เวียงจันทน์และรถไฟ EMU : ทริปพิเศษสำหรับคนพิเศษ1


คุยกับพี่แอ๋วว่าเราน่าจะมีเวลาท่องเที่ยวกับพี่ๆ ที่จะเกษียณในกันยายนนี้ เป็นทริปที่ได้ท่องเที่ยวร่วมกัน โดยไม่มีเรื่องงานเข้ามายุ่งเกี่ยว  กับพี่ๆ กลุ่มนี้ถ้าได้ไปเที่ยวเป็นกลุ่มมักจะเป็นการไปราชการ  ไปสัมมนาของงองค์กร  แล้วเราลุกขึ้นมาจัดการการท่องเที่ยวโดยพี่แอ๋วเป็น Back Up อันดับแรกถามกันว่า ระหว่างไปเที่ยวปาย แม่ฮ่องสอน กับไปหลวงพระบางที่เกือบทุกคนเคยไปมาแล้วแต่คราวนี้เปิดประสบการณ์ในการเดินทางด้วยรถไฟความเร็วสูง  จะไปที่ไหนกันดี พี่แอร์กับพี่พิน เป็นคนที่ช่วยคลอดหมุดปลายทางว่า ไปหลวงพระบางดีกว่า เพราะโอกาสจะได้ไปด้วยกันนั้นหากเป็นหลังเกษียณแล้วดูท่าจะหาโอกาสร่วมกันยาก หลังจากปักหมุดได้แล้ว  กำหนดคร่าวๆ 4 วัน 3 คืนก็คลอดออกมา  ชักชวนเพื่อนๆ พี่ๆ น้องๆ ไปด้วยกัน

       ในฐานะผู้จัดจ้อน ฉันใช้วิธีเลือกซื้อทัวร์จาก “บ้านฮอลิเดย์ ทราเวล” เพราะจากข้อมูลเป็นห่วงเรื่องการหาตั๋วรถไฟไปกลับให้ได้ตรงตารางเวลาของเรา  ทริปเราได้สมาชิก 14 คนที่จะร่วมเดินทาง พี่อุ๊ พี่หมอนกะอาจารย์วีระสายบิ้วท์ พี่แอร์ พี่แอ๋ว พี่พินกับอาจารย์น้อยผู้พาสั่งเบียร์หลวงพระบาง พี่มุกกะพี่ยูร พี่พากะพี่เกษม ฟ้า พี่นาง เวลาสั้นๆ ที่สมาชิกทัวร์ต้องตระเตรียม Passport และ Vaccine Passport ของตนเองจะเป็นเล่ม หรือจะเป็นแบบ E-Vaccine Pass ก็ได้  กับทัวร์กลัวๆก็กลัวเพราะไม่เคยใช้บริการกันมาก่อน ทุกอย่างติดต่อกันทางออนไลน์ การติดต่อใช้แต่ชื่อเล่น คุณกาญ เซลล์ ขายทริปให้คุณตุ่น  555 บริษัททัวร์ถ้าไม่เข้าใจคงว่าฉันเรื่องเยอะ ก่อนโอนขอดูบัตรคนขาย  บัตรเจ้าของบัญชี  ก็โอนเงินเป็นแสนนี่คะ  รายหัว 12,000 และค่าทิปไกด์อีกคนละ 500 รวมเบ็ดเสร็จ 12,500 /หัว   

