอะริงรุ่นเดียวกัน , 4 พฤศจิกายน 2549 ชนะคะแนน การ์โลส บัลโดมิอาร์ ( อาร์เจนตินา) ที่ แมนดะเลย์เบย์ ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ (ต่อมาเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ สละแชมป์ IBO , IBA)
-ป้องกันครั้งที่ 1 (WBC , เดอะริง) , 8 ธันวาคม 2550 ชนะทีเคโอ ริกกี แฮตตัน ( สหราชอาณาจักร) ยก 10 ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-แชมป์โลก WBC รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท
ชิง , 5 พฤษภาคม 2550 ชนะคะแนน ออสการ์ เดอ ลา โฮยา ( สหรัฐ) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-แชมป์โลก WBC รุ่นเวลเตอร์เวท (สมัยที่ 2)
ชิง , 17 กันยายน 2554 ชนะทีเคโอ วิกตอร์ ออร์ติซ ( สหรัฐ) ยก 4 ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 1 และชิงแชมป์เดอะริงรุ่นเดียวกัน , 4 พฤษภาคม 2556 ชนะคะแนน รอเบิร์ต เกอร์เรโร ( สหรัฐ) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 2 และชิงแชมป์โลก WBA (ซูเปอร์แชมป์) ในรุ่นเดียวกัน , 3 พฤษภาคม 2557 ชนะคะแนน มาร์โกส ไมดานา ( อาร์เจนตินา) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 3 (เป็นการป้องกันตำแหน่ง WBC และเดอะริง รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวทในเวลาเดียวกัน) , 13 กันยายน 2557 ชนะคะแนน มาร์โกส ไมดานา ( อาร์เจนตินา) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ (ต่อมาเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ สละแชมป์ WBC และเดอะริง รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท)
-ป้องกันครั้งที่ 4 และชิงแชมป์องค์กรมวยโลก WBO ในรุ่นเดียวกัน , 2 พฤษภาคม 2558 ชนะคะแนน แมนนี ปาเกียว ( ฟิลิปปินส์) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ (ต่อมาเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ ถูกปลดตำแหน่งแชมป์ WBO)
-ป้องกันครั้งที่ 6 , 12 กันยายน 2558 ชนะคะแนน อังเดร เบอร์โต ( สหรัฐ) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-แชมป์โลก WBA (ซูเปอร์แชมป์) รุ่นซูเปอร์เวลเตอร์เวท (สมัยที่ 2)
ชิง , 5 พฤษภาคม 2555 ชนะคะแนน มีเกล กอตโต ( ปวยร์โตรีโก) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ
-ป้องกันครั้งที่ 1 และชิงแชมป์สภามวยโลก (WBC) กับเดอะริง ในรุ่นเดียวกัน , 14 กันยายน 2556 ชนะคะแนน ซาอุล อัลบาเรซ ( เม็กซิโก) ที่ เอ็มจีเอ็มแกรนด์ลาสเวกัส ลาสเวกัส รัฐเนวาดา สหรัฐ (ต่อมาเมย์เวทเธอร์ จูเนียร์ สละแชมป์ WBA)
*"ฟลอยด์ เมย์เวทเธอร์ นักชกที่ไม่มีวันจน"