บางคนอาจจะว่าป้าได้ทริปแพง  จริงค่ะ ราคาต่ำกว่า 10,000 ก็มี  แต่อาจจะเป็น 3 วัน 2 คืน  เป็น Join trip หรือกำหนดขั้นต่ำของสมาชิกว่าไม่ต่ำกว่าเท่านั้นเท่านี้คน หรือเริ่มต้นทริปจากด่านหนองคาย  หรือบริษัทแม่อยู่ประเทศลาวซึ่งหากเกิดเหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ขึ้นอาจจะมีความยุ่งยากเรื่องการเคลม ทริปที่เราเลือกนี้เป็นการรวมรถตู้รับส่งที่ขอนแก่น และต้องขอชมรถตู้ที่ใช้ในหลวงพระบางก็โอ่อ่าดี  เห็นบางทริปเรียกรถตุ๊กๆ ให้ลูกทัวร์   อะไรๆก็ค่อนข้างดีนะคะ  แต่สำหรับทัวร์ต้องซ่อม 2 จุด คือ การเดินทางถ้ำติ่ง ที่ลงเรือจากท่าวัดเชียงทองล่องเรือเกือบ 2 ชม. บนเรือไม่มีอะไรให้กิน  จริงๆถ้าไกด์แนะนำให้เราแวะซื้อของลงไปกิน ทริปจะฟินมากกว่านี้ (จริงๆ ทางทัวร์เสนอมาทางวังเวียงมากกว่า  แต่สำหรับคนไปหลวงพระบางครั้งแรกควรจะได้ไปถ้ำติ่ง) และสำหรับทัวร์ผู้ที่ต้องการนอนหัวค่ำอาจจะต้องปรับเปลี่ยนเรื่องที่พักในวังเวียง หากต้องการความสงบควรจะอยู่ห่างจากซากุระบาร์ เพราะเสียงดังเกินตี 1 หากใครจะลอกทริปจะได้เป็นข้อมูลในการปรับโปรแกรม แจ้งทางทัวร์แล้ว ทัวร์ก็น่ารักรับข้อมูลไว้ในการปรับปรุง

มีเวลาเตรียมการ 3 สัปดาห์ กว่าจะออกทัวร์ได้ พี่ๆ 2 คนก็ติดโควิด น่าเสียดายอดไปด้วยกันเลย  ทริปนี้บางคนก็ไปเดี่ยว  บางคนก็เอาคนในครอบครัวไปด้วย  เป็นทริปอิสระ ฉันเองก็หนีบพี่สะใภ้ไปด้วย นับเป็นเวลาดีๆ  ฉันก็ลุ้นเชียวตรูอย่าเป็นโควิดนะ ถ้าเป็นก่อนออกทริปนี้เอาเงินคืนไม่ได้ และก็ลุ้นกลัวทัวร์เชิดเงินจนเมื่อรถตู้มาจอดรับหน้าบ้านแหล่ะ ถึงหายกังวล ทริปนี้ปรับมาจากโปรแกรมทัวร์ที่บริษัทจัดอยู่แล้ว ที่เริ่มเดินทางจากกทม. อาหาร 10 มื้อไม่รวมมื้อเช้าและมื้อเย็นวันเดินทาง ต้องหากินเอง รถรับตี 5.30  ส่ง  6  โมงเย็น รวมค่าที่พัก ค่าพาหนะระหว่างวัน  ค่ารถปั๊กกี้ในการไปชมน้ำตกตาดกวงสี  ค่าธรรมเนียมในการเข้าชมสถานที่ (พิพิธภัณฑ์ พระราชวัง  วัดเชียงทอง วัดวิชุน วัดพระแก้ว วัดสีสะเกด ค่าเข้าน้ำตกตาดกวงสี) ค่าล่องเรือไปถ้ำติ่ง  ค่าล่องเรือน้ำซองที่วังเวียง  และค่าข้าวเหนียวในการตักบาตรข้าวเหนียวที่หลวงพระบาง ค่าไกด์ ค่าคนบริการ  และได้พิเศษคือ การบายศรีสู่ขวัญ ที่เซลล์คุณกาญและไกด์น้องนัท จัดให้เป็นพิเศษ ที่สำคัญเราให้คนในทีมเราตรวจ ATK และคนของทัวร์ก็ต้องส่งผลตรวจ ATK ที่ตรวจไม่เกิน 24 ชั่วโมงให้กลุ่มด้วย…อุ่นใจไว้ค่ะ ป้องกันไว้ให้มากที่สุดแหล่ะ

จริงๆพวกเราไม่ต้องทิปไกด์หรือคนขับรถอีกก็ได้นะ  แต่พวกเราก็มีน้ำใจ  ทิปทุกคนที่กล่าวมา น้องๆขับเรือ ช่างฟ้อน น้องๆ ยกกระเป๋า และซื้อภาพเกือบทุกภาพที่คนขายภาพถ่ายรูปเรามาขาย จนเงินหมดกระเป๋าอ่ะ 

เราเดินทางด้วยรถตู้ 2 คัน  นั่งกันสบายๆ จอดกินข้าวที่ปั๊มน้ำมันก่อนจะข้ามด่านก่อน 9.30  น.  เพราะคนจะเยอะ เป็นช่วงหยุดวันแม่ และคนไทยก็เห่อไปเที่ยวลาวกันเหมือนกับอิป้านี่แหล่ะ ทริปเราไม่เอาทัวร์รีดเดอร์ ดังนั้น ไกด์จะอยู่รถคนที่ 1 แล้วก็สลับมาให้ความรู้กับรถคันที่ 2  พวกเราซื้อซิมอินเทอร์เน็ตลาว ใช้สำหรับการสื่อสารผ่านไลน์ และเล่นโซเชียล ราคา 200 บาท สัปดาห์ถัดมาป้าไปลาวเองซื้อได้ 100 บาท (ถึงจะแพงกว่าแต่เค้ามาบริการเปลี่ยนซิมที่รถเลย เหมาะกับทริปคนเยอะๆ  จะไม่ได้เสียเวลาขึ้นรถลงรถ)  

แม้ไม่มีทัวร์รีดเดอร์ แต่คนของบริษัทบ้านฮอลิเดย์ ทราเวลก็มาดูแลอำนวยความสะดวกในการผ่านตม. การแลกเงิน  การซื้อซิมเปลี่ยนซิม และดูแลระหว่างที่เราเที่ยวในเวียงจันทน์ และส่งเราเข้าสถานีรถไฟเพื่อไปหลวงพระบาง   

ไปกับทัวร์นี้ได้ลงสแกนนิ้วขาออกที่ตม.ไทย  ส่วนพิธีตรวจคนเข้าเมืองลาว ทางทัวร์จัดการให้หมด ผ่านตม.ลาวแล้ว ช่วงก่อนเที่ยงนี้จึงเป็นเวลาทัวร์เวียงจันทน์  เริ่มกันที่ประตูชัย และธาตุหลวง แม้หลายคนจะมากันแล้ว แต่กับคนใหม่ก็ทำให้"สมาชิกแด๊งส์ แด้งส์ ทัวร์" มีความสนุกสนาน   

หลายคนสนุกกับการซื้อรูปที่ช่างภาพถ่ายมาขาย (แม้บางรูปจะถ่ายไม่สวยเท่าเรา อิอิ) สนนราคาแผ่นละ 60 บาท ต่อ 2 แผ่น 100 ก็ไม่ได้ เพราะเป็นราคาสมาคม...ในความคิดเรานะ ถ้าเค้าลดให้ก็น่าจะได้ลูกค้าเยอะ  ให้ลูกค้าไปจับคู่มา ซื้อรูปคู่ลงท้ายด้วย 00 ซื้อรูปจำนวนคี่ลงท้ายด้วย 60 ประมาณนี้ จะไม่ได้เสียทรัพยากรทิ้ง  …ใครเป็น#1 ในการซื้อรูป…ยกมือขึ้นด่วยค่ะ

จากการพูดคุยกับคนขับรถตู้ไทย…มีเรื่องเล่าว่า คนไทยที่เอารถข้ามไปเที่ยวเอง  ไปที่ไหนๆก็ได้  แต่หากไปจอดที่สถานที่ท่องเที่ยว  แล้วไม่มีไกด์นำเที่ยว  อาจจะถูกจับได้  ซึ่งคนแจ้งจับก็เป็นคนที่มีส่วนได้ส่วนเสียในการท่องเที่ยว แต่คนลาวก็ไม่ได้ใจร้ายนะไม่ได้แจ้งจับง่ายๆ  ใครอยากจะเสี่ยงก็เสี่ยง  นักท่องเที่ยวที่ไปเที่ยวโดยรถเหมานี่ไม่เป็นไร มุมมองนี่เราเห็นว่าไม่แปลก  เป็นสิทธิ์ของเจ้าของประเทศ อาจจะเป็นเครื่องมือที่ช่วยจำกัดจำนวนนักท่องเที่ยว เสริมสร้างความยั่งยืนทางด้านศิลปะวัฒนธรรมและการท่องเที่ยว  และเป็นแหล่งรายได้ของคนในประเทศ  

Station ที่ 2 ของพวกเราคือธาตุหลวง หรือ พระเจดีย์โลกะจุฬามณี ศูนย์รวมแห่งศรัทธาของพี่น้องชาวลาว สำหรับธาตุหลวงมากี่ครั้งก็ยังงดงาม และการที่เรามาวันธรรมดาทำให้ธาตุหลวงมีความสงบเงียบ

ได้มีโอกาสทำบุญถวายทาน  บำรุงพุทธศาสนา อนุโมทนามายังครอบครัวมนิมนากร  วัฒนะ ทิวะสิงห์ วัชรกุล และกัลยาณมิตรทั้งหลาย

อาหารเที่ยงมื้อแรกที่ร้าน วังลาวดาวคำ สมาชิกทริปส่วนใหญ่ว่า อร่อย   สงสัยหิวกัน ถ้าหากเริ่มทริปด้วยความอร่อย  อะไรๆ ก็จะดีไปข้างหน้า (แอบดีใจแทนไกด์เลย)  มีเวลาพอให้เดินย่อยอาหารก่อนเดินทางไปสถานีรถไฟ  เดินไม่เดินเปล่า มีการเต้นบาสโลปฉลองการมาเยือนเวียงจันทน์ด้วย ....บอกแล้วทริปพิเศษของคนพิเศษ

อาหารที่ทัวร์จัดให้ก็อิ่มพอดี  เลือกร้านได้ดี มีช้อนกลางให้ครบทุกจาน หากต้องการเครื่องดื่มพิเศษก็ต้องสั่งเองจ่ายเอง  ตำต่างๆ ของลาวนี่นัวใช้ได้  มีหลายครั้งที่ถามกันว่าสั่งเพิ่มไหมคะ  ชอบมากกับตำแตงใส่มะอึก  ไม่เคยทานมาก่อน  เปรี้ยวกำลังดี

เราไปถึงสถานีรถไฟตอนบ่ายโมงกว่าๆ ใช้เวลารอรถออกนานเหมือนกัน เราได้เที่ยวบ่าย 3 เพราะคนโดยสารรถไฟเยอะมาก การตรวจคนเข้าสถานีเริ่มสแกนตั้งแต่ประตูทางเข้า  หากคนเยอะแถวจะยาวออกไปนอกอาคาร  มีชายคากันแดดนิดเดียว พอคนเยอะทริปเราช่วงที่เราไปเป็นหยุดวันแม่และฤดูฝนค่ะ มีสิทธิเจอแดด เจอฝนช่วงรอเข้าสถานี ไกด์จึงพาเราไปรอก่อนเวลาแก้ปัญหาคนขี้เห่อเหมือนฉันที่จะมาออกัน

ณ เดือน 8 ปี 2022 สถานีรถไฟความเร็วสูงเปิดบริการยังไม่ทันถึงปี สงสารตัวเอง พี่พา พี่มุกที่ตั้งใจมากินกาแฟระหว่างรอรถไฟ ร้านขายของในสถานียังไม่มีสักร้าน เราติดน้ำขวดเข้าไปดื่มได้ ห้องน้ำสะอาด  แต่แอบร้อนไปหน่อย เหมือนแอร์ทำงานไม่เต็มที่  ได้แต่ถ่ายรูปเล่น  สำหรับคนที่ต้องการกาแฟ เอากระบอกร้อนและกาแฟซองติดตัวมา ที่สถานีมีตู้กดน้ำร้อนนะคะ...ครั้งหน้ารับรองสำหรับเราได้กินกาแฟภายในสถานีแน่นอน รึขอออกไปซื้อนอกสถานีได้ที่จะภาพจะเห็นจอดรถเข็นขาย

บรรยากาศร้านขายของบริเวณรอบนอกของสถานีรถไฟ  คาดว่าคงสักพักจึงจะมีร้านอำนวยความสะดวกในตัวอาคาร

จนท.รถไฟเข็นรถจำหน่ายเครื่องดื่มบนรถไฟ มีน้ำอัดลมและน้ำแช่เย็น (ที่ดูเหมือนไม่เย็น) ดูแล้วคนลาวไม่ค่อยชอบความเย็นนักนะคะ ไม่ว่าจะเป็นแอร์ น้ำ น้ำแข็ง  สมัยก่อนน้ำแข็งนี่หายากเลย วัฒนธรรมความอยู่เป็นกับธรรมชาติ  คนไทยขี้ร้อนก็ใจร่มๆ ติดพัดมาบางก็ดีค่ะ บนรถมีปลั๊กอยู่ใต้เก้าอี้ให้ชาร์จแบตด้วย

รถไฟความเร็วสูง (ที่เราว่าไม่สูง) หรือรถไฟหัวจรวด  จนท.เค้าเรียกว่า  รถไฟ EMU ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ ก็ถึงสถานีหลวงพระบาง ประตูรถมี 2 ทางจึงเกิดอาการขึ้นไปแล้วออกันเพื่อรอสวนทางในการหาที่นั่งของตัวเอง โควิดยังติดกันง่ายก็แอบห่วงตัวเองจากเบียดเสียดกันเล็กน้อย

กระเป๋าต้องเก็บบนที่วางของเหนือศรีษะ  ไม่แนะนำให้เอาใบใหญ่ๆมานะคะ     วิวระหว่างทางสวยงามมากโดยเฉพาะช่วงที่ผ่านวังเวียงขึ้นไป  แล้วเราก็ได้สัมผัสฤดูฝน ถึงหลวงพระบางปุ๊บฝนรั่วปั๊บ

จากตัวสถานีต้องเดินข้ามถนนไปลานจอดรถที่ชั้นกราวด์ เค้ายังไม่อนุญาตให้รถรับส่งมาจอดเทียบ (ทั้งที่มีถนน) มีลิฟต์ Outdoor อยู่ 2 ตัว ระหว่างรอลิฟต์ก็ถ่ายรูปเล่นรอคิว ก็เพลินดี  โผล่ออกมาจากตัวอาคารฝนปรอย หมอกลอย ท่ามกลางภูเขาล้อมรอบก็รู้สึกดีนะ  แม้จะเปียกฝนก็เถอะ

จากสถานีหลวงพระบางเข้าเมืองค่อนข้างไกล  จึงควรนัดหมายรถล่วงหน้านะคะ เนื่องจากไปกับทัวร์เลยไม่แน่ใจว่าหากไปเองรถเข้าเมืองที่มีช่องทางไหนบ้าง จากการสอบถามรถตู้เค้าบอกเหมามารับ 1,000 บาท และถ้าพาเที่ยวในเขตเมืองหลวงพระบางด้วย 1,600 รวมน้ำมัน เห็นภาพการไปเที่ยวทริปของพี่ชายปรากฏในหลวงพระบางมีป้ายเวลารถประจำทางมารับส่งไปสถานีรถไฟ  คาดว่าจะมีรถประจำทางมาที่สถานีนะคะ ใครมีข้อมูลตรงนี้แชร์ไว้บ้าง 

เนื่องจากตอนนี้คนใช้รถไฟเยอะ การขึ้นลงรถไฟใช้ชานชาลลาเดียวกัน ดังนั้นคนลงรถไฟอย่าเสียเวลาโอ้เอ้ถ่ายรูปกันเยอะที่ชานชาลานะคะ เอาพอประมาณแล้วออกมาส่วนนอก เพื่อที่เค้าจะไปปล่อยผู้โดยสารที่จะขึ้นรถไฟออกมาที่ชานชาลา

วันกลับจากหลวงพระบางเราได้เที่ยวรถบ่าย 3 เราก็มารอตั้งแต่บ่ายโมง สถานีรถไฟแต่ละแห่งนี่เพดานสวยนะคะ ชมเพลิน นั่งว่างๆ ก็ชวนกันหาเล่น บางคนไปเต้นยืดเส้นในห้องน้ำ บางคนก็มาลากกระเป๋าเล่น

ขากลับเราจะลงกันที่วังเวียงค่ะ นอนวังเวียง 1 คืน นัดล่องเรือกับดินเนอร์ที่ร้านอาหารแบบ RoofTop ไว้ ตื่นเช้ารถตู้จากไทยก็มารับเวลา 8.00 น. รถพาขึ้นทางพิเศษ ประมาณ 1.30 ชม. เส้นทางก็วิวสวย เพลินตาดี แล้วฉันก็เห็นป้ายหินเหิบ…หินเหิบเมืองเฟืองอยู่ตรงนี้เองเหรอ…ปักหมุดๆไว้

รถตู้จอดรับบัตรผ่านทาง เลยขอดูหน่อย (กลับหัวซะงั้น) บัตรผ่านทางด่วนจากวังเวียงถึงเวียงจันทน์ ประมาณ 200 บาท

ถึงตัวเมืองเวียงจันทน์ เราเรียกร้องแวะกินกาแฟนกแก้วที่ปั๊มน้ำมัน เราไม่ได้แวะกินกาแฟที่ร้านชิคๆ ในหลวงพระบางเลย เพราะเวลาจำกัดและทั้งฝนตก ซึ่งทัวร์ก็จัดให้  ได้มีเวลากรอกข้อมูลผ่านด่านตม.กันที่นี่ ...เสียดายที่ไกด์ไม่ถนัดแนวร้านกาแฟ ทั้งที่มีเวลาและเวียงจันทน์มีร้านกาแฟสวยๆเยอะ…ทั้งนี้มันไม่ใช่ความผิดของไกด์หรอก มันไม่อยู่ในโปรแกรมทัวร์ แต่ถ้าไกด์รู้จักร้านกาแฟมันจะเป็นเสน่ห์ของทริปมาก  เพราะเราไปกลุ่มเฉพาะจำนวนคนไม่มากเท่าไหร่ ได้กาแฟแล้ว มาเก็บตกที่วัดพระแก้ว วัดสีสะเกด วัดแม่ศรีเมือง 

วัดพระแก้วถ่ายรูปได้เฉพาะด้านนอกโบสถ์นะคะ…เสน่ห์ของการท่องเที่ยวคือการพูดคุยกับผู้คนและชมบริบทระหว่างทาง

ข้ามถนนไปวัดสีสะเกด  ซึ่งบูรณะสีใหม่จากตอนที่เรามาเมื่อ10 ปีที่ผ่านมา…ทำให้ถ่ายรูปสวย  เสียแต่เรา---นั่งย่อไม่ได้ ทำให้ภาพยอดโบสถ์ขาดไป ภาพไม่สมบูรณ์  นี่ถ้าไม่ใช่เพราะพี่ๆ และรถไฟ EMU ก็คงไม่ได้ข้ามไป

เสน่ห์ของวัดสีสะเกด คือการถ่ายภาพผนังพระหมื่นองค์  ซึ่งมีทั้งในโบสถ์และระเบียงคต ภาพวาดฝาผนังมีความงดงาม

จุดสุดท้ายคือวัดแม่ศรีเมือง ที่นิยมบูชาด้วยต้นผึ้ง สมัยก่อนแถวหน้าวัดนี่มีขายมากมาย  สมัยนี้น้อยลง เปลี่ยนเป็นขันบักเบ็งแทน 

ฉันบูชาแม่ศรีเมืองกลับมาด้วย…ฉันนับถือท่านที่ความกล้าหาญ…แต่จริงๆคือได้ทำบุญสนับสนุนทุนบำรุงวัดและได้ของที่ระลึกกลับมาด้วย รุ่น 1 ด้วยนะ

ไหว้พระตามจุดไฮไลท์การท่องเที่ยวเสร็จ แล้วไปทานอาหารที่ร้านขอบใจเด้อ อยู่แถวๆย่านน้ำพุ ซึ่งเป็นย่านนักท่องเที่ยว ...ร้านสวยนะคะ  แต่ไฟดับ.....ไมเป็นงี้... 555 ไปเที่ยวยืดหยุ่นให้มาก...ไฟดับก็ดับจร้า ตรงข้ามร้านขอบใจเด้อเป็นร้านกาแฟชื่อดัง “โจมา”  Joma Bakery Café Nam Phou  ก็อดอีกเพราะไฟดับ 

กินอิ่มแล้วแล้วไกด์ก็พามาส่งออกด่าน  บริการเปลี่ยนซิมไทยคืนให้ แวะช้อบที่ดิวตี้ฟรี  ถึงเงินสดหมดแต่รูดบัตรได้ ที่ดิวตี้ฟรีรูดบัตรเครดิตชาร์จ 3%   ออกมายังอยากใช้เวลาของทัวร์ให้คุ้ม  แวะกันที่ร้านกาแฟสวยในหนองคาย The For Rest cafe ซึ่งต้องจ่ายเงินซื้อคูปองราคา 50 บาท และคูปองนั้นก็นำไปแลกซื้อเครื่องดื่มและของว่างได้  ก่อนที่รถตู้จะส่งกลับขอนแก่น

ขอบคุณทุกท่านที่มาเที่ยวด้วยกัน และมีความทรงจำดีๆ ร่วมกัน

เรายังมีเรื่องเล่าจากหลวงพระบางและวังเวียงมาฝากใน EP.ต่อๆ ไป  ท้าย Blog EP นี้ มีเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยในการเดินทางด้วยรถไฟที่เราแจ้งสมาชิกทริปมาแปะไว้ด้วยน๊า  จะยาวๆ หน่อย

Note……แปะไว้หน่อย ข้อมูลในการเดินทาง เผื่อเป็นประโยชน์ต่อผู้อื่น

--------------------------------------------------

-ผู้โดยสารต้องขนของขึ้นรถไฟเอง​ กระเป๋าเดินทางบางตู้ไม่ไห้วางไว้หน้าห้องน้ำ​ ต้องยกเก็บบนขั้นวางเหนือศีรษะ​ ดูกำลังตน​ ดูการซื้อของฝาก​ ดูกระเป๋าลูกให้เหมาะสมกับการยก การย้าย การใช้พท.

-ในอาคารผู้โดยสาร​ยังไม่มีร้านขายอาหารและเครื่องดื่ม​ มีเฉพาะตู้กดน้ำร้อน​ ติดตัวเข้า​ Gateมาได้เฉพาะน้ำดื่ม​ ไกด์บอกบางทีต้องเปิดดื่มให้จนท.ดู... นั่งรอรถนาน... ติดน้ำดื่มมาด้วย

-มารอรถไฟก่อนเวลา​ เผื่อเวลาคนรอเยอะ​ โดยเฉพาะรอสแกนกระเป๋า​ ที่นี่จะตรวจครั้งเดียวตรงประตูทางเข้า​ ถ้าคนเยอะแถวอาจจะออกไปนอกอาคาร​ มีโอกาสเจอความร้อนและฝนสาด

-เก็บตั๋วรถไฟให้ดี... ตรวจครั้งแรกตอนเข้าประตูอาคาร​ ตรวจอีกทีบนรถไฟ​ และตรวจตอนออก​จากสถานีรถไฟ​ ถ้าบัตรหายต้องจ่ายเท่ากับราคาซื้อใหม่​ พร้อมค่าปรับ

-เมื่อลงสถานีหลวงพระบาง​ เค้ายังไม่มีระบบให้รถมาจอดรับ​หน้าอาคารผู้โดยสาร ต้องลากกระเป๋าออกนอกอาคาร​ ข้ามถนนไปยังลิฟต์เอ้าท์ดอร์​ มีลิฟต์2​ตัวกับบรรได​ เพื่อไปลานจอด (ไปฤดูฝน​ ต้องใช้ร่มและเสื้อกันฝน) เปียกได้ทีเดียว

ลิฟต์ Outdoor ลงไปที่ลานจอดรถ

-มีข้อห้ามสิ่งที่นำขึ้นรถไฟ​ เช่น​ สเปรย์ทุกประเภท​ Lกอฮอล์75% ค้นดูเพิ่มเติมได้จากเน็ต​ หากไปหลวงพระบาง​ไปบ้านสร้างไหอยากเอาเหล้าต้มกลับมา​ เอาขวดเล็กไว้ในกระเป๋าใหญ่ก็ผ่านนะ ประเด็นนี้ยังถกเถียงกันไกด์ก็ไม่เคลียร์ว่า​ รถไฟห้ามดื่มLบนรถ​ แล้วห้ามเอามา?... อิป้าก็ลืมถามจนท.รถไฟ​ เพราะถ้าห้ามจริง​แล้วตรวจเจอต้องทิ้งหมด... ใครไปใหม่ถามให้ด้วยน๊า

-บนรถไฟมีน้ำเปล่ากับน้ำอัดรถกระป๋องขาย​ แช่เย็นแต่ไม่เย็น​ ขายโดยจนท.รถไฟ

-ห้องน้ำในสถานีเยอะ​ สะอาด​ อย่าลืมพกทิชชู่ด้วย​ บนรถไฟยังไม่ลองใช้

-เจลLล้างมือ​ ไกด์แนะนำให้ใข้ก่อนเข้าสถานีแล้วเก็บเข้ากระเป๋าใหญ่

-ดูหนังฟังเพลงจากมือถือ​โปรดใช้หูฟัง

-เส้นทางจากวังเวียงไป​ คนเห่อถ่ายภาพบนรถไฟ​กับบรรยากาศที่วิ่งผ่าน​ (ได้ยินแต่คนไทยในการจัดคู่ถ่ายรูป)​ โปรดระวังการรบกวนผู้โดยสารท่านอื่น

-จากวังเวียงไปหลวงพระบาง​ จะสลับเข้าอุโมงค์​32​ช่วง​ แสงสว่างสลับมืดอาจจะทำให้เวียนหัว​ และที่นั่งบนรถไฟเป็นหันหน้าหลังประกบกัน​ บางที่นั่งจะเป็นเหมือนนั่งรถถอยหลัง... ผู้ชอบเมารถโปรดพิจารณายาแก้เมารถ

-ขาออกและขาเข้าใช้ชานชาลาเดียวกัน​ดังนั้นเค้าจะเคลียร์คนลงรถไฟที่เป็นขาเข้าก่อน​ แล้วปล่อยคนจะขึ้นรถไฟมา... อย่าถ่ายรูปนานนะคะ​ มันกระทบต่อระบบของเค้า... เพิ่นสิเว่าได้ว่าคนไทยบ่ฮู้เรื่อง​ เหมือนเราไม่ชอบนักท่องเที่ยวบางชาติ

ข้อมูลการเดินทาง ณ ปี 2022

 

 

 

 

 

หมายเลขบันทึก: 706892เขียนเมื่อ 11 กันยายน 2022 12:42 น. ()แก้ไขเมื่อ 15 กันยายน 2022 16:44 น. ()สัญญาอนุญาต: สงวนสิทธิ์ทุกประการจำนวนที่อ่านจำนวนที่อ่าน:


ความเห็น (1)

จากข้อมูลของเพื่อนที่เวียงจันทน์ แจ้งว่า ช่วงกลางเดือน กย. 2565 หลังจากที่ทริปเรากลับมาประมาณ 1 เดือน สถานีเวียงจันทน์ก็เปิดร้านจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มภานในสถานีรถไฟ และตั๋วรถไฟก้จองได้ง่ายขึ้นเพราะระบุชื่อคนในตั๋ว คนที่ไปซื้อมาขายต่อก็กัีกตั๋วไม่ได้ ทำให้แต่ละวันมีตั๋วเหลือ และเปิดขายที่ห้างสรรพสินค้าอีก 1 ที่ ผู้โดยสารไม่ต้องไปซื้อตั๋วไกลถึงสถานี แต่ในความคิิดเรานะ…หากรัฐมีความสามารถก็เปิดขายที่ ตม. เวียงจันทน์-นค.ด้วย จะอำนวยความสะดวกให้นักท่องเที่ยวที่เดินทางผ่านไทยได้มาก

พบปัญหาการใช้งานกรุณาแจ้ง LINE ID @gotoknow
ClassStart
ระบบจัดการการเรียนการสอนผ่านอินเทอร์เน็ต
ทั้งเว็บทั้งแอปใช้งานฟรี
ClassStart Books
โครงการหนังสือจากคลาสสตาร์ท